28.8.53

Toy Story 3

ตั้งแต่เห็นตัวอย่างหนัง Toy Story 3 ก็ตั้งหน้าตั้งตารอ เพราะถึงจะโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว แต่เราก็เป็นแฟนหนัง Toy Story ค่ะ


หนังเข้าใจช่วงที่มีหนังน่าสนใจเข้าติดๆ กันหลายเรื่อง ทำเอาต้องจัดคิวดูหนังกันน่าดู ... กว่าจะหาเวลาดูหนังได้ หนังก็เกือบลาโรงแล้ว


เรื่องย่อ


เมื่อ วู๊ดดี้ บัซ และเหล่าแก๊งค์ของเล่น ตระหนักว่า แอนดี้ เจ้าของพวกเขากำลังโตเป็นผู้ใหญ จะต้องออกจากบ้านไปเรียนต่อมหาวิทยาลัย อนาคตของพวกเขาจะเป็นอย่างไรต่อ จะถูกทิ้ง ถูกบริจาค หรือถูกเก็บไว้จนฝุ่นเกาะ ... เรื่องราวความสนุกและการผจญภัยของแก๊งค์ของเล่นจึงเริ่มต้น


You've got a friend in me You've got a friend in me .................. หนังเปิดตัวด้วยเพลง Ost. ของหนังเรื่องนี้ที่คุ้นหู แล้วเหล่าของเล่นก็ลุกขึ้นมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง ... ยังคงคาแรคเตอร์น่ารัก ขำ ฮา กันเหมือนเดิม


แล้วยังมีบรรดาของเล่นตัวร้าย ตัวป่วน เพิ่มมาด้วย ... แต่ที่ชอบใจมากคือ แม่สาวบาร์บี้


กะไว้แล้วว่าภาคนี้คงเสียน้ำตาให้บรรดาของเล่นอีก เพราะ 2 ภาคที่ผ่านมาก็มีช่วงซึ้งให้น้ำตาหยด ... แล้วก็จริงดังคาด น้ำตาหยด ปนกับเสียงหัวเราะ และรอยยิ้ม


คุ้มค่าที่รอคอย และดั้นด้นตามหาโรงหนังที่ฉายจริงๆ ค่ะ ... ชอบมากกกกกกกกกกกก

22.8.53

7 DIVOs

Green Concert #13 : 7 DIVOs ... 7 นักร้องชายคุณภาพแห่งวงการเพลงไทย ส่งต่อความมรักให้กับผู้หญิงที่มีหัวใจพิเศษทั้ง 7


ครั้งแรกที่ได้ยินโฆษณาคอนเสิร์ทนี้ ชื่อที่ทำให้สนใจอยากไปดูก็คือ สหรัถ สังคปรีชา ... แต่เอ๊ะ เดี๋ยวก่อน คอนเสิร์ที่รวมนักร้องชาย 7 คน พี่ก้องก็จะได้ร้องเพลงแค่ช่วงเดียวเท่านั้น ควรจะไปดูมั้ยเนี่ย


ไหนๆ ขอฟังชื่อนักร้องที่เหลืออีก 6 คนก่อนซิ ... กบ ทรงสิทธิ์ ป๊อด โมเดิร์นด๊อก เบน ชลาทิศ ว่าน ธนกฤต อ๊อฟ ปองศักดิ์ ป๊อบ แคลลอรี่ส์ บลา บลา ... โอเค งั้นคุ้มค่าที่จะเสียตังค์ไปดูคอนเสิร์ทนี้ แม้จะไม่ค่อยปลื้มว่านเท่าไหร่ แต่ที่เหลือ สบายใจได้ว่าจะได้ฟังเพลงเพราะแน่ๆ


อีกเหตุผลที่ทำให้ตัดสินใจดูคอนเสิร์ทได้ง่ายขึ้นก็คือ เป็นคอนเสิร์ทการกุศล นำรายได้หลักหักค่าใช้จ่ายไปช่วยผู้หญิงหัวใจพิเศษ 7 คน ... จัดการจองบัตรทันที


วันอาทิตย์ 22 สิงหา ... รีบลนลานไปที่งาน กว่าจะหาที่จอดรถได้ ก็รีบไปหาอะไรหม่ำแบบด่วน เพราะจวนเจียนเวลาประตูเปิดตามที่ระบุในบัตร ... จัดการเบอเกอร์คิง ล้างปากด้วยฮอกไกโดซอฟท์ครีม แล้วรีบขึ้นไปหน้างาน


ผลคือ ประตูยังไม่เปิด ยังให้เดินเล่นเกม ช้อปปิ้ง และประมูลของอยู่ ... กว่าประตูจะเปิดก็ปาไปทุ่ม กว่าผู้ชมจะทยอยเข้า กว่าคอนเสิร์ทจะเริ่มได้ ก็สองทุ่ม ... ให้ตายเถอะ เมื่อไหร่คอนเสิร์ทจะเริ่มได้ตรงเวลาสักที


คอนเสิร์ทเริ่มด้วย 7 หนุ่ม ขึ้นมาร้องเพลงพร้อมกันในชุดสูทสีขาว+ดำ ... ทักทายผู้ชม แนะนำตัว พี่ก้องได้เสียงกรี๊ดสนั่นตลอด จากนั้นก็ผลัดกันโชว์ค่ะ เดี่ยวบ้าง คู่บ้าง กลุ่มบ้าง สลับกันไป


เก็บภาพมาได้บางส่วน นั่งอยู่ซ้ายสุดของช่วงกลางฮอลล์ เก็บภาพได้ไม่ชัดเท่าไหร่ คัดมาให้ดูบางส่วนเท่านั้นนะคะ ... รูป 1 พี่กบ เพลงขีดเส้นใต้ ... รูป 2 ป๊อบ กับ ปาฎิหารย์ที่รอคอย ... รูป 3 ว่าน กับ อารมณ์ดี ... รูป 4 เบน กับ อ๊อฟ กับ ตะวันยังมีให้เห็น ... รูป 5 พี่ป๊อด กับ ขอจันทร์


