30.1.54

Big Birdy's Family Trip : อยุธยา

คนดีจัดทริปพาที่บ้านตะลอนเที่ยวอีกแล้วค่ะ ... เป็นทริปทัวร์วัฒนธรรม ไหว้พระ 9 วัด เพราะเห็นว่าเริ่มต้นปีใหม่ ชวนกันไปไหว้พระเสริมสิริมงคลกันสักนิด น่าจะดี


นัดสมาชิกรวมตัวพร้อมออกเดินทาง 8 โมงเช้า ... ทริปนี้ต่างไปจากทริปก่อนๆ ตรงที่ คนดีเช่ารถตู้ไปค่ะ


ตอนแรกคนดีกะว่าจะนั่งไปสบายๆ ไม่ต้องขับเอง และไม่ต้องเสียเวลาวนหาที่จอดรถ ... เดิมไปกันหลายคน หลายคัน ต้องหาที่จอดรถเยอะ เหมาไปรถคันเดียวกันแบบนี้น่าจะสะดวกดี ... แต่ผลปรากฎว่า สมาชิกตอบรับคับคั่ง เกินความจุที่รถตู้จะรับไหว คนดีเลยต้องขับรถตัวเองไปอีกคัน


เริ่มต้นกันที่ วัดท่าการ้อง - วัดกษัตราธิราช - วัดไชยวัฒนาราม - วัดมงคลบพิตร - วัดสุวรรณดาราราม - วัดใหญ่ชัยมงคล - วัดพนัญเชิง - วัดหน้าพระเมรุ - วัดศรีโพธิ์


เป็นการวนไหว้พระ 9 วัด แบบที่ไม่เหมือนใคร เพราะมีเงื่อนไขอยู่นิดนึงตรงมื้อเที่ยงค่ะ ... เพราะตั้งใจจะแวะไปทานข้าวกันที่ร้านก๋วยเตี๋ยวผักหวาน จัดเป็นร้านประจำที่มาอยุธยาทีไร แวะทุกที ... มาครั้งนี้ก็ตื่นตาตื่นใจ เพราะร้านขยายออกไปมาก ส่วนอาหารก็ยังถูกปากเหมือนเดิม สั่งกันมามากมายหลายเมนู จำไม่ได้ และถ่ายรูปไม่ทัน


เพราะสมากชิกของทริปนี้ มี 12 ชีวิต แล้วแต่ละคนก็หิวกันถ้วนหน้า อาหารมาวางปุ๊บ ก็จัดการปั๊บ ... ขืนมัวถ่ายรูปอยู่ คงโดนสมาชิกต่อว่าแน่ๆ ค่ะ


เบื้องหลังลูกทัวร์ กับ เบื้องหน้าไกด์


เริ่มต้นไหว้พระไป 4 วัด หยุดพักมื้อเที่ยง แล้วก็ตะลุยไหว้พระกันต่อค่ะ ... ไปแบบเรื่อยๆ ไม่รีบร้อน เพราะมีผู้สูงอายุมาด้วย ไหว้พระบ้าง แวะซื้อของฝากบ้าง พักบ้าง ตามสะดวกไป


ไหว้พระครบ 9 วัดตามที่ตั้งใจแล้ว ก็เที่ยวต่ออีกสักนิดค่ะ ... จุดหมายคือ ตลาดน้ำอโยธยา ไม่เคยมีสมาชิกคนไหนมาเลย รวมถึงเราสองคนด้วย ... เดินสำรวจตลาดตื่นตาตื่นใจกับสารพันของกิน แต่ที่ถูกใจมากที่สุดก็ต้อง ป้อนนมแพะนี่หล่ะค่ะ


เรา คนดี และพี่ชายคนดี ได้ที่จอดรถก่อน ลงเดินจากที่จอดรถมานิดนึงก็เจอซุ้มนี้ เลยหยุดแวะป้อนนมแพะกันก่อน ระหว่างรอสมาชิกมาสมทบ ... ดูลูกแพะหิวโหยกันทุกตัว พอเห็นขวดนมก็มุดหัว โผล่หน้า ลอดซี่ไม้ออกมาขอกันสลอน


