29.9.53

ธีมใหม่ ลูกเล่นใหม่

3-4 วันที่ผ่านมา ใครที่คลิกเข้ามาดูหน้าบล็อกก็จะเห็นความเปลี่ยนแปลง ... หน้าตาสีสันของบล็อกที่เปลี่ยนไป สีสวยถูกใจ แล้วยังมาพร้อมกับลูกเล่นใหม่ที่โปรดปรานด้วยค่ะ

ตั้งแต่เริ่มเขียนบล็อกที่นี่ก็ใช้รูปแบบสำเร็จที่มีมา เพราะไม่มีความสามารถในการตกแต่ง เปลี่ยนแปลงบล็อกด้วยตัวเอง ... Code ทั้งหลายทั้งแหล่ ไม่รู้จัก ต้นฉบับให้ทางเลือกมายังไงก็ใช้ตามนั้น


จนวันนึงได้รู้จักกับ btemplates.com ที่รวบรวม template หลากหลายแบบ ให้เราเลือกใช้ได้ตามชอบใจ ... เข้าไปลองหา ได้ตัวเลือกน่าสนใจมาหลายอัน ถึงจะยังไม่โดนใจเป๊ะๆ แต่ก็เอาเหอะ ลองเปลี่ยนดู


เปลี่ยนครั้งนั้นไปก็นานจนจำไม่ได้ว่าเปลี่ยนเมื่อไหร่ ไม่ได้สนใจเข้าไปดู template ใหม่ๆ เพราะเข้าไปแล้วตาลาย มีตัวเลือกเยอะเกิน ... ล่าสุดขอแวะไปดูหน่อยซิ มีอะไรน่าสนใจรึเปล่า


ก็ได้เจอกับธีมใหม่อย่างที่เห็นอยู่นี่หล่ะค่ะ สีสวยถูกใจที่ซู้ดดดดดดดดดดดดดดด ... นี่แหละ ใช่เลย สีแบบนี้ ลวดลายแบบนี้ ฟอร์แมทแบบนี้ นี่แหละ ที่โดนใจ


จัดการดาวน์โหลด ซิปไฟล์ แล้วทำการลงโค้ดใหม่ จนได้ธีมใหม่ของบล็อกสวยถูกใจ ... จัดการเปลี่ยนสี ปรับฟอนท์อีกนิดหน่อย ก็ได้ทุกอย่างตามต้องการ


แต่เอ๊ะ ... ธีมที่เลือกมามีช่อง Search มาด้วย จะค้นหาอะไรได้บ้างน้อ ไหนต้องลองดูสักหน่อยซิ ... คิดแล้วก็พิมพ์คำใส่ช่อง แล้วจิ้มค้นหาทันที


อุ๊ย ว๊าย ตายแล้ว ... บล็อกหน้าต่างๆ ที่เคยเขียนที่มีคำที่ค้นหาก็ปรากฎตัวขึ้นมาทั้งหมด ... นี่แหละ ลูกเล่นที่เราต้องการ


เพราะเป็นคนใช้บล็อกแทนสมุดบันทึก หลายครั้งที่กลับมาหาข้อมูลย้อนหลัง ... แต่พอจะหาก็งงตัวเอง จำไม่ได้ว่าเขียนไว้ช่วงไหน นานแค่ไหน เลยต้องใช้วิธีเข้าไปหาจากแผงควบคุมในการเขียนบล็อก แต่กว่าจะหาเจอก็ต้องจิ้มอยู่หลายหน


จนสุดท้าย ต้องพึ่งอากู๋ google ค้นหาบล็อกของตัวเอง ... พิมพ์ชื่อบล็อก และ คำที่ต้องการค้นหา ถึงจะเจอหน้าบล็อกของตัวเองที่ต้องการรู้ข้อมูล จะบอกใครก็อายเค้า ว่าค้นหาบล็อกตัวเองไม่ได้


ตอนนี้มีระบบค้นหาติดมาด้วย สบายเลย ... ทดลองเล่น ทดลองหาหลายๆ คำ ก็ได้บล็อกย้อนหลังตามต้องการ อิอิ ชอบจัง


ตอนนี้เลยชอบใจทั้งธีมใหม่ และลูกเล่นใหม่อันนี้มากกกกกก ... มากจนไม่คิดจะเปลี่ยนอีกแล้วค่ะ เพราะถูกใจที่สุด คงจะเห็นหน้าตาบล็อกแบบนี้ไปอีกน้านนนนนน นานนนนนน หล่ะค่ะ

28.9.53

บ๊าย บาย โกลดี้

9 วันหลังจากที่มี บิ๊กเบิ้ม สมาชิกใหม่มาอยู่ด้วย ก็ถึงเวลาต้องอำลา โกลดี้ สมาชิกเก่า ... เศร้าจัง


โกลดี้อยู่กับคนดีมา 6-7 ปี ลุยไหนลุยกันไม่เคยเกเร แต่ถึงวันนึงที่ป่วยหนักต้องเปลี่ยนชุดเกียร์ ตามอายุการใช้งาน ... ทั้งคนดีและเราต่างก็ใจหาย ว่าถึงเวลาที่จะต้องอำลาโกลดี้จริงๆ เหรอ


ใจจริงคนดีอยากจะเก็บโกลดี้ไว้ใช้งาน ถึงแม้จะมีคันใหม่มา จะได้เอาไว้ใช้สลับกัน ... แต่มีปัญหาหลักคือ ที่จอดรถไม่มีพอที่จะเก็บไว้ได้ทั้งสองคัน


ตอนแรกคิดว่าจะเอาโกลดี้ไปเทิร์น ก็ต้องเปลี่ยนแผน เพราะส่งโกลดี้ไปรักษาตัวชุดใหญ่ ใช้เวลานาน เพื่อที่จะได้ราคาสมเหตุสมผล ... ระหว่างโกลดี้รักษาตัว คนดีก็มองหาสมาชิกใหม่ จนมาลงตัวที่บิ๊กเบิ้ม


ก่อนที่จะได้บิ๊กเบิ้มมาครอบครอง ... โกลดี้ที่ถูกส่งตัวไปเก็บรอยบุบ รอยแผล ซ่อมสีรอบตัวถัง แล้วส่งไปผ่าตัดใหญ่ เปลี่ยนชุดเกียร์เรียบร้อย ก็กลับมาสวยนิ้งกิ๊งเหมือนใหม่ เห็นแล้วชื่นใจ


ได้โกลดี้มาใช้ มาตะลอนตะลุยด้วยกันอีกพักใหญ่ ใช้แล้วก็ยิ่งเสียดายที่จะปล่อยโกลดี้ไป ... คนดีกะว่าจะรอเช็คราคา ก่อนจะถ่ายรูป แล้วค่อยประกาศขายโกลดี้บนเว็บ


แต่แล้วพอมาเช็คราคากับศูนย์ที่ซื้อบิ๊กเบิ้มมา ราคาสมเหตุสมผล ใกล้เคียงกับที่ตั้งใจ ... โกลดี้เลยโดนซื้อตัวไปเลยทันที


คนดีส่งข้อความมาบอกว่า "ขายโกลดี้ได้แล้ว เศร้าจัง" ... เห็นข้อความแล้วก็ใจหาย เศร้าด้วย ตั้งใจว่าจะไปบอกลาโกลดี้สักหน่อย


แต่พอเจอกันตอนเย็น คนดีเล่าว่า คนที่มาดูรถ เสนอราคา แล้วทำคุยเรื่องเตรียมเอกสาร จ่ายเงินมัดจำไว้ก่อน จากนั้นก็ตามมาที่บ้านเลย ... มาดูสภาพรถ เช็คจุดต่างๆ จ่ายเงินสด แล้วก็ขับโกลดี้ไปเลย


หาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา ... ยังไม่ได้ลาโกลดี้เลย เศร้าจัง


ขอให้เจ้าของใหม่ที่ซื้อโกลดี้ไปใช้งาน ดูแลโกลดี้ดีดีนะคะ ... บ๊ายบายนะโกลดี้

25.9.53

Big Birdy's Family Trip : จันทบุรี

ทริปท่องเที่ยวประจำบ้านของคนดี ประจำปีนี้ ได้ฤกษ์แล้วค่ะ ... นัดแนะ รวมตัว รวมพล เคลื่อนขบวนไปที่จังหวัดทางภาคตะวันออกของประเทศไทย "จันทบุรี" ค่ะ


คนดีเป็นตัวตั้งตัวตี ชวนพี่ น้องๆ ตะลอนเที่ยวอยู่เรื่อยๆ ค่ะ ต่างจังหวัดบ้าง สวนสนุกบ้าง แล้วแต่วาระ แล้วแต่โอกาส แล้วแต่ความสะดวก ... เพราะเราตะลอนเที่ยวกันบ่อย คนดีก็อยากให้พี่ และน้องๆ ได้รวมพลไปเที่ยวด้วยกันทั้งครอบครัวบ้าง