แต่ที่ทำให้ใจละลายได้มากที่สุด ก็ต้องยกให้คนนี้คนเดียว พี่ก้อง สหรัถ ... หล่อ เท่ห์ หน้าใสสู้ว่านได้สบาย และเป็นหนุ่มที่เรียกเสียงกรี๊ดจากสาวๆ ได้ลั่นฮอลล์ ตลอด ปรากฎตัวบนเวทีหรือบนจอเมื่อไหร่ ก็มีเสียงกรี๊ดตามมาทันที


ส่วนหนุ่มที่สร้างรอยยิ้มได้มากที่สุด ก็ต้องยกให้ ป๊อบ ค่ะ มุขเยอะ กระจาย ... แม้แต่ว่านที่ไม่ค่อยปลื้มนัก แต่พอจับคู่กับป๊อบ ก็ชวนกันตั้งคณะตลกได้เลย ... ทั้ง 7 หนุ่มมีมุข มีมุมน่ารัก น่าเอ็นดู ขำขันกันทั้งนั้น เป็นคอนเสิร์ทที่ดูไป ยิ้มไป ขำไป ปาดน้ำตากันไป


หลากอารมณ์มากค่ะ สนุก ซึ้ง ฮา ประทับใจ สลับกันไปมาตลอดเวลาราวๆ 4 ชั่วโมง ... ได้ฟังเพลงเพราะๆ เต็มอิ่ม ได้ดูโชว์ดีดี โปรดัคชั่นสวยๆ นับว่าเป็นคอนเสิร์ทที่ดีและคุ้มค่ามากกกกกกกกกก


จบคอนเสิร์ทแล้ว ก็กะว่าจะกลับทันที แม้จะรู้ว่าศิลปินทั้ง 7 จะออกมาแจกลายเซ็น เพราะคิดว่าคงต้องเสียเวลารอนาน ... แต่เพราะมีผู้ชมบางส่วนทยอยกลับก่อน ตั้งแต่คอนเสิร์ทยังไม่จบดี พอเราออกมาก็เจอแถวที่กำลังรอเข้าคิวขอลายเซ็นบางส่วน


เห็นคนยังเข้าคิวไม่ยาวมาก หันไปบอกคนดี ว่าขอสักหน่อยเหอะนะ เพราะรีบไปก็ไปติดกับขบวนรถ ขบวนคนอยู่ดี ... คนดีก็ตามใจ เราก็ปราดไปเข้าแถวต่อคิวรอลายเซ็นพี่ก้องทันที


เราหยิบเสื้อยืดที่ออกแบบโดยพี่ก้อง มาเตรียมขอลายเซ็น ส่วนคนดีก็จัดการให้ถือซีดีเพลง 7 DIVOs เอาไว้ ... เราหยิบไอโฟน ส่วนกล้องส่งให้คนดีรับไปดูแล


ตอนแรกกะว่าจะขอถ่ายรูปคู่ พอใกล้จะถึงคิว เห็นหน้าพี่ก้อง มือสั่นขึ้นมาทันที ... พอถึงคิวตัวเอง เจอะพี่ก้องเงยหน้ามารับเสื้อ แล้วส่งยิ้มมาให้ ใจละลายยยยยยยย มือสั่นหนักกว่าเดิม ถ่ายรูปไม่ชัด ... รับเสื้อกลับมาพร้อมกับยิ้มแก้มเต่ง เดินเอาเสื้อปิดหน้า


ส่วนผลงานในกล้องที่ฝากคนดีไว้ ภาพก็ออกมาไม่ชัดเท่าไหร่ แต่ไม่เป็นไรค่ะ เพราะรอยยิ้มยังติดตราตรึงใจ ทำเอาเพ้อเจ้อมาได้หลายวัน


เดินกลับขึ้นรถแบบใจอิ่ม ใจฟู แฮปปี้มีความสุขสุดๆ ... เป็นคอนเสิร์ทที่ประทับใจมาก มากขนาดที่ว่าถ้าออกเป็นแผ่นก็จะซื้อเก็บไว้


ฝากคลิป จากคุณ TheNoohNid ไว้ให้ค่ะ ... เมื่อพี่ก้อง กับ พี่ป๊อด เจอกันในเพลง บุษบา เป็นเพลงที่มันส์ที่สุด


20.8.53

กวน มึน โฮ

และแล้วหนังรักของ GTH ก็ลงโรงอีกเรื่องแล้ว ... เราซึ่งจัดตัวเองเป็นแฟนหนังรักของค่ายนี้จะพลาดได้อย่างไร


ตอนแรกตั้งใจจะไปดู Toy Story 3 ... แต่ว่า 19-22 สิงหา ลูกค้าเอไอเอส ได้ใช้สิทธิซื้อตั๋วในราคา 60 บาท เพราะฉะนั้นสลับคิวมาดู กวน มึน โฮ : Hello Stranger ก่อนแล้วกัน


เรื่องย่อ


เขาและเธอ ชายหญิงแปลกหน้าที่ดันต้องมาจูงมือกันเที่ยวในนครแห่งความโรแมนติค ... เขาและเธอ คนสองคนที่ไม่รู้จัก แต่เที่ยวด้วยกัน กินพร้อมกัน นอนห้องเดียวกัน คุยกันได้ทุกเรื่อง แลกความลับที่สุดในชีวิตซึ่งกันและกัน ... เขาและเธอ คนแปลกหน้าที่รู้ใจกันดีที่สุด ... เขาและเธอ คนสองคนที่ไม่รู้จัก แต่รักกัน


เค้าให้นิยามว่า เป็นหนังแนว โฮแมนติค กวนมิดี้ ... เพราะไม่ได้มีแค่ รักโรแมนติค และมุขฮาๆ แต่เต็มไปด้วยเรื่องกวนๆ ที่สามารถเรียกน้ำตาได้


เริ่มต้นหนังดูแล้วหมั่นไส้พระเอกเหลือเกิน ว่าจะกวนอะไรนักหนา แต่เพราะความกวนนี่หล่ะค่ะ ที่ทำให้มีเรื่องฮาๆ ตามมา ... แล้วพระเอกกวน กับ นางเอกมึน ก็ช่วยกันเรียกเสียงหัวเราะ รอยยิ้ม และน้ำตาปริ่มๆ ได้จริงๆ ค่ะ


