1.5.57

รื้อฟื้นความจำ ..... First Time in Japan #3 (จบ)

วานซืน  กับ เมื่อวาน เดินต้อยๆ ตามไกด์เที่ยวกับทัวร์ แต่วันนี้เป็นฟรีเดย์ ที่เราจะได้เที่ยวเอง

Day 4 : 24 ธ.ค. 56 ... จริงๆ ทัวร์ก็มีโปรแกรมเที่ยว 1 วันให้ซื้อเพิ่มนะคะ แต่เราตั้งใจจะเที่ยวเอง จะได้ทดลองใช้รถไฟในญี่ปุ่นที่เขาว่ากันว่าเครือข่ายโยงใยซับซ้อนนุงนัง เก็บประสบการณ์ เก็บข้อมูล ทำความคุ้นเคยไว้ก่อน เผื่อโอกาสหน้ามาเที่ยวเองจะได้ไม่ตื่น

จากที่ไกด์พาลองขึ้นรถไฟเมื่อวานนิดนึง กับข้อมูลที่ศึกษามาล่วงหน้า พร้อมกับแผนการเที่ยวเอง 1 วันคร่าวๆ เราก็พร้อมลุยแล้วค่ะ ... ตื่นช้ากว่าเวลาทัวร์นัดปกติสักหน่อย ลงมาจัดการมื้อเช้าพอรองท้องสักนิด ก็ออกเดินทางกันเลยค่ะ

เดินไปสถานี Ikebukuro ขนาดได้เดินผ่านสถานีรถไฟมาแล้วเมื่อวาน แต่วันนี้พอเข้ามาก็ทำเอางง เพราะคนเยอะ ป้ายแยะ ... เหลียวซ้ายแลขวาหาตู้ซื้อตั๋วรถไฟอยู่พักใหญ่ ไม่ไหวหล่ะ ไปถามดีกว่า ... เจ้าหน้าที่หนุ่มน้อยน่ารักชี้ทางให้ เดินไปเจอที่หมายก็แจ้งความต้องการกับเจ้าหน้าที่สาวน้อยน่ารักอีกคน ที่ช่วยกุลีกุจอพาไปตู้แล้วช่วยกดซื้อบัตรให้


ได้มาแล้วค่ะ Tokunai Pass เป็นตั๋วรถ 1 วัน ที่ใช้ใน 23 เขตของโตเกียว ใช้ได้กับรถไฟของ JR เท่านั้นนะคะ ... แต่เราสองคนปักหลักว่าจะใช้กับสาย JR Yamanote Line เป็นหลักค่ะ ขบวนรถไฟสีเขียวอย่างในภาพ และวิ่งวนเป็นวงกลมซึ่งผ่านสถานีหลักๆ ของโตเกียวตามแผนที่เราจะไปอยู่แล้วค่ะ

เริ่มต้นไปที่ Ueno ก่อนเลยค่ะ ...เป้าหมายคือเดินตลาดและชิมอาหาร ไม่ได้กะไว้ว่าจะใช้เวลาแต่ละที่เท่าไหร่ เดินไปเรื่อยๆ เหนื่อยก็พัก ไม่ถูกใจก็ย้าย เพราะฉะนั้น เติมพลังกันก่อนดีกว่าค่ะ


Kaisen Don ที่มีคนแนะนำไว้ในพันทิพ เดินมาเจอก็แวะชิมซะเลย ... กำลังยืนดูเมนูหน้าร้าน คุณป้าจากในร้านเดินออกมาทักทาย เปิดประตูต้อนรับชี้ชวนเข้าร้านเลย ... จำชื่อเมนูไม่ได้แล้วว่าคืออะไร แต่อร่อยค่ะ และ 2 ชามนี้ราคา 1500 เยน พอดีเป๊ะ อิ่ม อร่อย ปลื้มปริ่ม

เติมพลังพร้อมแล้ว ก็ออกเดินเล่นชมตลาดย่อยอาหารดีกว่าค่ะ จะได้เตรียมท้องให้พร้อมสำหรับมื้อต่อไป


ตลาด Ameyoko ที่นักท่องเที่ยวไทยคุ้นเคยดี นับว่าถูกจริตกับเราสองคนมากค่ะ มีทั้งอาหารสด เสื้อผ้า รองเท้า เดินเข้าร้านนั้นออกร้านนี้ไปเพลินๆ เลาะเรื่อยไปจนถึงตึกม่วง เข้าไปเบียดคุณลุงคุณป้าชาวญี่ปุ่นที่กำลังจับจ่าย ... คนอื่นคงไปเดินดูเครื่องสำอาง ข้าวของเครื่องใช้ แต่เราสองคนกวาดขนมกันเต็มตะกร้า อันนู้นก็น่าชิม อันนี้ก็น่าลอง สนใจอันไหนก็หยิบ หิ้วกันพะรุงพะรังจนหนัก ไม่ไหวแล้ว พักดีกว่า