ทริปนี้เลือกจันทบุรี เพราะเราสองคนเคยมาตะลอนเส้นทางกันแล้ว ... และซื้อ voucher ห้องพักแบบพักได้เป็นหมู่คณะจากงานไทยเที่ยวไทยเอาไว้ ... พอเหมาะพอดีกับที่คิวสมาชิกว่างลงตัว เลยชวนกันออกเดินทาง


เป็นการเดินทางที่เอิกเกริก เพราะสมาชิกเยอะ ขบวนใหญ่ ผู้ใหญ่ 15 เด็ก 1 ... ครอบครัวใหญ่ จาก 3 บ้านย่อย แล้วยังมีเพื่อนน้องชายคนดีด้วย ... อายุสมาชิกมีตั้งแต่ 3 ขวบ จนถึง 70 ต้นๆ


ทริปนี้เราสองรับหน้าที่เป็นทัวร์ลีดเดอร์ เป็นไกด์ และเป็นรถนำขบวนค่ะ ... จัดการกันทุกอย่าง


สมาชิกกลุ่มใหญ่นัดรวมตัวกันที่บ้านคนดี มีกลุ่มเล็กที่ออกเดินทางจากบ้านไปเลย แล้วนัดเจอกันที่แกลง ... เป็นทริปแรกของ บิ๊กเบิ้ม ที่จะออกตะลอนทัวร์แบบจริงจังด้วยกัน


ออกเดินทาง 8 โมงนิดๆ มุ่งหน้าตรง ยิงยาว ไม่แวะพัก แวะเที่ยว ไปรวมพลที่สามแยกแกลง ... แล้วก็ตรงดิ่งไปหามื้อกลางวันกันค่ะ ทริปนี้ต้องรักษาเวลามื้ออาหารไม่ให้เลยเวลามากนัก เพราะป๊าเป็นเบาหวาน ต้องรักษาระดับน้ำตาลให้ดี


มื้อนี้เลือก ร้านคุณแดงริมคลอง ในตัวเมืองจันทบุรี ... ร้านนี้พ่อพามาชิมเมื่อครั้งก่อนที่มา รสชาติใช้ได้เลยน่าพาคนอื่นมาลอง แต่เราจำทางกันไม่ได้ เพราะมัวแต่หลับ ... คราวนี้เลยต้องวกวนไปตามถนน ซอกซอยตามแผนที่ไปแบบลุ้น เพราะกลัวหลง


เพราะดูจะเลยเวลาไปนานกว่าจะถึงร้าน และเกรงว่าจะไม่มีโต๊ะ ขืนเจอทัวร์ลงแย่แน่ ... เราเลยคว้ามือถือมาหาเบอร์ โทรจองโต๊ะ สั่งอาหารไว้ก่อน ... ถึงร้านปุ๊บ ก็จัดการลุยอาหารกันได้เลย


ถ่ายรูปไม่ทันค่ะ เพราะสมาชิกบ้านนี้ลงมือเร็ว ต้องรีบตามให้ทันก่อน ... ปลาอินทรีย์ทอดน้ำปลา ปลากะปี๊ทอดกระเทียม ต้มยำรวมมิตร ไก่ต้มระกำ พล่าปลา หมูผัดกะปิ หมูคำหวาน ข้าวตังหน้าตัง ผัดกะเพราทูน่า หลนเต้าเจี้ยว ... ไม่แน่ใจว่าตกหล่นเมนูไหนไปรึเปล่านะคะ แต่ที่ว่ามาก็อลังการจนสมาชิกกินกันอิ่มจนแน่น เกินจะจัดการหมดจนต้องเหลือให้ใส่ห่อกลับมาสำรองสำหรับมื้อเย็น


อิ่มแล้วก็แวะเที่ยวสักหน่อยค่ะ แวะไป โอเอซิส ซีเวิลด์ จะไปดูโลมาโชว์ ... ความสามารถของโลมาปากขวด และโลมาหัวบาตร ที่ฝึกโดนครูฝึกไทย


โชว์แบบเรียบๆ ง่ายๆ ลูกทุ่งๆ มีเสียงพากษ์สองภาษา ขำๆ ฮาๆ ... เป็นการโชว์แบบตามใจโลมา เพราะบางทีก็ว่ายน้ำหนีหายไปเฉยๆ ต้องเรียกอยู่นานกว่าจะมา


โชว์สวัสดี เซิ้ง เตะบอล เก็บบอล นอนหนุนตัก และอีกหลายอย่าง ... เราดูเพลินๆ คิกคักชอบใจ แต่น้องๆ หลายคน ดูแล้วตาปรือจะหลับ เพราะง่ายๆ เรียบๆ เรื่อยๆ ... เมื่อเทียบกับค่าเข้าชม 90 บาท ก็นับว่าโอเคนะคะ


จบโชว์แล้วก็ตรงดิ่งไปที่พัก เลาะเรียบหาดไปทางแหลมสิงห์ ไปเจอกำลังทำทาง ทำถนนพอดี บิ๊กเบิ้มวิ่งฉลุย แต่ มาสด้า 3 กับ แจ๊ส ทุลักทุเลสักหน่อย ... เลาะเลียบฝั่งไปพักหญ่ายยยยยยยย ก็ถึงหาดเจ้าหลาว จุดหมายของเรา


มองหาป้ายที่พัก หาดทรายทองรีสอร์ท หาไม่เจอ เพราะมัวแต่มองป้ายมุมบน ดันมีแต่ป้ายตั้งขนานถนนอยู่ ... เลยไปนิด ก่อนจะวนกลับมาใหม่


ถึงที่พักก็ปล่อยสมาชิกให้ได้เดินสำรวจพื้นที่ยืดแข้งยืดขา เรากับคนดีไปติดต่อห้องพัก ... จองห้องพักแบบ 2 คน กับ 6 คน ไว้อย่างละ 2 ห้อง เราสองคนรับกุญแจ เช็คห้องเรียบร้อย ก็ส่งสมาชิกเข้าห้องพัก แล้วปล่อยให้พักผ่อนตามชอบใจ


บางส่วนก็ปักหลักตั้งวงในห้อง บางส่วนก็ออกไปรับลมชมวิวริมหาด ... เราสองคนแวะไปทักวงในห้องแล้ว ก็ออกไปนั่งเล่นริมหาด ชมวิวดวงอาทิตย์ลับฟ้า


หนุ่มน้อยเด็กสุดของทริปสนุกสนานกับการเล่นกองทรายจนฟ้ามืดถึงยอมเลิก ... เราเลยเลือกจะทานมื้อเย็นที่รีสอร์ทเลย สั่งอาหารเพิ่มบางส่วน แล้วก็เอาอาหารที่เหลือจากมื้อกลางวันมาให้ที่พักช่วยอุ่นให้ด้วย ... อิ่ม อร่อย แบบกำลังสบาย ก่อนจะแยกย้ายกันเข้าห้องพัก


สมาชิกเปิดวงลับสมองประลองปัญญา บวกลบตัวเลขกันสักหน่อย ... เราสองคนนั่งเล่น นั่งขำ พักใหญ่ จนตาเริ่มปรือ ก็ขอตัวกลับเข้าห้อง นอนหลับชาร์จพลัง


6 โมงกว่าๆ งัดตัวจากที่นอน ล้างหน้า แปรงฟัน ไปรอรับสมาชิกหม่ำมื้อเช้า เพราะคูปองอาหารเช้าทั้งหมดอยู่ที่เราสองคน ... มื้อเช้าที่นี่เป็นบุฟเฟ่ต์แบบง่ายๆ มีข้าวต้ม ข้าวผัด ไข่ดาว แฮม ไส้กรอก ขนมปังปิ้ง เนย แยม สลัด ผลไม้ น้ำส้ม ชา กาแฟ โอวันติล ... เลือกตักตามชอบใจ แล้วไปนั่งหม่ำชมวิวทะเลยามเช้า อากาศสบ๊าย สบาย


จัดการมื้อเช้ากันเรียบร้อย หนุ่มน้อยก็เรียกร้องจะเล่นทรายอีก ... ลุง ป้า น้า อา เลยได้สนุกสนานไปด้วยค่ะ แต่ดูๆ ไปแล้ว ผู้ใหญ่จะสนุกกว่าเด็ก เพราะขุดทราย ทำหลุม ทำทางน้ำกันเพลิน ... จนไม่แน่ใจว่าหนุ่มน้อยเจ้าของอุปกรณ์ กับ ลุง ป้า น้า อา ใครจะสนุกกว่ากัน


แดดเริ่มแรง แยกย้ายกันไปอาบน้ำ เก็บของ เตรียมตัวกลับค่ะ ... ตรงดิ่งเข้าเมืองระยองไปฝากท้องที่ ร้านผัดไทยคุณไกร ... ผัดไทยเนื้อปู เกี๊ยวปู ยำปลาข้าวสาร ส้มตำปูม้า ลูกชิ้นปลาลวก ทอดมันปลากราย อิ่มแบบสบายท้อง


แล้วแวะซื้อของฝากที่ตลาดบ้านเพ ก่อนจะตรงกลับเข้ากรุงเทพฯ กลับบ้านกันค่ะ ... แฟมิลี่ทริป 2 วัน 1 คืน แบบง่ายๆ ก็จบลง แยกย้ายกันไป แล้วค่อยวางแผนรวมตัวกันใหม่ค่ะ

24.9.53

หนังสือ หรือ กระเป๋า ?!?!