เป็นหนังรักที่สนุกอีกเรื่อง พอหนังจบเราหันไปบอกคนดีเลยว่า "ชอบอ่ะ" ... ชอบทั้งเนื้อเรื่อง และพระเอก นางเอก เลือกมาได้พอเหมาะลงตัวดีจริงๆ


ลึกๆ แอบประทับใจน้องหนูนา เพราะเคยได้ยลฝีมือของน้องจากละครเวทีบัลลังก์เมฆ ... ครั้งนั้นปลื้มมากกับเสียงร้อง ส่วนครั้งนี้ก็ปลื้มกับฝีมือการแสดง


จัดเป็นหนังรักที่ประทับใจ และคาดว่าเมื่อออกเป็นแผ่นก็คงจะซื้อเก็บไว้ ... ถ้าใครเป็นแฟนหนังรักของ GTH ไม่ควรพลาดค่ะ

15.8.53

: 101 เดือน :

วันที่ 15 อีกแล้ว เดือนนึงผ่านไปรวดเร็วจริงๆ ... อายุความรักเขยิบขึ้นมาอีก 1 แล้ว


โชคดีที่มีวันหยุดต่อเนื่อง เลยได้ตะลอนอยู่ด้วยกัน 2-3 วันแล้ว ... วันนี้ของเดือนนี้ไม่มีอะไรพิเศษ ไม่ได้เจอกัน คนดีมีภารกิจตะลอนทัวร์บุญกับที่บ้าน ... ส่วนเราเฝ้าบ้าน เพราะฝนตกพรำๆ ฟ้าครึ้มตลอดวัน นอนหลับสบาย


จริงๆ เกือบลืมไปแล้วด้วยว่าวันนี้พิเศษตรงไหน หยุดหลายวัน ทำเอาลืมวันกันเลยทีเดียว ... ดี ที่เหลือบเห็นปฎิทินเลยนึกขึ้นได้ เลยคว้ามือถือกดส่ง sms ... รอไม่นานก็มี sms ตอบกลับมา


เท่านี้แหละ พอแล้ว ... เล็กๆ น้อยๆ นิดๆ หน่อยๆ แต่มาประจำสม่ำเสมอ เท่านี้ก็พอแล้วค่ะ


คนดีขา รักกันไปเรื่อยๆ นะคะ ... รักคนดีค่ะ

14.8.53

ไหว้พระ เที่ยวพิพิธภัณฑ์

ทริปนี้เกิดจากแนะนำให้กุนซือประจำตัวไปไหว้พระที่วัดชนะฯ กับ วัดบวรฯ ... แต่พี่เค้าไปไม่ถูก ไม่ถนัดเส้นทางแถวนั้น ... งั้นได้เลย จัดให้


รวบรวมสมาชิกได้ 5 ชีวิต เรา คนดี พี่จุ๊บ พี่โอ๋ เพื่อนฝน นัดเจอกันที่หน้าออฟฟิศเหมือนเดิม ... จอดรถทิ้งไว้ แล้วไปคันเดียวกัน ประหยัดน้ำมัน และครื้นเครงดี


ออกเดินทาง 9 โมงนิดๆ จากแรกตั้งใจไว้จะแวะไหว้พระ 2 วัด แต่ดูจากเวลาแล้วเหลือเฟือ ... เราเลยเพิ่ม วัดเบญจมพิตร เข้ามาในโปรแกรมเป็นจุดหมายแรก


แล้วไปต่อที่ วัดชนะสงคราม เพราะอยาก "มีชัยชนะต่ออุปสรรคทั้งปวง" ค่ะ ... ไหว้รูปเคารพกรมพระราชวังบวรมหาสุรสีหนาทที่ด้านหน้า แล้วเข้าไปถวายสังฆทานด้านใน กราบพระประธาน


เคลื่อนขบวนไปอีกนิดก็ถึง วัดบวรนิเวศวิหาร เพราะเค้าว่ากันว่ามาไหว้พระที่นี่แล้วจะ "พบแต่สิ่งดีงามในชีวิต" ค่ะ ... ไหว้พระในโบสถ์ ไหว้พระไพรีพินาศ กราบหลวงพ่อดำ เสี่ยงเซียมซี ตลอดเวลามีฝนตกพรำๆ เหมือนเทวดีพรมน้ำมนต์ให้ตลอดค่ะ


นอกจากโบสถ์ เจดีย์ วิหาร ภายในวัดบวรฯ จะงดงามแล้ว ... อาคารคณะต่างๆ ของพระสงฆ์ก็ยังคงรักษาสถาปัตยกรรมแบบเดิมๆ ไว้ ได้อย่างสวยงามค่ะ เดินดู เดินชม แล้วเพลินตา เพลินใจ


ไหว้พระครบตามโปรแกรมแล้ว ก็ได้เวลาอร่อยค่ะ ... แม้สมาชิกจะยังไม่ทันหิว แต่เราก็ไม่มีทางเลือกอื่นให้ พาไป ร้านครัวอัปษร ทันทีค่ะ


ไปถึงเร็ว ลูกค้ายังไม่เยอะ สั่งอาหารมาลุยกันได้ทันทีทันใจ ... เนื้อปูผัดพริกเหลือง เนื้อปูชิ้นโตเต็มคำ อร่อย ... ผัดสะตอกุ้งสด สมาชิกตักกันหนุบหนับ ... ไข่ฟูปู ไข่เจียวเนื้อหนานุ่ม ... ปีกไก่ทอด ทอดกรอบทานเพลิน ... ผัดดอกขจรหมูสับ อร่อยค่ะ ... แกงเขียวหวานลูกชิ้นปลากราย ลูกชิ้นหนึบ ยอดมะพร้าวอร่อย ... สมาชิกที่บอกยังไม่หิว แต่ก็ตักกันหนุบหนับ หม่ำกันเกลี้ยงงงงง


อิ่มอร่อยแล้วก็ได้เวลาเที่ยวกันต่อค่ะ ... ตรงไป มิวเซียมสยาม หรือ สถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ มาดูนิทรรศการถาวร "เรียงความประเทศไทย" ค่ะ


เพราะที่นี่นำเสนอเนื้อหาต่างๆ แบบ Interactive ทำให้ผู้ชมได้เรียนรู้ด้วยตัวเอง จับได้ เล่นได้ ... ผู้ใหญ่อย่างเราๆ เลยได้ปลุกความเป็นเด็กในตัวขึ้นมา เดินดูนิทรรศการกันอย่างเพลิดเพลินค่ะ