อีก 1 ร้านที่ได้ข้อมูลจากพันทิพ ซูชิจานเวียนที่หน้าล้นจนมองไม่เห็นข้าว ... ไม่รู้หรอกค่ะว่าหยิบอะไรมาบ้าง แต่ที่หยิบมาก็อร่อยทุกอย่าง ที่ประทับใจที่สุดเป็นหน้า Salmon-Ikura ที่สั่งเชฟไป แล้วเชฟส่งมาพร้อมกับพูดว่า Merry Christmas ... หูยยยย ซูชิหน้าล้น แต่งมาน่ารัก อิ่มอกอิ่มใจ มีแรงลุยต่อ

นั่งรถไฟกลับมา Ikebukuro ค่ะ เอาของที่หอบหิ้วมาเก็บ แล้วออกไปเดินต่อ เดินดูร้านค้าในห้างติดโรงแรม และร้านค้าระหว่างทางไปสถานี จริงๆ แค่นี้ก็เดินได้เป็นวันแล้วนะคะ เพราะมีสารพัด แต่ที่ถูกใจมากที่สุดยกให้ Tokyu Hands ทั้งเครื่องเขียน ของเล่น ของใช้สารพัด หลงเข้ามาแล้วแทบจะไม่อยากไปที่อื่นต่อ

ตัดใจเดินไปสถานีจับรถไฟไป Harajuku ค่ะ แม้จะเลยวัยทีนมาแล้ว แต่ก็ต้องไปสำรวจตลาด ดูบรรยากาศสักหน่อยค่ะ 


คุณเจ้านายเห็นคนยุ่บยั่บแบบนี้แล้วแทบถอดใจค่ะ ... คนเยอะ แต่เดินไปได้เรื่อยๆ นะคะ สินค้ากุ๊กกิ๊กน่ารักเยอะแยะ แต่ขอแค่โฉบดูนิดหน่อยพอค่ะ หมวดเสื้อผ้านี่ขอผ่านไปเลย เพราะคงไม่ใช่แนว แต่พอเจอของกินนี่จอดแวะทันที เขาว่ากันว่าเครปที่นี่อร่อย ก็ซื้อชิมสักอัน ... มันก็โอเคนะคะ แต่ชอบเครปแบนๆ กรอบๆ แบบบ้านเรามากกว่าค่ะ

เดินเลาะไปจนถึง Omotesando ค่ะ ตั้งใจจะมาดูไฟ แต่พอเห็นร้าน Kiddy Land ก็อดไม่ได้ที่จะขอแวะสักนิด แม้เป็นผู้ใหญ่แล้วแต่แพ้ของเล่นค่ะ  


ชื่นใจกับของเล่นแล้ว ก็มาชื่นชมไฟ อย่างที่ตั้งใจค่ะ ... ไฟดวงเล็กๆ ที่ประดับระยิบระยับบนต้นไม้ตลอดแนวถนน สร้างความสดใส และเข้ากับบรรยากาศช่วงเทศกาลจริงๆ ค่ะ 

แผนต่อไปคือ แวะไปชิบูย่า แล้วไปดูไฟที่สถานีโตเกียว ต่อ ... แต่คุณเจ้านายบ่นเมื่อยแล้ว พอฟังแผนเที่ยวของเราถึงกับหน้าเซียวหมดเรี่ยวแรงจะเดิน เลยต้องนั่งคุยปรับแผนกันใหม่ ย้อนกลับไปเดินหาซื้อของฝากแถวโรงแรมดีกว่า


หาราเม็งร้อนๆ เพิ่มพลังตอนอากาศเย็นๆ ... ร้านชื่ออะไรก็ไม่รู้ค่ะ เมนูชื่ออะไรก็จำไม่ได้  มีพนักงานมาช่วยแนะนำการกดตู้ซื้อคูปอง ชามขาวของคุณเจ้านาย ชามแดงของเรา รสชาติน้ำซุปต่างกันค่ะ ของเราข้นกว่า แต่ก็อร่อยทั้ง 2 ชามนะคะ ซดกันเกลี้ยง ลุยเดินซื้อของกันต่อทั้งร้านขนม ร้านขายยา ร้านเสื้อ ยันซุปเปอร์มาร์เก็ต 24 ชม. ข้างโรงแรม เดินกันจน 5 ทุ่ม