เราเหมือนผู้หญิงทั่วๆ ไป ที่ชอบเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า เครื่องประดับ ... แต่ถ้าเป็นกระเป๋าผ้า จะโปรดปรานเป็นที่สุด เหมือนมีแรงดึงดูดให้ปรี่เข้าไปจับจ้อง และอยากจะจับจองเป็นเจ้าของ


ชอบกระเป๋าผ้ามากจนคนดีบ่นจนเลิกบ่น ... ส่วนหมวยบีบอกว่า "กระเป๋าผ้าลดโลกร้อนของพี่เนี่ย มีเยอะจนทำให้โลกร้อนแล้ว" ... ถ้าปรี่เข้าไปจับกระเป๋าผ้าต่อหน้า 2 คนนี้ จะมีการรวมพลังแท๊คทีมห้ามทันที


ใครเค้าจะชอบกระเป๋าแบรนด์เนม แบรนด์ไหนยังไงไม่รู้ ... เราขอกระเป๋าผ้า แบบแปลกๆ ลายเก๋ๆ ดีกว่า จะใบจิ๋ว ใบเล็ก ใบกลาง ใบใหญ่ ชอบทั้งนั้น


ล่าสุดกำลังอินกับกระเป๋าที่แถมมากับนิตยสารแฟชั่นญี่ปุ่น ... ตอนแรกที่รู้ว่านิตยสารญี่ปุ่่นมีของแถมด้วยก็น่าสนใจพอแล้ว นี่ดันแถมกระเป๋าซะอีก โอ๊ย กิเลสพุ่ง


เพราะแวะไปหม่ำโอโคโนมิยากิที่อิเซตัน เลยได้ไปซื้อกระเป๋า เอ๊ยยยยย ซื้อนิตยสารญี่ปุ่นมาล็อตใหญ่ ... คนดีติดสายไม่ได้อยู่ต้านทานเราเลยกวาดมาซะ 4 เล่ม


อ่านภาษาญี่ปุ่นไม่ออกหรอกค่ะ แต่เอามาเปิดพลิกๆ ดูแฟชั่น ดูเทรนด์ นั่นโน่นนี่ เผื่อจะเกิดไอเดียอะไรใหม่ๆ บ้าง ... ส่วนกระเป๋าที่แถมมา เป็นผลพลอยได้ที่น่าพึงพอใจเป็นที่ซู้ดดดดดด


นิตยสาร 4 เล่ม ได้กระเป๋ามา 6 ใบ หลายแบบ หลายไซส์ เลือกใช้ได้ตามชอบใจ ... แต่ต้องระวังเจ้าลายดอกไม้ของ Cath Kidston ให้ดี เพราะมีเด็กๆ ในออฟฟิศจ้องจะฉกอยู่


มีอยู่ใบนึงที่ชอบมากกกกกกกกกกกกกกกก ... ลองทายดูซิคะว่าใบไหน

23.9.53

ฟ.ฟัน สะอาดจัง

เว้นว่าง ห่างหาย จากการไปพบทันตแพทย์เพื่อสุขอนามัยที่ดีของช่องปากไปนานนนน ... ปล่อยให้หินปูนเกาะลามไปทั่วปาก ถ้าปล่อยไว้นานกว่านี้เกรงว่าจะไม่ดี ไปเลาะออกดีกว่า


ยกโทรศัพท์นัดคิวทันที นัดคิวให้คนดีไปจัดการก่อน แล้ว 1 สัปดาห์ต่อมาก็ถึงคิวเรา ... เดินเข้าร้านด้วยใจหวั่นๆ ว่าจะมีฟันผุมั้ย ถ้ามีต้องโดนหมอเอ็ดเอาแน่ๆ เพราะคุณหมอเป็นพี่สาว (ลูกพี่ลูกน้อง) คนกันเองก็เตือนกันตรงๆ


ครืดดดด แครกกกก ครืดดดดด แครกกกก อยู่ราวๆ 15 นาที เสียเลือดนิดหน่อย ก็ได้ฟันลื่นเกลี้ยงเกลา ... ไม่มีฟันผุอย่างที่กังวล แต่มีฟันเก เพราะฟันที่เคยจัดเด้งออกมาซะแล้ว และมีแววของปัญหาเหงือกอักเสบนิดหน่อย


เดินฟันลื่นปรึ๊ดดดด ออกมาจ่ายสตางค์ ... คุณหมอพี่สาวเดินตามมาย้ำว่า 6 เดือนเจอกันใหม่ แล้วก็จัดการนัดคิวพบคุณหมอจัดฟันด้วยเลย


แววว่าจะได้เข้าโหมดดูแลสุขอนามัยในช่องปากอย่างพิถีพิถันกลับมาอีกแล้ว ... เดือนหน้ารู้กันว่าต้องติดเครื่องมือจัดฟันอีกครั้งรึเปล่า

19.9.53

สวัสดี บิ๊กเบิ้ม

วันที่ 19 เดือน 9 ปี 2010 เป็นวันดีที่คนดีเลือกต้อนรับสมาชิกใหม่เข้าบ้าน ... ลูกชายผิวดำมันตัวเบ้อเร่อที่ชื่อ บิ๊กเบิ้ม ค่ะ


หลังจากตระเวนหาลูกชายมาพักใหญ่ แล้วรออีกพักนึง ลูกชายตัวโตก็มาอยู่ในครอบครอง ... แมน ล่ำ เท่ และใหญ่โตสมชื่อจริงๆ


วันแรกที่ไปรับ ก็พาไปตะลอนเที่ยวเลยค่ะ ... ไม่ใกล้ไม่ไกล ไปวัดบางกุ้งที่อัมพวา เพราะพี่หมอดูเจ้าประจำบอกว่า พอได้มาแล้วให้พาไปไหว้พระที่โบสถ์เก่าๆ พอไปรับปุ๊บก็รีบพาไปทันที


ได้โอกาสทดสอบสมรรถนะของลูกชายคนนี้ด้วยเลย ... ทัศนวิสัยกว้างไกล เครื่องแรง ทำความเร็วได้ดี สมบุกสมบัน เลยนั่งเด้งดึ๋ง ไม่ได้นิ่มนั่งสบาย และกินจุเหลือเกินนนนนนน ... ที่สำคัญตัวเหม็นไปนิด นั่งอยู่ด้วยพักเดียว ทำเอามึน


ช่วงนี้ยังสมาชิกใหม่รายนี้ ได้รับการดูแลเป็นพิเศษค่ะ ได้รับสิทธิให้เข้ามาอยู่ในบ้าน ... ส่วนพี่โกลดี้ลูกชายคนก่อนก็ต้องออกไปเฝ้าหน้าบ้านแทน


แล้วยังต้องผ่านขั้นตอนแต่งเสริมเติมหล่ออีกนิดหน่อย ... เพื่อความปลอดภัยของบิ๊กเบิ้ม เพื่อความสบายใจ และ สบายกระเป๋าของบิ๊กเบิร์ด


ตอนนี้สาวๆ ที่ออฟฟิศพากันถามถึงบิ๊กเบิ้ม อยากเจอตัว อยากสัมผัส อยากทดสอบสมรรถนะ ... แต่คนดีก็ยังไม่พาบิ๊กเบิ้มตะลอนทัวร์ทั่วกรุง


ช่วงนี้คนดีมีภารกิจติดพันต้องเข้าไซท์งาน เลยไม่อยากพาบิ๊กเบิ้มไปจอดทิ้งไว้ในที่จอดรถนานๆ เกรงว่าจะเป็นเป้าสายตามิจฉาชีพ เพราะบิ๊กเบิ้มจัดอยู่ในหมวดรถที่มีความเสี่ยงสูง ติดอยู่ในท็อบลิสท์โดนโจรกรรม ... แม้บิ๊กเบิ้มจะไม่ได้มีสเปคตามหมวดที่ตลาดโจรต้องการเป๊ะ แต่ก็กันไว้ดีกว่าค่ะ