ใช้เวลาในมิวเซียมสยามไปราวๆ 2 ชั่วโมง ก็สำรวจครบทุกห้อง ออกมาซื้อของที่ระลึกเรียบร้อย ... ได้เวลาเติมพลังอีกรอบแล้วค่ะ


ไม่ใกล้ไม่ใกล้ ชวนกันไปที่ ร้านโรตีหน้าเพาะช่าง ค่ะ ... สั่ง ก๋วยเตี๋ยวหลอด มารองท้องระหว่างรอ สักพัก โรตีกรอบ ก็ตามมาสมทบ อิ่มสบายท้อง


ย้อนกลับมาขึ้นรถที่จอดไว้ที่่มิวเซียมสยาม เป็นอันว่าจบทริปของวันนี้เรียบร้อยค่ะ ... แวะส่งเพื่อนฝนระหว่างทางให้ไปธุระต่อ ส่วนสมาชิกที่เหลือกลับมาจุดเริ่มต้น


ทีแรกจะแยกย้ายกันขึ้นรถ แต่ไหนๆ รวมตัวกันแล้ว ก็ต่อกันให้ยาวจนครบวัน ... เลยนั่งเม้าท์กันรอเวลามื้อเย็น ก่อนจะชวนกันไปปิดทริปอย่างเป็นทางการกันที่ร้าน ซ้ง ตรงเสนาค่ะ


กินข้าวไปเม้าท์กันไป เพลิดเพลินจนค่ำ ถึงได้เวลาแยกย้าย ... ปิดทริป 1 วันง่ายๆ แบบจริงๆ แล้วค่ะ

12.8.53

Step Up 3

วันแรกของวันหยุดต่อเนื่องช่วงวันแม่ และยังมีหนังที่อยากดูเข้าคิวอยู่ เพราะฉะนั้นจะมีอะไรดีไปกว่าไปดูหนังหล่ะค่ะ


เรากับคนดีแยกย้ายกันไปทำธุระ ทางใครทางมัน แล้วค่อยมานัดเจอกันอีกที ... ราวๆ เที่ยง เราก็จัดการธุระของเราเสร็จเรียบร้อย กลับบ้านมารอคนดีที่กำลังปฎิบัติภารกิจอยู่


ระหว่างรอคนดีมารับ ก็จัดการเช็ครอบฉาย และจองตั๋ว วันนี้เลือก Step Up 3 : สเต็ปโดนใจ หัวใจโดนเธอ 3 ... เกือบๆ หกโมง คนดีก็วนรถมารับ มุ่งหน้าไปเอสพละนาดโรงหนังใกล้บ้าน


ตอนแรกกะจะไป sf ลาดพร้าวค่ะ แต่ที่นั่นมีแต่โรง 3D ซึ่งราคาตั๋วกระฉูด ไม่เอาดีกว่า ... พอดีที่เอสพละนาดมีโรงฉายปกติ


เรื่องย่อ


มูส นักเต้นที่มีพรสวรรค์จากภาคที่แล้ว มุ่งหน้ามานิวยอร์คเพื่อศึกษาต่อ ... เขาพบกับ ลุค หัวหน้าทีมเต้น House of pirate และได้รับชักชวนให้เข้าร่วมทีม เพื่อเตรียมแข่งขัน World Jam การแข่งขันเต้นที่มีทีมนักเต้นจากทั่วโลก มาช่วงชิงเงินรางวัล ... ซึ่งทีมคู่แข่งสำคัญ House of Samurai ก็ร่วมลงแข่งด้วย


ที่อยากดูหนังเรื่องนี้ เพราะเป็นแฟนรายการ So you think you can dance แล้วมีนักเต้นจากรายการนี้มาร่วมแสดงอยู่ด้วย ... ดูแล้วก็ผิดหวังนิดหน่อย เพราะมีบทบาทไม่มากนัก


ช่วงที่โชว์เต้น ตื่นตาตื่นใจ ดูมัน ดูเพลินค่ะ ... แต่ส่วนเรื่องบท เรื่องพล็อตนั้น ดูเหมือนพร่องๆ หายๆ ไปนิด ... โดยรวมก็ดูได้เพลินๆ แต่ดูก็ได้ ไม่ดูก็ได้ค่ะ ดีใจมากกกกกก ที่ไม่ได้ดูแบบ 3D

11.8.53

Salt

เว้นวรรคไม่ได้เข้าโรงหนังมาพักใหญ่ ... มาช่วงนี้มีหนังที่น่าสนใจอยากดูทยอยเข้าพร้อมกันหลายเรื่อง ตายละวา ต้องจัดคิวตามเก็บให้ครบ


เริ่มที่เรื่องแรก Salt : สวยสังหาร ... เหตุผลหลักที่ตัดสินใจดู ก็เพราะ แองเจลิน่า โจลี่ นี่หล่ะค่ะ เพราะผู้หญิงคนนี้สวยถูกใจเหลือเกิน ผู้หญิงอาไร้ อยู่เฉยๆ ก็ดูเซ็กซี่ ... เหตุผลรองก็เพราะชอบหนังแอ๊คชั่น ... เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ พลาดไม่ได้


เรื่องย่อ : เอเวอลีน ซอลต์ สายลับสาวที่ฝีมือเยี่ยมจัดเป็นสายลับระดับต้นๆ ... แต่แท้ที่จริงแล้วเธอเป็นใครกันแน่


เป็นหนังแอ๊คชั่นที่ตัวละครนำเป็นผู้หญิง ที่ทั้งอึด และมีฝีมือในการต่อสู้ยอดเยี่ยม ... ฉายเดี่ยว ลุยดะ แต่เพียงลำพัง ออกจะดูเก่งกล้าสามารถเกินไปนิด แต่ก็ดูเพลินทำให้ลืมๆ ว่าเกินจริงสักนิดไปได้