ลากขากลับขึ้นห้องพัก รื้อของ รื้อถุง วางเกลื่อนห้อง แล้วค่อยมาแพ็คลงกระเป๋า ... ดูของแล้วกลุ้มใจ สารพัดขนมและของกินทั้งหลายแหล่ ทั้งซื้อฝาก ทั้งซื้อกินเอง กระจายแพ็คลงกระเป๋า 2 ใบใหญ่ 1 ใบเล็ก แต่ก็ยังไม่หมด พรุ่งนี้ค่อยไปแพ็คลงกล่องกระดาษเพิ่มแล้วกัน เข้านอนดีกว่า ไกด์นัดแต่เช้า

Day 5 : 25 ธ.ค. 56 ... ตื่นอาบน้ำอย่างรวดเร็ว หอบหิ้วสัมภาระ มารอห้องอาหารเปิด จะได้รีบกินรีบจัดของต่อ


จริงๆ มีอาหารเช้าแบบฝรั่งให้เลือกตักนะคะ แต่มาญี่ปุ่น เลือกตักข้าวแกงกะหรี่ + สลัด ดีกว่า อิ่มกำลังเหมาะ ก็ออกไปจัดขนมที่เหลือแพ็คลงกล่องให้เรียบร้อย ... ข้อดีของการมาเที่ยวกับทัวร์คือ มีคนช่วยจัดการดูแลข้าวของให้ค่ะ ซื้อของได้เต็มที่ มีคนช่วยยก ช่วยเฉลี่ยน้ำหนัก

ลูกทัวร์พร้อมหน้าพร้อมตา ก็เดินทางต่อค่ะ มาโตเกียว แล้วจะไม่แวะ วัด Sensoji หรือ วัดอาซากุสะที่คนไทยคุ้นเคยได้ยังไงคะ


ล้างมือ บ้วนปาก ตามธรรมเนียมก่อนเข้าวัด จุดธูป กวักควันธูปเข้าตัว เข้าไปไหว้พระ โยนเหรียญอธิษฐาน ตามสูตรเสร็จเรียบร้อย ก็ปรี่ออกไปร้านค้าหน้าวัดเลยค่ะ ... ร้านขายของที่ระลึกเรียงเป็นแนว แต่ที่น่าสนใจคือ ร้านขนมทั้งหลายค่ะ


ซื้อชิมอย่างละอัน 2 อัน เพลิ้นนนน เพลินนนนนนน ... ที่ชอบน้อยที่สุดคือเซมเบ้ค่ะ ที่ชอบมาที่สุดคือ อาเกะ มันจู (รูปล่างขวา) มันอร่อยมากกกกกกกก อร่อยจนอยากจะวกกลับไปซื้อเพิ่ม แต่พอดูนาฬิกาแล้ว ถึงเวลาไกด์นัดแล้วนี่นา

ตายหล่ะ เสียประวัติลูกทัวร์ที่ดีไปก่อนเวลานัดทุกทีก็คราวนี้ แพ้ทางของกินจริงๆ เล้ยยยย ... วิ่งหน้าตั้งกลับไปจุดนัดที่รถจอดรอค่ะ 

ทริปนี้ประทับใจค่ะ เป็นการมาญี่ปุ่นครั้งแรกที่ได้เห็นได้เจอได้ทำหลายๆ อย่างที่หวังไว้ ปลื้มปริ่มและฟินเว่อร์ ... ทัวร์ก็บริการดีค่ะ ทั้งไกด์ทัวร์และหัวหน้าทัวร์ก็น่ารัก ดูแล ให้คำแนะนำอย่างดีที่สุด ใครกำลังมองหาบริษัททัวร์ไปญี่ปุ่น แนะนำ Compax World เลยค่ะ 


มาญี่ปุ่นแล้วบอกได้ว่า เที่ยวญี่ปุ่นครั้งเดียวไม่พอจริงๆ ค่ะ ต้องหาโอกาสมาซ้ำอีกแน่ๆ ยังมีอีกหลายที่น่าสนใจ ส่วนจะเป็นเมื่อไหร่ ยังไม่รู้ ... ค่อยๆ เก็บข้อมูลเที่ยว ทำแผนเที่ยวเองไว้ก่อนดีกว่า มีโปรตั๋วเครื่องบินราคาน่าคบหาเมื่อไหร่ จะได้จัดแผนลุยทันที ... ตอนนี้ Sayonara นะคะ