ทุกครั้งที่พาไปไหน ก่อนขึ้นรถคนดีต้องไปก้มๆ เงยๆ เล็งที่ท้ายรถทุกที ... ไปเช็คว่ายางอะไหล่ของบิ๊กเบิ้มยังอยู่ดี ไม่ได้โดนหมอรถมือดีรายไหน จัดการผ่าตัดเฉพาะกิจให้แล้ว


อีกพักใหญ่ๆ บิ๊กเบิ้มคงได้รับหน้าที่เต็มตัว เต็มรูปแบบ คงได้ขนคน ขนของ ตะลุย ตะลอนไปด้วยกันแบบสมบูรณ์ ... ขอเวลาเตรียมตัวให้บิ๊กเบิ้มอีกสักนิดนะคะ

18.9.53

ปูนึ่ง กุ้งเผา เม้าท์เรื่องรัก

เสาร์ 18 กันยา เป็นวันนัดรวมตัวของสมาชิกหลายคน จากหลายกลุ่ม มานัดรวมตัวกัน ... เพื่อภารกิจหลัก คือ กินปูนึ่ง กุ้งเผา และเม้าท์เรื่องรักเป็นภารกิจรอง


สมาชิกนัดรวมตัวเจอกัน 3 จุดหมาย 3 เส้นทาง ตามความสะดวก มุ่งหน้ามาเจอกันที่บางแสน ราวๆ 11.30 ... นัดเวลาเจอกันคร่าวๆ แค่นั้น แต่ทั้ง 3 คัน มาถึงไล่ๆ กัน


ถึงที่หมายร้านประจำ เจ๊จิ๋ม กับ แม่เฉลิม ก็เริ่มลุยสั่งอาหารทันทีค่ะ ... เมนูเดิมๆ ที่คุ้นเคย มั่นใจได้ว่า อร่อยชัวร์

ปูนึ่ง กุ้งเผา (ลืมถ่ายรูป) หมึกทอดกระเทียม ยำไข่ปูเนื้อปู หอยนางรมทรงเครื่อง พล่าปลากุแล หอยแครงลวก ไก่ย่าง (ร้านน้องเนย) ยำสองไข่ (ไข่ปู+ไข่แมงดา) ลาบวุ้นเส้น ยำวุ้นเส้น (ลืมถ่ายรูป) ยำปลาดุกฟู (จานนี้สั่งไป 4-5 จานได้)


พออาหารลงก็ตั้งหน้าตั้งตาลุยตักเข้าปากกันหนุบหนับ เงียบกริบ ตั้งใจกิน ไม่ถามไถ่ไม่คุยกันเลย ... พอจัดการของคาวหนำใจแล้ว ก็สลับเป็นของหวาน เค้กส้ม เค้กชอคโกแลต จากป๋าผู้ใจดี

สมาชิกมีกี่ราย ใครเป็นใคร มาเดี่ยว มาคู่ หรือไม่อยู่ในรูป ก็ลองดู ลองเดาเอาเองนะคะ


อิ่มของคาว กินของหวาน แล้วสลับมากินของคาวอีกรอบ จนพุงตึง ก็ได้เวลาย่อยค่ะ ... ปล่อยให้กระเพาะทำงาน เพื่อไม่ให้หนังตาหย่อน เราก็ยกเรื่องรักๆ มาเม้าท์ แลกเปลี่ยนไอเดียและประสบการณ์


นั่งตั้งแต่เกือบเที่ยง จนเกือบหกโมงเย็น ก็ย้ายที่ค่ะ ... เป็นการย้ายตามคำขอของหมวยบี ผู้รำพึงว่าอยากกินไอติม

ไอ้เราก็นึกไม่ออกว่าแถวนี้มีร้านไอติมอยู่ตรงไหน อร่อยมั้ย ... เพื่อความมั่นใจ ไปสเวนเซนส์ดีกว่า ย้ายไปที่แหลมทอง ซัดไอติมกันคนละถ้วย


อิ่มไอติมแล้ว สมาชิกของแยกตัวกลับ 2 คัน เพราะอิ่มเกินจะเติมอะไรลงไปอีก ... แต่คันโกลดี้ ที่มีผู้โดยสารเยอะสุด และมีคนหิวของคาว ซึ่งเราเป็น 1 ในนั้น เลยยังไม่กลับ แต่ต้องไปหาอะไรเติมอีกนิด


ง่ายๆ เบาๆ ด้วยข้าวต้ม ที่ ร้านข้าวต้มปลาเทวดา ... ข้าวต้มเครื่องใส่เนื้อสัตว์ตามความชอบใจคนละชาม กับน้ำจิ้มเต้าเจี้ยว อร่อยง่ายๆ เบาๆ อย่างที่ตั้งใจค่ะ

อิ่มแล้วก็มุ่งหน้ากลับบ้าน ตรงดิ่งเข้า กทม ... ภารกิจกินของอร่อยสำเร็จลุล่วง ปูนึ่ง กุ้งเผา โดนจัดการอย่างที่ตั้งใจ ... นัดหน้าจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ที่ไหน ไปกินอะไร ยังไม่รู้ แต่รู้ว่าคงมีแน่ๆ

17.9.53

ชั่วฟ้าดินสลาย

"ชั่วดินฟ้ารักเธอเสมอใจ ที่ฉัน รำพันทุกวันฝันไปถึงเธอ อยากให้เธอหวานใจ อยู่ใกล้พลอดรัก ร้อยเรียงร่วมเคล้าเคียง ฉันและเธอ ก่อนเข้านอนฉันวอน ฝันไปเพ้อครวญ ภาพรักหลอนให้ชวนละเมอ อยากให้เป็นของเธอ ชั่วฟ้าดินได้ อย่ามีอันใดพรากไปไกลกัน"


เพลงชั่วฟ้าดินสลาย เพลงประกอบภาพยนตร์ชื่อเดียวกัน "ชั่วฟ้าดินสลาย" ... เป็นเพลงที่กำลังอินติดหูติดปากมากค่ะ อินติดค้างหลังจากดูหนังเรื่องนี้จบ


ตอนแรกไม่ได้สนใจหนังเรื่องนี้ แต่พอเห็นนักแสดง แล้วรู้ว่าเป็นผลงานกำกับของหม่อมน้อย ... ได้เห็นตัวอย่างหนัง ก็บอกคนดีว่าจะดูเรื่องนี้ และต้องดูให้ได้


- เรื่องย่อ -


ท่ามกลางความสับสนวุ่นวายของกระแสการเมืองใหม่ซึ่งชาวสยามยังไม่คุ้นชินนัก เพียงหนึ่งปีหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครองในปี พ.ศ. 2475 นั้น ... ยุพดี ม่ายสาวพราเสน่ห์หัวสมัยใหม่จากพระนคร ได้สมรสกับ พะโป้ คหบดีม่ายชาวพม่าอายุคราวพ่อ เจ้าของกิจการป่าไม้อันมั่งคั่งแห่งกำแพงเพชร ... ทั้งคู่ได้เดินทางไปใช้ชีวิตฉันท์สามีภรรยาที่ปางไม้เขาท่ากระดาน ซึ่งยุพดีคิดว่าชีวิตของเธอได้ถูกเติมเต็มแล้วในทุกๆ ด้านจากพะโป้สามีที่เธอรัก


แต่ ณ ที่นั้นเอง ท่ามกลางพลังอำนาจแห่งไพรพฤกษ์และขุนเขา เมื่อยุพดีได้มาพบเจอกับ ส่างหม่อง หนุ่มพม่าผู้หล่อเหลาปานเทพบุตร แต่แสนบริสุทธิ์ในกามโลกีย์ผู้เป็นหลานชายของพะโป้ ... ทั้งคู่ต่างเกิดความสิเน่หาต่อกัน ยิ่งได้ใกล้ชิดกันมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งเกิดอาการหวั่นไหวและอยากอยู่ด้วยกันมากขึ้นเท่านั้น ตามสัญชาติญาณหนุ่มสาวที่ถูกกิเลสตัณหาครอบงำ โดยหารู้ไม้ว่า นี่คือ "จุดเริ่มต้นแห่งโศกนาฏกรรมรัก"


ในที่สุด ทั้งส่างหม่องและยุพดีก็มิอาจต้านทานความปรารถนาของตนเอง และยอมตกอยู่ภายใต้อำนาจของกิเลสตัณหาอย่างถึงที่สุด ทั้งคู่ก้าวล้ำเส้นของการเป็นหลานและอาสะใภ้ โดยลอบเป็น "ชู้" กัน ... และแล้วเมื่อพะโป้ได้ล่วงรู้ความจริงอันน่าอัปยศนี้ เขาดูเหมือนจะสงบนิ่งอย่างผู้ผ่านประสบการณ์และเข้าใจโลยิ่งนัก แต่จริงๆ แล้ว ในใจเขากับร้อนรุ่มด้วยโทสะจริต ติดกับดักแห่งเสน่หาอาฆาตแบบถอนตัวไม่ขึ้นอย่างไม่คาดฝัน