ตอนฉายหนังตัวอย่างและโฆษณา เราของีบหลับไปหน่อย เพราะง่วงงุนขึ้นมา ยังหวั่นๆ ว่าจะเผลอหลับระหว่างเรื่องอีกรึเปล่า ... แต่พอหนังเริ่มฉาย ก็ตื่นเต้น ตื่นตา ตื่นใจ หนังดูตาใสแป๋วแหววได้จนจบเรื่อง ชอบมาก


พอหนังจบ คนนั่งข้างๆ ทั้งซ้ายและขวา ทั้งคนดีและน้องฝน หันมาบอกเราพร้อมๆ กันว่า "ต้องมีภาคสองแน่ๆ เลย" ... ก็ต้องติดตามดูกันต่อไปว่าจะมีภาคสองรึเปล่า ถ้ามีก็ไม่พลาดแน่นอนค่ะ

7.8.53

ทริปของคนดี

ทริปนี้เกิดขึ้นเพราะคนดี และเพื่อคนดีจริงๆ ค่ะ เพราะทริปนี้คนดี สบ๊าย สบาย


ที่มาของทริปมาจากการบ้านที่คนดีได้รับมาจากพี่หมอดูว่าให้ไป ไหว้พระ สวดมนต์ ที่วัดบางกุ้ง อัมพวา ... ใกล้ๆ แค่นี้ สบายมาก เคยไปกันมาแล้วด้วย พอหาวันว่างได้ก็ล็อคคิว สอบถามสมาชิกว่ามีใครสนใจจะร่วมขบวนกันบ้าง


นัดสมาชิกได้ นัดเวลาเรียบร้อย เจอกันเช้าวันเสาร์หน้าออฟฟิศ แต่ ..............................


คืนวันศุกร์ คนดีมีเข้าติดตั้งงานให้ลูกค้าอีกแล้ววววว ... ติดตั้งงานที่เซ็นทรัลพระราม 3 จากที่คิดว่าแป๊บเดียวน่าจะเสร็จ ก็กลายเป็นกว่าจะเสร็จก็จวนจะเช้า อีกแล้ววววววว ... ซึ่งหมายความว่า คนดีไม่ได้นอนทั้งคืนอีกตามเคย


เรา คนดี พี่จุ๊บ เจอกันที่หน้าออฟฟิศตามเวลานัดหมาย ... วนไปรับน้องฝนที่ตื่นสายหน่อยแถวบ้าน แล้วก็มุ่งหน้ายาวไปจุดหมายค่ะ ... แต่คนดีที่อดนอนมาทั้งคืน แค่ลงทางด่วน เข้าพระราม 2 ได้ไม่เท่าไหร่ คนก็ขอสละตำแหน่งคนขับ ส่งให้พี่จุ๊บรับช่วงต่อ แล้วย้ายไปนั่งหลับอืดดดดอยู่ด้านหลังแทน


ถึงที่หมายวัดบางกุ้งอย่างรวดเร็ว คนดีไหว้พระ สวดมนต์ หน้าหลวงพ่อนิลมณี โบสถ์ปรกโพธิ์ วัดบางกุ้ง ... ตั้งใจว่ามาเร็ว มาแต่เช้า คนจะได้ไม่เยอะมาก ปรากฏว่าเจอขบวนรถทัวร์ทยอยเข้ามา 4-5 คัน พวกเราเลยชวนกันเคลื่อนที่หลบฝูงชน


ออกจากวัดบางกุ้งมาไม่ไกล ก็มาถึง ตลาดน้ำบางน้อย ... ตลาดน้ำบรรยากาศดี สงบ สบาย เพราะคนยังไม่พลุกพล่าน บรรยากาศโดยรวมก็คล้ายกับอัมพวาค่ะ แต่ที่นี่คนยังไม่เยอะเท่า ร้านรวงก็ยังไม่มากมายละลานตาเท่า แต่สงบ สบายดีจัง


เดินชมตลาดไปเรื่อย ก็เจอป้่ายโฆษณา ชวนชิม โรตีแต้จิ๋ว บอกว่ามีที่เดียวที่ตลาดน้ำบางน้อยนี้เท่านั้น ... บอกว่าอยู่ไม่ไกล งั้นก็ลองเดินไปดูสักหน่อย ... แป๊บเดียวก็ถึงค่ะ


โรตีแต้จิ๋ว เป็นโรตีแบบหวาน ที่ใช้แป้งข้าวเหนียวมาทำแป้ง ส่วนไส้เป็น ถั่วลิสงคั่ว น้ำตาลทรายแดง และ งาขาว ค่ะ ... แป้งนุ่ม ส่วนไส้หวานๆ มันๆ ถั่วลิสงคั่วใหม่ๆ หอม กรอบกรุบ อร่อยดีค่ะ ... 3 ชิ้น 20 บาท ทานกับชาจีนที่ทางร้านมีให้ อร่อยดีค่ะ


รองท้องด้วยของหวานสักนิดแล้ว ก็ออกเดินทางไปลุยกันต่อ ... มุ่งหน้าไป ตลาดน้ำอัมพวา กะว่าจะแวะไปซื้อของ ไปเดินเล่นสักแป๊บนึง ไปตั้งแต่ยังไม่เที่ยงดีคนคงไม่เยอะ ... ที่ไหนได้ รถทัวร์ของเด็กนักเรียนที่มาทัศนศึกษาขบวนใหญ่ แล้วยังมีนักท่องเที่ยวอีกเยอะ ร้านรวงทั้งหลายเปิดขายกันคึกคักแล้ว


อะไรกันนี่ จากตลาดน้ำยามเย็น ค่อยๆ เปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ คนแน่นตั้งแต่ยังไม่เที่ยง ... คุณพระช่วย คิดถึงบรรยากาศตลาดน้ำอัมพวาแบบเดิมจัง ... แวะพักดื่มน้ำ กินปังโอวัลติน ที่ร้านกาญจนาพานิช คลายร้อนแล้ว ก็เดินเบียดคนซื้อของครบถ้วนอย่างที่ตั้งใจ ฝนก็เทลงมาพอดีค่ะ