พะโป้ตัดสินให้ยุพดีเมียสุดที่รัก ได้อยู่กินกับส่างหม่องหลานรักอย่างเปิดเผย ภายใต้เงื่อนไขอันแสนเย็นเย็นยะเยือกด้วยการล่าม "โซ่ตรวน" คล้องแขนติดกัน เพื่อพันธนาการว่าทั้งคู่จะได้ครองรักกัน ชั่วนิดนิรันดร์ ... ถึงเวลาแล้วที่พะโป้จะได้ทำในสิ่งที่่เขาวางแผนไว้อย่างแยบคาย เพื่อสอนบทเรียนให้กับทั้งหลานและภรรยาอันเป็นที่รัก ให้รู้จักความหมายของ "ความรักชั่วนิรันดร์ การลงทัณฑ์ชั่วชีวิต"


(ที่มาของเรื่องย่อ และภาพ จาก สหมงคลฟิล์ม)


เป็นหนังดราม่า ภาพสวย เนื้อเรื่องมีสัญลักษณ์ให้คิดตาม ดูจบแล้วเก็บออกมาคิดมาคุยกับคนดีได้อีก เป็นโศกนาฏกรรมรักที่ให้มุมมองเรื่องการใช้ชีวิตคู่ได้จริงๆ ค่ะ ... อนันดาแสดงดีมากกกกกกกกกกก ส่วนพลอยก็แสดงดีค่ะ แต่เพราะเราติดภาพ ติดคาแรคเตอร์ "นันทวดี" กับ "น้ำหวาน" ทำเอาสับสน งงๆ ตัดภาพจากละครลำบากหน่อย ... แต่ก็นึกไม่ออกว่าบทยุพดี ถ้าไม่ใช่พลอยจะเป็นใคร เพราะเหมาะมากกกกกก


ใครที่ชอบอนันดา รับรองว่าคุ้มมากกกกกกกกกกกก เพราะได้ดูหุ่นอนันดาเต็มๆ ตา และไม่ว่าจะใส่ชุดอะไร หัวกระเซอะกระเซิงขนาดไหน ก็ยังดูดี ... คนดีเองยังยอมรับว่าหล่อจริง แมนจริง


จัดเป็นหนังดราม่าที่ทำให้เสียน้ำตา และประทับใจมาก ... ดูหนังจบเดินออกจากโรงหนัง ใจอิ่มๆ และอินติดพันต่อเนื่อง เศร้าต่อเนื่องจนกลับถึงบ้าน


16.9.53

แว่นกันแดดของใคร???

เพิ่งมารู้ตัวว่าเป็นคนชอบแว่นกันแดด ติดแว่นกันแดด ... เห็นแว่นกันแดดเป็นไม่ได้ ต้องปรี่เข้าไปขอลองสวมดูสักหน่อย


ที่ตลาดนัดเมืองไทยภัทร มีร้านแว่นกันแดดก๊อกแก๊ก ใส่เล่นๆ ขำๆ ที่เราอุดหนุนประจำอยู่ ... ซื้อมานับไม่ถ้วน หลายแบบ หลายสไตล์ ทั้งซื้อให้ตัวเอง และซื้อให้คนดีด้วย


แต่.....เอ๊ะ แว่นกันแดดหายไปไหน


ผลปรากฎว่า เหล่าแว่นกันแดดไปรวมตัวอยู่ที่บ้านคนดีค่ะ ... บางอันเราทิ้งไว้ในรถคนดี พอส่งรถเข้าศูนย์ คนดีก็ต้องเก็บของออกให้หมด เลยเอาแว่นกันแดดออกไปด้วย แล้วก็ลืมหยิบกลับมา เราก็หยิบไปใส่ไว้ใหม่ ... วนเวียนเป็นวัฏจักรอยู่แบบนี้


แต่บางอัน คนดีเห็นเราใส่แล้วชอบใจ ก็มาปะเหลาะขอไปใช้ ... ทั้งที่ซื้อมาตั้งหลายอัน ซื้อมาเผื่อแล้วด้วย แต่คนดีก็ยังชอบใจอันที่เราใส่มากกว่าทุกที


ประดาแว่นกันแดดที่เห็นนี้ มีทั้งที่เราซื้อให้ และ อันที่เป็นของเราแล้วถูกใจคนดี ... อย่างแว่นกันแดดที่คนดีใช้ในทริปล่าสุด (เสื้อเหลืองมะนาว) ก็เป็นของเรา


ตอนเราจะซื้อ คนดีก็ทำท่าห้ามไม่อยากให้ซื้อ บอกว่ามีอยู่เต็มบ้านแล้ว จะซื้ออะไรนัก มีอยู่หน้าเดียว ... แต่พอซื้อมา คนดีลองใส่แล้วเกิดชอบใจ ทำท่าเล็งๆ จะสอยไปใช้เองซะอย่างนั้น


แต่พอเจอแว่นกันแดดของ H&M ที่เราเพิ่งซื้อมาล่าสุด คนดีก็หันไปทำท่าสนใจอันนั้น แล้วก็ยึดไปใส่ ... ใช้ไปสักพัก แล้วเกิดอะไร ยังไงไม่รู้ จู่ๆ คนดีก็เกิดไม่ชอบใจ ไม่ถูกใจขึ้นมาซะแล้ว แล้วก็มาสอยเจ้าแว่นอันนี้กลับไปครอบครอง


พอเราโวยวายว่าเมื่อไหร่จะคืน คนดีก็จะบอกว่า "ถ้าเป็นแว่นตัวจะมาอยู่บนรถเค้าได้ยังไง นี่อยู่บนรถเค้าก็ต้องเป็นของเค้าซิ" ... เอ้า เป็นงั้นไป เฮ้อออ


แล้วหลังๆ มีตัดพ้อต่อว่ากันด้วย ถ้าหยิบอันไหนไปลองแล้วคับไปนิด หลวมไปหน่อย ไม่เข้ากับหน้าแบบเป๊ะๆ ... กลายเป็นความผิดเราไปซะว่า ขี้งก ซื้อมาใช้คนเดียว ... อ้าว ก็เราซื้อใช้เองนี่นา


ตกลงนี่มันแว่นกันแดดของใครกันแน่เนี่ย !?!?!?!?!?!?!?

15.9.53

: 102 เดือน :

วันที่ 15 อีกแล้ว ไวจัง แป๊บๆ ผ่านไปอีกเดือน ... 102 เดือนแล้ว ก็เท่ากับ 8 ปีครึ่งพอดี หาอะไรเล็กๆ น้อยๆ ให้คนดีสักหน่อยดีกว่า


ว่าแต่อะไรเล็กๆ น้อยๆ เนี่ย ... ควรจะเป็นอะไรดี


นึกไปนึกมา มองหาอยู่หลายอย่าง เลือกของใกล้ตัวง่ายๆ ลงทุนไม่เยอะ แต่ใช้เวลานิดหน่อยดีกว่า ... ทายถูกมั้ยคะว่าคืออะไร


แถ่น แท๊น ... ซีดีรวมเพลงรัก 102 เพลง ค่ะ


จัดการเสาะหา รวบรวม เพลงรักที่เป็นเพลงประจำตัว ที่หวนให้นึกถึงช่วงต่างๆ ที่ผ่านมา ... เพลงรักที่เราชอบ เพลงรักที่คนดีชอบ ... เพลงรักที่มีความหมายดีดี


กว่าจะได้ครบ 102 เพลง ก็ลำบากอยู่มิใช่น้อย ถ้ารู้จักชื่อ รู้จักนักร้องก็ง่ายหน่อย แต่บางเพลงนี่รู้แค่เนื้อเพลงบางท่อน ก็ต้องหากันหน่อย ... เริ่มเก็บจากเพลงประจำที่คุ้นหู ติดปาก แต่ก็ได้ไม่ตามยอดที่ตั้ง ... เลยต้องขอความช่วยเหลือจากุนซือประจำตัวที่ฟังเพลงเยอะ ฟังหลากหลายแนว ช่วยเสนอรายชื่อเพลงมาให้ด้วย


สุดท้ายก็ได้เพลง 102 เพลง แบบไม่ซ้ำ ... เป็นเพลงสากล 15 เพลง ตรงกับวันที่ ที่เหลือเป็นเพลงไทยสากล 87 เพลง รวมแล้วได้ตามจำนวนเดือนพอดีเป๊ะ ... กะว่าจะเอาชื่อเพลงมาลงบล็อกให้คนดีรู้ว่ามีเพลงอะไรบ้าง แต่เยอะเกิ้นนนนนน ไม่ลงดีกว่า ปล่อยให้คนดีฉงนสงสัยต่อไปดีกว่า


เพิ่งไรท์เสร็จสดๆ ร้อนๆ เช้าวันนี้เลยค่ะ ... ไรท์เสร็จก็เปิดฟังยาว พอคนดีมาถึงก็จัดการเอาออกจากเครื่องยื่นส่งให้แบบไม่มีพิธีรีตรอง ไม่มีเซอร์ไพรส์ใดๆ ทั้งสิ้น


กุ๊กกิ๊กจุ๊กจิ๊กเล็กๆ น้อยๆ พอให้มีสีสัน ... คบกันมานานความหวือหวาก็หดหายไปบ้าง แต่ยังไงก็ยังรักเหมือนเดิมค่า


รักคนดีที่สุดค่ะ

12.9.53

จับหวัดปล่อยทะเล หัวหิน-ชะอำ #2

ภารกิจจับหวัดปล่อยทะเล เมื่อวานได้พักผ่อนเต็มที่สมดังตั้งใจค่ะ ... กินๆ นอนๆ ตลอดดดด


วันนี้ก็เริ่มต้นเหมือนเดิมค่ะ เริ่มกันที่มื้อเช้า ... มื้อเช้าที่ The Sea-Cret เป็นบุฟเฟ่ต์ค่ะ เลือกตักเลือกเติมได้ตามชอบใจ


ไลน์อาหารไม่ได้อลังการ แต่ก็มีครบถ้วน ให้ตักได้อิ่มเต็มที่ ... เราตักข้าวผัด ไข่คน ไส้กรอก เบคอน มันฝรั่ง (จานมุมบนขวา) กับ ครัวซองท์ ... ส่วนที่เหลือนั่นของคนดีทั้งหมดค่า


อิ่มแล้วรีบกลับเข้าห้องพัก เปิดดีวีดีดูต่อค่ะ ดูติดพันมันสุดๆ ... ก่อนจะตัดใจไปอาบน้ำแต่งตัว เก็บข้าวของเตรียมย้ายที่พัก


รีบเช็คเอาท์ก่อนเที่ยง แล้วรีบตรงไปร้านอาหาร ... มื้อนี้คนดีบ่นอยากกินขนมจีนน้ำยาไก่ งั้นก็ต้องไปที่ ครัวกรรณิการ์ เท่านั้น


เมนูที่สั่งก็เหมือนเดิมค่ะ น้ำยากะทิไก่ เข้มข้น รสจัด ... ไก่ทอดโกศล หนังกรอบเนื้อแห้ง ... ปีกไก่ยัดไส้ กรอบนอกไส้แน่น ... จับทุกอย่างมารวมในจานเดียวกัน เมื่อน้ำยากะทิรสจัดจ้าน ได้ไก่ทอดกรอบมาช่วยลดทอนความเผ็ดลงไปบ้าง


กินไป สูดปากไป กว่าจะหมดปากเจ่อ เหงื่อตก ... เลยต้องหาของหวานมาช่วยทุเลา ลังเลระหว่าง ไอศครีม eighteen below กับ ลอดช่องสิงคโปร์ลุงดำ ... วนรถไปดูร้านไอติ,แล้ว เห็นรถจอดเพียบ สงสัยคนเยอะแน่ๆ วนรถกลับมาพึ่งลอดช่องเหมือนเดิมดีกว่า


ได้ลอดช่องคนละแก้ว ก็กลับขึ้นรถ ออกจากหัวหิน มุ่งหน้าไปชะอำกันค่ะ ... แป๊บเดียวเท่านั้นก็ถึง Alila Cha-Am โรงแรมที่มีความโดดเด่นเรื่องการออกแบบ และรายละเอียดต่างๆ


ส่ง voucher ให้กับพนักงานต้อนรับ นั่งพักดื่มน้ำอัญชันชื่นใจ ชมวิวรอเช็คอินที่ล็อบบี้พักเดียว พนักงานก็เดินนำพาไปที่ห้องค่ะ ... พอถึงห้องพักแบบ Horizon ที่จองไว้ พนักงานก็เดินแนะนำจุดต่างๆ


เริ่มจากระบบไฟควบคุมห้อง อุปกรณ์ต่างๆ ในห้องน้ำ มินิบาร์ ระบบควบคุมไฟหัวเตียง และที่สำคัญคือ Apple TV ค่ะ ... ภายในห้องมีสัญญาณไวไฟพร้อมใช้ โดยไม่ต้องล็อกอินหรือใส่พาสเวิร์ดอะไรเลย สะดวกมา ... และข้อดีของห้อง 632 คือ เป็นห้องชั้นบนสุดของตึกริมสุดที่มองเห็นวิวทะเลได้ค่ะ


เอกเขนกพักผ่อน ให้คนดีได้พักงีบ และเคลียร์งานสักหน่อย ... ก็ชวนกันลงไปเดินสำรวจมุมต่างๆ ของโรงแรม เดินรับลม ชมวิว เก็บภาพ ... ที่นี่มี 2 สระว่ายน้ำ และอยู่ติดหาดนะคะ แต่ตอนไปถึงน้ำขึ้น เลยไม่ได้เห็นสภาพหาด


เดินเล่นถ่ายรูปจนหนำใจ ท้องก็เริ่มหิวพอดี เดินไปที่ Cloud Loft ห้องอาหารมุมสูงของที่นี่ ... ไปถ่ายรูปกันอย่างสนุกสนาน ก่อนจะปักหลักทานอาหารเย็นกันเลย ... ไปถึงเร็ว เลยได้เลือกที่นั่งมุมไหนก็ได้ นั่งชมวิวตั้งแต่แดดร่มลมตก จนฟ้าเริ่มเปลี่ยนสี


ได้ยินมาว่า พิซซ่าที่นี่อร่อย ก็เลยต้องลองชิมสักหน่อย ... คนดีไม่สันทัด ไม่โปรดพิซซ่าเท่าไหร่ แต่เมื่อเปิดดูเมนูแล้ว ราคาอาหารไทย 1 จาน เท่ากับราคาพิซซ่า 1 ถาดพอดี งั้นก็สั่งพิซซ่าเถอะ ... เลยได้ พิซซ่าเป็บเปอโรนี่ มาลองชิม เนื้อแป้งบางมากกกกกกกกกก ชีสแน่น ทานตอนร้อนๆ อร่อยมากกกกกกกกกกกค่ะ


เลือกสั่ง ซีซาร์สลัด ใส่เนื้อไก่ มาทานคู่กับพิซซ่าค่ะ ตอนพนักงานยกมาเสิร์ฟถึงกับงง เพราะหน้าตาไม่เหมือนสลัดที่คุ้นเคย แต่ดูเหมือนเมี่ยงซะมากกว่า ... วิธีทานก็จับทุกอย่างมาผสมรวมกันเอง ก่อนจะส่งเข้าปาก หน้าตาดูต่างไป แต่อร่อยค่ะ


ส่วนเครื่องดื่มที่เห็น แก้วกลางคือมะนาวโซดา ที่สั่งมาดื่มระหว่างมื้ออาหาร ... ส่วนอีก 2 แก้วข้างๆ เป็น Mocktail ปิดท้ายมื้ออาหารระหว่างนั่งกินลมชมบรรยากาศกันต่อค่ะ แก้วซ้ายชื่อ Sea Breeze ของคนดี แก้วขวา Lychee Punch ของเรา เปรี้ยวๆ หวานๆ ชื่นใจทั้งสองแก้วค่ะ


กินอิ่มท้อง ชมวิวอิ่มตา ก็ชวนกันกลับขึ้นห้องไปตามดูดีวีดีกันต่อ ... กลับไปเจอพนักงานมา Turn Down ห้องให้เรียบร้อย นั่งพักย่อยสักแป๊บ ก็รีบอาบน้ำมาแหมะตัวบนที่นอน


พอหย่อนตัวลงที่นอนก็ร้องกรี๊ดกร๊าดทันที เพราะทั้งที่นอน หมอน ผ้านวม นุ่มมากกกกกกกกกกก ... เป็นเตียงนอนและชุดเครื่องนอนที่นุ่มสบายโดนใจที่สุด จัดให้เป็นเตียงที่เหมาะกับการนอนพักผ่อนจริงๆ เพราะนอนสบายมาก