พวกเราเลยเคลื่อนที่เร็วไปขึ้นรถ แล้วตรงไปอีกจุดหมายหลักของวันนี้ดีกว่า ... ร้านเรือนปลาทู ... ร้านย้ายจากที่เดิมตรงใกล้ดอนหอยหลอด กระเถิบมาอีกหน่อย มาอยู่แถวบ้านลาดใหญ่ บรรยากาศต่างไปจากเดิมนิดหน่อย ร้านกว้างขวางขึ้น แต่ยังไม่มีชุดโต๊ะเก้าอี้แบบญี่ปุ่น แบบนั่งพื้นเหมือนที่เดิม ... ส่วนอาหาร อร่อยเหมือนเดิมค่ะ


แกงส้มปูไข่หน่อไม้ดอง ยังรสเด็ดเหมือนเดิม ... หอยหลอดผัดฉ่า ถึงเครื่อง ... ปลาทูซาเตี๊ยะ น้ำราดรสชาติใช้ได้แต่รู้สึกว่าใสไปนิดนึง ... หมึกทอดกระเทียม เคี้ยวเพลิน ... น้ำพริกปูไข่ วันนี้เปรี้ยวโดดไปนิด ... หอยหลอดทอดกระเทียม หนึบๆ กรุบๆ เคี้ยวเล่นเพลินๆ


อิ่มแล้วก็นั่งเม้าท์เมามัน คุยกันเพลิน จนเริ่มเย็น ก็ยกขบวนกลับ ... ปิดทริปง่ายๆ สบายๆ ไม่เหนื่อย ไม่เพลีย ... โดยเฉพาะคนดี สบายมาก เพราะยกหน้าที่ขับรถให้พี่จุ๊บรับยาวววววววว ตั้งแต่เริ่มต้นจนกลับ


ป.ล. ขอบคุณพี่จุ๊บนะคะที่ช่วยขับรถให้ตลอดทริป ถึงที่หมายรวดเร็วว่องไวกว่าคนดีขับเยอะเลยค่า

5.8.53

อ้อนวอนขอสีผม

ครั้งแรกที่ทำให้เราสองคนได้รู้จัก พี่หนึ่ง ก็เพราะเราทั้งคู่อยากทำสีผม ... น้องในออฟฟิศเป็นลูกค้าประจำของพี่หนึ่ง แอบดูผลงานทั้งการซอยและทำสีแล้ว ฝีมือเข้าตา น่าไปลองฝีมือพี่เค้าสักหน่อย


ไปลองแล้วก็ไม่ผิดหวังค่ะ ... นับตั้งแต่นั้นก็เป็นลูกค้าประจำมาตลอด ซอย ดัด ยืด ทำสี ทรีทเม้นท์ ให้จัดการดูแลได้อย่างสบายใจ


แต่เป็นการมาใช้บริการแบบไม่ปกติเหมือนการเข้าร้านทำผมทั่วไปนะคะ ... เริ่มจากต้องโทรนัดคิว จองคิวก่อน เพราะลูกค้าเยอะ เดินดุ่มๆ เข้าไปอาจจะเก้อ


ไปถึงร้านแจ้งความจำนง พี่เค้าก็จะทำพิธีการประจำ คือ พิจารณาผม ... จับผม เช็คสภาพผม ว่าจะทำอะไรยังไงได้บ้าง ... ร้านนี้ไม่ใช่มีตังค์แล้วจะทำได้นะคะ ถ้าช่างไม่อนุมัติก็อดไปตามระเบียบ


ผมเราผ่านการทำสี ดัด ทำสี จนช่วงนึงสภาพผมแย่จนเกินจะเยียวยาไหว แม้จะทำทรีทเม้นท์ก็ช่วยได้เพียงนิดหน่อย ... ช่างสรุปว่า สภาพผมไม่ถูกกับเคมีประเภทนี้ๆๆ เป็นอันรู้จักกันแล้ว งั้นตัดทิ้ง ยืด เลี้ยงให้ยาว


ช่างไม่ยอมทำเคมีอะไรเพิ่ม นอกจากทำทรีทเม้นท์ และยืด ซึ่งก็เว้นช่วงยืดผมนานนนนนนน ... เราเองเบื่อผมสีดำเข้มๆ ของตัวเอง มาทีไรก็แย๊บขอทำสีผมทุกที แต่ก็ไม่เคยได้รับอนุมัติ ปล่อยให้เลี้ยงผมและรักษาสภาพผมไปเรื่อยๆ


ระยะหลังสภาพผมดีขึ้น ช่างเอ่ยปากทักแล้วเปรยว่าไม่อยากทำเคมีอะไรให้เลย ... โอ๊ยตายแล้ว ... ล่าสุดนัดไปทำทรีทเม้นท์ แต่ก็ไม่วายลองขอแย๊บทำสีผมสักหน่อย


พี่หนึ่งเลยจับไปนั่งเก้าอี้ แล้วทำพิธีการเช็คผม ก่อนจะเปรยว่า "สภาพผมดีขึ้นไม่อยากทำอะไรให้เลย ... เอ้า เดี๋ยวทำโลว์ไลท์ให้หน่อยแล้วกัน" ... เย้ เย้ โย่ว


"แต่พี่จะเลือกสีน้ำตาลธรราติ สว่างขึ้นนิดนึงแค่นั้นนะ ไม่ทำเยอะเดี๋ยวจะดูเป็นผมเสียไป" ... ค่า ได้ค่า ยังไงก็ได้ค่า ขอให้ผมไม่ดำเข้มอย่างเดิมก็โอเคแล้วค่ะ


จากนั้นก็เริ่มลงมือ ผู้ช่วยช่างมาจัดการดึงผม ลงสี ทิ้งไว้จนครบเวลา ... ล้างสีออก แล้วก็ทำทรีทเม้นท์ 2 ขั้นตอน ก็ได้ผมสีน้ำตาลเรื่อๆ นุ่มๆ


ระหว่างที่ผู้ช่วยช่างลงทรีทเม้นท์ก็ถามเราว่า "วันนี้ซอยด้วยมั้ยคะ" ... "เอ่อ ต้องถามพี่หนึ่งดูหล่ะค่ะว่ายังไง"


คำตอบที่ได้คือ "ไม่ ความยาวกำลังดี ปล่อยไว้แบบนี้แหละ" ... นั่นไง นึกไว้แล้ว


เอาเถอะค่ะ ไม่ซอยก็ไม่เป็นไร อย่างน้อยวันนี้ก็ได้ทำสีผมสักที จากที่อ้อนขอมาหลายรอบ ขอมาเกือบปี ได้ทำสักนิดก็โอเคแล้วค่ะ ... ช่างร้านนี้ ไม่ใช่มีตังค์แล้วจะทำได้นะคะ เฮ้ออออ มาทีไร ลุ้นทุกที