คนดีเปิดดีวีดีดูบนโน้ตบุ๊ค เอกเขนกนอนดูด้วยกันพักเดียว เราก็ผล็อยหลับไปก่อน เพราะไม่สามารถต้านทานความนุ่มสบายของหมอนและที่นอนได้ ... ตื่นมาตอนดีวีดีจบหมดสต็อกแล้ว ตื่นมาเพื่อจัดระเบียบร่างกายให้นอนดีดี นอนสบายๆ แล้วก็หลับปุ๋ย


6.15 ของเช้าวันจันทร์ ตื่นมาเพราะเสียงมือถือที่ตั้งปลุก ... เดินงัวเงียสะเงาะสะแงะ ไปแหวกม่าน ยื่นหน้าทักทายดวงอาทิตย์ที่โผล่พ้นน้ำทะเล แล้วก็เดินกลับมาขดตัวบนที่นอนแสนสบายต่อ เพราะที่นอนสบายเกิน จากที่ตั้งใจจะตื่นเช้าไปเดินเล่น เลยกลับมาซุกตัวนอนต่อ


ตื่นอีกทีก็เกือบ 9 โมง ล้างหน้าแปรงฟัน ลงไปห้องอาหาร Motion ที่อยู่ใกล้สระน้ำ ... มีลูกค้าเข้าพักเยอะ มื้อเช้าเลยเป็นบุฟเฟ่ต์ มีเมนูให้เลือกพอสมควรค่ะ แต่ที่ไม่ควรพลาดคือ สเตชั่นเบเกอรี่ ... และควรจะลองชิมปาท่องโก๋อร่อยๆ ของที่นี่ด้วยค่ะ


อิ่มแล้วก็กลับขึ้นห้องพัก อาบน้ำ แต่งตัว เก็บสัมภาระ มุ่งหน้ากลับเข้าเมือง กลับสู่สภาวะปกติ ... ทริปนี้ได้พักผ่อนอย่างที่ตั้งใจ ได้เอาหวัดมาปล่อยทะเลเรียบร้อย หายป่วยกลับมาลุยงานกันต่อค่ะ

11.9.53

จับหวัดปล่อยทะเล หัวหิน-ชะอำ #1

ในเมื่อเป็นหวัดมาเป็น 10 วัน ไม่ยอมหายสักที ได้จังหวะลาพักร้อนพอดี เลยขอใช้โอกาสนี้จับหวัดไปปล่อยทะเลซะเลย ... ทริปนี้เลยเป็นทริปที่ตั้งใจไปพักผ่อนค่ะ กะจะกินๆ นอนๆ พักให้เต็มที่ ดูซิว่าหวัดจะยังเกาะหนึบอยู่มั้ย


ตั้งต้นออกเดินทางจุดเดิม บ้านคนดี ... 8.30 ล้อหมุน มุ่งหน้าตรงยิงยาวไม่มีแผนแวะเที่ยวระหว่างทางใดๆ ทั้งสิ้น แวะ A&W ซื้อเคอร์ลี่ฟรายกับชีสสติ๊กรองท้องสักหน่อย ... แล้วก็ขับเรื่อยๆ เฉื่อยๆ ฉุยๆ


มื้อแรกตั้งใจจะกินก๋วยเตี๋ยวปลา แต่เป็นความสับสนระหว่างเรากับคนดี เพราะมีร้านก๋วยเตี๋ยวเจ้าประจำอยู่ 2 ร้าน ... เรานึกถึงร้านนึง คนดีนึกถึงอีกร้านนึง แต่คนขับก็ยอมขับมาตามเนฯ ค่ะ


10.30 เลยเป็นเวลามื้อแรกแบบจริงจังของเรา ที่ร้านก๋วยเตี๋ยวปลาวีไอพี ใกล้เขาวัง จ.เพชรบุรีค่ะ ... ไปเร็วขนาดนี้ ลูกค้ายังไม่มี ร้านโล่ง นั่งทานได้แบบสบายๆ


ยังไม่หิวกันมากเลยสั่งก๋วยเตี๋ยวปลาคนละชาม ก๋วยเตี๋ยวร้านนี้ใช้เนื้อปลาสดๆ ลวก ที่เห็นเนื้อขาวๆ นั่นหล่ะค่ะ ปลานะคะไม่ใช่หมู แล้วกินกับน้ำจิ้มเต้าเจี้ยว อร่อยที่ซู้ดดดดดดดด อร่อยขนาดกวาดกันเกลี้ยงถ้วยแล้วต้องขอเพิ่มค่ะ ... มี เต้าหู้ทอด มาแบ่งกัน ตอนสั่งไม่หวังอะไร แต่เห็นป้ายแนะนำเลยมาลองชิมดู ปรากฎว่า อร่อยมากกกกกกกกกกก เนื้อเต้าหู้ผิวนอกกรอบๆ ตึงๆ ส่วนเนื้อในนุ่มนิ่ม น้ำจิ้มก็กลมกล่อม เปรี้ยว เค็ม เผ็ด หวาน ครบรส โดนใจ ติดใจ


อิ่มแล้วก็ขับตรงเข้าหัวหิน ไม่ได้ตรงไปที่พักนะคะ แต่ตรงไปร้านของหวานค่ะ ... ลอดช่องสิงคโปร์ลุงดำ เจ้าอร่อย เจ้าโปรด เจ้าประจำ


เย็นๆ หอม หวาน ชื่นใจ ... แก้วเดินเล็ก 1 แก้วเดินใหญ่ 1 ไม่ใส่ขนุนทั้งคู่ ... ถือขึ้นมาดูดปรื๊ดดดด ปรื๊ดดดด บนรถ อร่อย เพลิน แป๊บเดียวก็ถึงที่พักค่ะ


The Sea Cret Hua Hin ใน ซ.หัวหิน 75/2 ค่ะ ... ซอยเล็ก ต้องเล็งป้ายดีๆ สักหน่อยค่ะ เลี้ยวเข้าไปแล้วเจอที่จอดรถมี รปภ. คอยดูแลให้อุ่นใจ


ยกกระเป๋าเข้าไปเช็คอิน ไปถึงเวลาไพรม์ไทม์พอดี ลูกค้าเช็คเอาท์-ลูกค้าเช็คอิน ออกันอยู่เต็มหน้าเคาเตอร์ ... แต่รอแป๊บเดียวก็ได้เข้าห้องพักค่ะ


เข้าห้องพักได้ ก็เริ่มพักผ่อนเลยค่ะ ... เปิดทีวีหยิบแผ่นดีวีดีมานอนเอกเขนกดูแบบมาราธอน จบแผ่นเปลี่ยนแผ่นใหม่ จบแผ่นเปลี่ยนแผ่นใหม่ ดูกันจนหิวก็ชวนกันออกไปหาอะไรหม่ำ


เป็นมื้อเย็นที่หม่ำค่อนข้างเร็ว เพราะราวๆ 5 โมง เราก็ออกจากที่พักกันแล้วค่ะ ... ตั้งใจว่าจะทานมื้อเย็นแบบเบาๆ เพราะเราจะเก็บตกขนมหวานในตลาดโต้รุ่งกันค่ะ


มื้อเบาๆ เลยเลือกร้านข้าวต้มเจ๊แมว ... ร้านข้าวต้มเครื่อง เป็นตึกแถวอยู่บนถนนเดชานุชิต เพราะไปเร็วร้านโล่ง ไม่มีลูกค้านั่งในร้าน แต่มีลูกค้าสั่งใส่ถุงอยู่ สั่งไม่เยอะหรอกค่ะ 50 ถุงเท่านั้น ... ได้ยินแล้วก็พอจะการันตีได้ว่าต้องอร่อยหล่ะ


ที่นี่ไม่ได้มีแต่ข้าวต้มเครื่องนะคะ ยำ ต้มยำ ต้มจืดก็มีให้สั่งหลายเมนูค่ะ ... ลูกค้าสั่งใส่ถุงใจดี บอกว่าให้ผลัดมาทำให้เราสองคนบ้างก็ได้ เราเลยไม่ต้องรอนานเกิน


ข้าวต้มปลา เนื้อปลาสดๆ น้ำซุปกลมกล่อม เมล็ดข้าวหุงมากำลังดี กินกับน้ำจิ้มเต้าเจี้ยว อร่อยอีกแล้วค่ะ น้ำจิ้มเต้าเจี้ยวร้านนี้ดูใสมีขิงสับผสมอยู่ด้วย เรียกว่าเนื้อสัตว์ทั้งปลา กุ้ง หมึก ที่สั่งมา กินกับน้ำจิ้มนี้ได้ทุกชนิด อร่อยเข้ากันดี จัดการจนเกลี้ยงถ้วยต้องขอเติมเพิ่ม ... ยำปลา เนื้อปลาสดๆ ลวก ยำมากลมกล่อม ... ต้มยำรวมมิตร น้ำใสหอมสมุนไพร


จัดการมื้ออร่อยแบบเบาๆ ได้ตามเป้าหมาย ก็ได้เวลาเดินย่อย และหาของหวานเพิ่มกันค่ะ ... เดินข้ามไปตลาด ที่เพิ่งตั้งร้าน คนยังไม่พลุกพล่านมากนัก เดินได้สบายๆ ไม่ต้องเบียด


ตรงดิ่งไป ร้านไอติเจ๊นิ ร้านโปรด ไอติมชาเย็นกับมันเชื่อม ไอติมเข้มข้นได้รสชาเย็นเต็มๆ ส่วนมันร้านนี้ก็อร่อยเด็ดจริงๆ ... เดินกินไอติมไป ชมตลาดไป คนดีกะจะกินข้าวโพดปิ้ง แต่มาเร็วไปร้านยังตั้งไม่เสร็จเลยอด กะว่าจะเดินวนไปมารอร้านเปิด แต่ฝนลงเม็ดบางๆ เลยชวนกันกลับดีกว่า ...