2.8.53

Gizmo : หัวใจสลาย

อย่างที่บอกว่า กิซโม่ รักมีลำดับ ... อันดับ 1 ในหัวใจดวงน้อยๆ ของชิวาว่าตัวจิ๋ว ก็คือ หม่ามี้


ที่กิซโม่รักมี้มากที่สุดก็เพราะเวลาที่มี้มากรุงเทพฯ อยู่บ้าน มี้จะนั่งทำนั่นนู่นนี่ อ่านหนังสือ ดูทีวี คุยโทรศัพท์ หรือทำงานอดิเรกเล็กๆ น้อยๆ อยู่ในห้องตลอด ... โม่ก็จะมานั่งประกบ ประจบ ออเซาะอยู่ข้างๆ


ถึงแม้โม่จะถูกปล่อยให้อยู่ตัวเดียวเพียงลำพังในห้องมี้ได้ แต่จริงๆ แล้ว การที่มีคนอยู่ให้ได้ออเซาะ ก็อุ่นใจกว่าเยอะ


ถ้ามี้ขึ้นไปดาดฟ้า ไปซักผ้า ไปตกแต่งต้นไม้ มี้ก็จะพาโม่ขึ้นไปด้วย ... โม่ไปวิ่งเล่น เดินสำรวจมุมนั้นมุมนี้ เมื่อยแล้ว ก็มานั่งออเซาะ ส่งตาหวาน มี้ก็จะหาผ้ามาปูรองให้โม่นอนรอ


ในเมื่อมี้ใจดี ป้อนขนมอยู่เรื่อยๆ ลูบ เกา นวดให้ประจำ แล้วยังให้นั่งออเซาะ ซุกตัวอยู่ด้วยทั้งวัน ไปไหนก็พาโม่ไปด้วย ... แบบนี้โม่จะไม่รักมี้ที่สุดได้ยังไง


แต่มี้ก็มีเวรที่ต้องลงไปดูแลคุณยายสลับกับคุณพิไล เพราะฉะนั้นจะมีบางช่วงที่มี้จะหายหน้าหายตาไป ... ช่วงนั้นโม่ก็ยึดพ่อเป็นที่หนึ่งในดวงใจแทน


ล่าสุดหลังจากมี้ไปอยู่ดูแลคุณยาย 5-6 เดือน มี้ก็กลับขึ้นมาเมื่อต้นเดือนกรกฎา ... แต่มารอบนี้อยู่แค่เดือนเดียวก็ต้องกลับลงไป เพราะคุณพิไลมีนัดรักษารากฟันต่อเนื่อง


จากที่กิซโม่เพิ่งเจอหน้ามี้ได้ไม่นาน มี้ก็จะหายหน้าไปอีกแล้ว พอใกล้วันมี้เดินทาง โม่ก็ค่อยๆ จ๋อยลงเรื่อยๆ ... วันเดินทาง มี้เดินเก็บของจัดกระเป๋า โม่ก็เดินตามต้อยๆ ตลอด มี้แต่งตัวโม่ก็มานั่งตาปรอยมองไม่ให้คลาดสายตา


พอมี้จะไป ก็ร่ำลาโม่เรียบร้อย ก่อนจะให้ขนมแท่งไปนอนแทะเล่น เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ ... ก่อนจะแวบออกไป


ผลปรากฎว่า พอขนมหมด โม่ก็นึกขึ้นได้ว่ามี้ไม่อยู่แล้ว ... เท่านั้นแหละค่ะ หมาน้อยก็จ๋อยสนิท นอนนิ่งซึมกระทือ กลอกตาไปมา


ไม่ได้แค่จ๋อยอย่างเดียว แต่งอนด้วยค่ะ และคนที่หมาโม่งอนก็คือพ่อ เพราะพ่อเป็นคนพาแม่หายไป ... พ่อพาไปจูงเดินเล่นก็ไปนะคะ แต่พอกลับเข้าบ้าน พ่อส่งขนมให้เหมือนเคย แต่โม่ไม่กินค่ะ คาบแล้ววางทิ้งไว้ ก่อนจะนอนหันหลังให้พ่อ นอนซึมกระทือ เบื่อโลก


เรากลับถึงบ้าน พ่อรายงานอาการให้ฟัง ได้ยินแล้วทั้งขำ ทั้งสงสาร ทั้งหมั่นไส้ ... เพราะหมาโม่หันมาพิศวาทเรา ฉอเลาะ ออเซาะสุดๆ ตามขึ้นมาวิ่งเล่นในห้อง แต่ก็ยังไม่ยอมกินขนมนะคะ ยังทำซึมต่อ


หัวใจดวงน้อยๆ ของหมาโม่สลายเพราะคิดถึงแม่เหลือเกิน

1.8.53

Gizmo : รักมีลำดับ

จากที่กิซโม่ย้ายสำมะโนครัว ไปเป็นลูกมี้กับพ่อ กิซโม่ก็ทุ่มเทหัวใจดวงน้อยให้ ให้มี้กับพ่อเต็มที่ ... แต่เป็นการทุ่มเทแบบไม่ธรรมดาค่ะ


ไม่ธรรมดาเพราะว่ากิซโม่ไม่ได้รักทุกคนเท่ากันนะคะ กิซโม่รักแบบมีลำดับค่ะ ... ใครจะไปเชื่อว่า หมาตัวน้อยๆ จะมีจัดลำดับความสำคัญด้วย แต่ก็เป็นไปแล้ว และเห็นได้ชัดๆ ค่ะ


คนที่หมาโม่คุ้นเคยในชีวิตของหมาตัวน้อยๆ ก็มี เรา คนดี หม่ามี้ พ่อ เจ้าน้องชาย และคุณพิไล ... แต่ลำดับความรักที่หมาโม่มีให้นั้น เริ่มจาก มี้ พ่อ คนดี เจ้าน้องชาย คุณพิไล และ เรา ตกอยู่อันดับท้ายสุด