ก่อนกลับแวะซื้อ โรตีโอวัลติน ร้านโรตีอินเตอร์ ตรงปากทางเข้าตลาด ที่มีป้ายแสนสุขชวนชิม ... ตอนแรกลังเลว่าจะซื้อโรตีร้านไหนดี เพราะมีหลายร้านให้เลือกเหลือเกิน ลองสุ่มดูร้านนี้ แล้วก็ไม่ผิดหวังค่ะ คำแรกที่เข้าปากประทับใจสุดๆ เนื้อแป้งบางกรอบ แต่ไม่ร่วนเปราะ โรยหน้ามาเข้มข้น ติดใจจนอยากจะลองชิมหน้าอื่นๆ ดูบ้าง


เอร็ดอร่อยกันแล้ว แต่ยังไม่จบค่ะ แวะไปซื้อเบอเกอร์คิงตุนไว้อีกชุดนึง ... แวะซื้อของใช้เล็กๆ น้อยๆ แล้วตรงเข้าที่พัก ไปดูดีวีดีซีรี่ส์กันต่อ


นั่งดูซีรี่ส์พออาหารเริ่มย่อยก็ออกไปแช่จากุชชี่ที่ด้านหลังห้อง ให้แรงดันน้ำช่วยจัดเรียงอาหารในกระเพาะ ... แล้วกลับเข้ามาเติมเบอเกอร์ไปพร้อมๆ กับดูซีรี่ส์ต่อ แล้วถึงได้อาบน้ำ แปรงฟัน มาเอกเขนกดูดีวีดีกันอย่างจริงจัง


ก็ตั้งเป้าไว้แล้ว ว่ามาพักผ่อน กินๆ นอนๆ ก็ทำตามแผนเป๊ะเลยค่ะ ... วุ่นวายอยู่แต่เรื่องกิน กับนอน จริงๆ


ส่วนวันพรุ่งนี้จะพักผ่อนยังไง ติดตามได้ ที่นี่ ค่ะ

10.9.53

หวัด...ฮัดชิ้ว

บ่ายๆ วันอาทิตย์ 29 สิงหา จู่ๆ ก็จามฮัดชิ้วเป็นชุด ... ชุดแรกคิดว่าสงสัยจะแพ้อะไร แต่ยังจามเป็นชุด 4-5 ชิ้ว อีกหลายชุด ... เจอแบบนี้ เห็นแววจะเป็นหวัดลอยมารำไร ไม่ทันไรน้ำมูกใสๆ ก็เริ่มหยดย้อย ... อะไรกันนี่ เป็นหวัดได้ไง


พยายามดื่มน้ำเยอะๆ แต่ก็ไม่สามารถไล่หวัดให้ปลิวออกไปได้ ... เช้าวันจันทร์ 30 สิงหา เจ็บคอ เสียงแหบแห้ง น้ำมูกย้อยยยยยยยยย หนักกว่าเดิม ยังดีที่ไม่มีไข้ ... เห็นอาการตัวเองแบบนี้เลยลาหยุดงาน 1 วัน ... นอนพักเต็มที่ นอนจนแทบจะโดนที่นอนดูด ซัดยาลดน้ำมูกไปด้วย และอัดยาอมแก้เจ็บคอเต็มที่


เช้าวันอังคาร 31 สิงหา อาการไม่ดีขึ้น แต่ไม่อยากนอนอยู่บ้านแล้ว ไปทำงานในสภาพมนุษย์หน้ากาก ที่เสียงแหบแห้ง ห้าวสุดๆ ... นั่งทำงานไปเริ่มมึนหัว และที่สร้างความรำคาญใจคือ หายใจเหนื่อย รู้สึกหายใจได้ไม่เต็มปอด ... บ่ายแก่ๆ เลยออกไปใช้สิทธิประกันสังคมรับยาสักหน่อย


หมอถามอาการ และฟังเสียงปอดอยู่พักใหญ่ ... ไม่มีไข้สูง ไม่เวียนหัว ไม่ท้องเสีย หมอเลยวินิจฉัยว่าเป็นหวัดธรรมดา แต่ถ้ามีอาการที่ว่าเพิ่มขึ้นมา และหายใจเหนื่อยหอบมากขึ้นก็ให้กลับมาตรวจอีก


ได้ยาลดไข้ ยาลดน้ำมูก ยาแก้ไอ-ละลายเสมหะ ... ไข้ไม่มี มีน้ำมูกใส ไม่ไอ แต่มีเสมหะ ... พอกินยาเข้าไปได้เรื่องเลยค่ะ


วันพุธ 1 กันยา ตื่นมาพร้อมกับไข้รุมๆ และไอโขลก ไอ้ที่เหนื่อยอยู่แล้วเลยยิ่งเหนื่อยหนัก ... ยัง ยังไม่พอ น้องหัวแตก (มีรอบเดือน) มาพอดี มาซ้ำให้เพลียกันสุดๆ เลยต้องลาหยุดอีกวัน


วันพฤหัส 2 กันยา อาการไข้หายไป แต่ที่เหลืออยู่ครบ ทั้งเหนื่อยทั้งเพลีย แต่หยุดต่อไม่ได้แล้ว มีเอกสารต้องเคลียร์ ... พาสังขารไม่ชวนมองไปออฟฟิศ


วันศุกร์ 3 กันยา อาการดีขึ้นนิดนึง ไม่เพลียแล้ว แต่อาการของหวัดยังอยู่กันครบถ้วน และหายใจเหนื่อยเหมือนเดิม


วันเสาร์ 4 กันยา อาการเริ่มดีขึ้น เจ็บคอน้อยลง เลยพาสังขารไม่เต็ม 100% ไปเดินซื้อ voucher ในงานไทยเที่ยวไทย ... มนุษย์หน้ากากรีบเดินทางแต่เช้า เพราะไม่อยากเจอคนเยอะ ไม่อยากรับเชื้อ หรือ แพร่เชื้อเพิ่ม ... ได้ voucher เรียบร้อยก็ตะลอนทัวร์กับคนดี แต่ตะลอนมากไปหน่อย อดหลับอดนอนกลับบ้านเช้า


วันอาทิตย์ 5 กันยา อาการที่เหมือนจะดีขึ้นเลยวูบกลับมาเหมือนเดิม ... แถมมึนหัวหนัก เพราะนอนน้อย นอนผิดเวลา


วันจันทร์ 6 กันยา ... เป็นมนุษย์หน้ากากมา 7 วันเต็ม หวัดก็ยังไม่ยอมจากไปสักที เลยต้องคงสภาพมนุษย์หน้ากากต่อไป เพราะไม่อยากแพร่เชื้อให้สาวๆ ... นายเพิ่งกลับจากต่างประเทศมาเห็นสภาพถึงกับงง ว่าลูกน้องเป็นอะไร


โชคดีที่สัปดาห์ต่อมางานไม่วุ่นวาย ไม่ยุ่งนุงนังเกิน ทำงานไปเรื่อยๆ พร้อมกับกินยารักษาอาการไปเรื่อยๆ ... แต่ที่น่ารำคาญคือ ไอมากกกกกกกก มากขึ้นเรื่อยๆ ตื่นมาไอตอนตี 3 หลับไม่อิ่ม ชวนหงุดหงิดรำคาญใจจริงเชียว


ได้แต่กินยารักษาอาการ และนับวันรอว่าเมื่อไหร่หวัดจะยอมจากไปสักที อยู่ด้วยกันมาร่วม 10 วันแล้ว นับว่าเป็นหวัดนานที่สุดเท่าที่เคยเป็นหวัดแล้ว


ถ้าไม่ยอมไปง่ายๆ ก็อยู่ด้วยกันแบบนี้ไปเรื่อยๆ แหละ เดี๋ยวจะเอาไปปล่อยทะเลซะเลย