รักมี้มากสุด เพราะเวลามี้อยู่บ้าน จะอยู่ในห้อง โม่จะวนเวียนมาออเซาะ ฉอเลาะได้ตลอด และที่สำคัญมี้ตามใจมากกกกกก


รักพ่อรองลงมา เพราะพ่อจะพาเดินเล่นเป็นประจำ จากเดินเล่นเช้า-เย็น วันเสาร์-อาทิตย์ ก็มีเพิ่มเดินเล่นรอบเย็นวันธรรมดาด้วย


รักคนดี เพราะไม่ได้เจอกันทุกวัน 2-3 วัน เจอกันที แต่เจอทีไรคนดีก็นวดให้ประจำ


รักเจ้าน้องชาย เพราะไปนอนเป็นเพื่อนเวลามี้ไม่อยู่ แล้วก็ชอบเล่นด้วย


รักคุณพิไล เพราะคุณพิไลชอบแอบให้ชิมขนม ชิมอาหารนั่นนี่ และที่สำคัญคือต้มกระดูกอ่อนให้หมาโม่แทะประจำ


ส่วนเราซึ่งเป็นเจ้าของที่แท้จริงนั้น หมาโม่รักน้อยที่สุด ... เพราะทั้งจับอาบน้ำ เช็ดหู ตัดเล็บ หยอดยา จับไปหาหมอ แล้วยังชอบแกล้งบ่อยที่สุด


แน่ใจได้ยังไงว่ากิซโม่รักแบบมีลำดับ ... ก็หมาโม่แสดงท่าทีให้เห็นชัดๆ เวลาเจอแต่ละคน ท่าทีไม่เหมือนกันนะคะ


ช่วงที่มี้ไม่อยู่ ไปดูแลคุณยายที่นครฯ โม่ก็จะรักพ่อมากเป็นพิเศษ แค่ได้ยินเสียงพ่อเปิดประตูบ้านก็หูตั้งแล้ว จะรอพ่อมารับไปเดินเล่น ... ก่อนนอนก็จะวิ่งเล่นกับพ่อบนเตียงพักนึง พอพ่อหลับโม่ก็จะเดินเข้าไปนอนในกระเป๋า ... เช้าตอนพ่อตื่น แต่งตัวไปทำงาน โม่จะลืมตามามองตาปรอย เดินมาส่งตาหวานฉอเลาะขอขนม


แต่ถ้ามี้กลับมา พ่อที่เคยเป็นอันดับหนึ่ง ก็จะตกอันดับทันทีค่ะ ... โม่จะเดินตามมี้ต้อยๆๆๆ มี้ไปไหน โม่ไปด้วย นั่งตรงไหน โม่จะไปนั่งเบียดอยู่ข้างๆ ให้มี้ลูบ เกา เอาหัวซุก นี่แหละสุขที่สุดแล้ว ... พอมี้บอก "รักแม่รึยัง" โม่ก็จะยื่นหน้าไปเลียคางทันที


ก่อนเข้านอน ก็จะขึ้นไปเล่นกับพ่อบนเตียง เล่นจนหนำใจ ค่อยกลับลงมาออเซาะมี้ต่อ รอจนกว่ามี้จะเข้านอน โม่ถึงจะนอน ถ้ามี้ไม่นอน โม่ก็จะเฝ้าอยู่จนกว่าจะดับไฟ ... แล้วที่นอนของโม่ก็คือ ช่องว่างระหว่างหัวเตียงกับหมอนของมี้ ถ้าคืนไหนอากาศหนาวโม่ก็จะเดินมาซุกนอนอยู่ข้างตัวมี้ ... เช้าที่เคยตื่นมาส่งตาปรอยให้พ่อก่อนไปทำงาน ก็จะกลายเป็นหลับปุ๋ยนิ่งสนิทไม่ใยดีใดๆ ทั้งสิ้น


แล้วถ้ามีคนอยู่พร้อมหน้าหลายคน โม่ก็จะเลือกไปอยู่กับคนที่โปรดปรานก่อน ... พ่อชอบพาโม่แวะมาทักเราที่ห้อง พอเปิดประตูห้องให้ โม่จะวิ่งผ่านหน้าเราไปโดยไม่ทักทาย วิ่งไปเกาะขอบเตียงชะเง้อดูก่อนว่าคนดีนอนอยู่รึเปล่า ถ้าเห็นก็จะโดดเหยงๆ รอให้คนดีอุ้มขึ้นไปเล่น ไปเกา ... แต่ถ้าไม่เห็น ก็จะวิ่งย้อนกลับมา ผ่านหน้าเราไปโดยไม่ทักทายใดๆ ตรงออกไปหาพ่อที่รอยู่


แหม แหม แหม มันน่าซื้ออาหารเม็ด ซื้อขนมแท่งให้กินมั้ยเนี่ย เมินคนออกค่าข้าวค่าขนมซะขนาดนี้ ... มันน่าปล่อยให้อดซะ


แต่ไม่ใช่โม่จะไม่รักเราเลยนะคะ ... รักค่าาาาา ถ้าไม่มีใครอยู่บ้านแล้ว ก็จะรักเรามากขึ้นกระทันหัน เวลาเดินไปหน้าห้องมี้ เปิดประตูห้องปุ๊บ โม่จะวิ่งหน้าเริ่ดมาโดดขึ้นตักเราเลย ... แต่ถ้ามี้หรือพ่ออยู่ ไปยืนเรียกอยู่ 8-9 รอบ ไม่มีขยับตัวมาหรอกค่ะ จนเดินเข้าไปหาก็ยังนิ่ง แค่กระดิกหางทักทายเท่านั้น


ถ้าไม่เจอหน้ากัน 2-3 วัน เจอกันก็จะดี๊ด๊า ตื่นเต้นดีใจ ... แต่ถ้าเห็นกันทุกวัน ก็ทำเมิน เฉยๆ เบื่อๆ ... ใครจะไปคิดว่าหมาตัวนิดเดียวจะเรื่องเยอะขนาดนี้


หัวใจดวงเล็กๆ ของหมาตัวน้อยๆ แจกจ่ายความรักให้คนตัวโตๆ อย่างทั่วถึงนะคะ ... แต่รักมากรักน้อย รักไม่เท่ากันค่ะ