บ้อนนมแพะ เดินชมตลาด ซื้อของกินเล่นเพลินๆ นั่งพักพอให้หายเหนื่อย ก็เตรียมตัวกลับกันค่ะ ... แต่ก่อนจะกลับต้องแวะซื้อโรตีสายไหมก่อน ไม่งั้นเดี๋ยวมาไม่ถึงค่ะ แล้วต้องเป็นโรตีสายไหมร้านโปรด ร้านประจำ ร้านเดิมเท่านั้นนะคะ ... ลุ้นกลัวว่าร้านจะปิดก่อน เพราะเย็นแล้ว แต่พอไปเจอว่าร้านเปิดอยู่ คนรอเข้าคิวไม่มากนัก ดีใจ๊ ดีใจ สั่งโรตีคนละ 2-3 ชุดติดมือกลับบ้าน


ตรงดิ่งยิงยาวเข้ากรุงเทพฯ แต่ยังไม่กลับบ้านค่ะ ไปแวะทานมื้อเย็น ร้านสเต็กยิ้ม แถวเอกชัยก่อน ... สั่งเต็มที่ กินเต็มพิกัด อิ่มจนเกินจะอิ่ม แล้วถึงได้แยกย้ายกันจริงๆ ปิดทริปกันสักที


เป็นอีกทริปที่อบอุ่น และน่าประทับใจ ... อิ่มท้อง อิ่มบุญ อิ่มใจ ครบบบบบบบ

29.1.54

Big Birdy's Birthday Party

เพราะคนดีกับน้องคนเล็ก (ลูกพี่ลูกน้อง) ของบ้าน เกิดเดือนมกราคมเหมือนกัน ... เลยได้โอกาสจัดงานเลี้ยงฉลองวันเกิดพร้อมกันไปเลยค่ะ


งานเลี้ยงของบ้านคนดี ก็สไตล์เดิมค่ะ คือ โซ้ยอี๊รับหน้าที่แม่ครัวหลัก ทำอาหารตามความชอบของหลานๆ และ ลูก ... แล้วหาเมนูอื่นๆ มาเสริมเพิ่มอีก


คราวนี้ก็มีอาหารหลากหลายรายการ หลายสัญชาติ หลายสไตล์เหมือนเคยค่ะ ... ไก่คาราเกะ ไก่ย่าง ลาบหมู หมูสะเต๊ะ ปลานิลเผา เส้นหมี่แห้งลูกชิ้น สปาเกตตี้ซอสหมู ต้มซุปเปอร์ ... อิ่มมมมมมมมม กันถ้วนหน้า


อยากจะถ่ายรูปประดาของกินทั้งหลายแหล่ เวลามีงานเลี้ยงของบ้านนี้จริงๆ เพราะจัดเยอะ จัดเต็ม ตลอด กินกันอิ่มเกินจะอิ่มทุกครั้ง ... แต่ไม่เคยถ่ายรูปทันสักทีค่ะ เพราะพอทยอยจัดโต๊ะ จัดของ สักพักก็ได้เวลาเริ่มหยิบอาวุธลงมือกันได้เลย แล้วสมาชิกบ้านนี้จัดเป็นสายแข็ง ... ถ้ามัวแต่ถ่ายรูปอยู่ อาจจะถูกเคืองได้


อิ่มแล้วก็ช่วยกันเก็บ ล้าง ก่อนจะแยกย้ายสลายตัวค่ะ ... วันรุ่งขึ้นยังมีนัดกับสมาชิกของบ้านกันอีกรอบค่ะ มีทริปเฉพาะกิจอีกแล้วค่า

27.1.54

HBD Big Birdy 2011

"Happy Birthday To You .. Happy Birthday To You .. Happy Birthday Happy Birthday Happy Birthday To You ... Happy Birthday To My Big Birdy"


ส่งเพลง Happy Birthday ให้คนดีผ่านทาง Whatsapp ตอนเช้า แล้วมาอวยพรผ่านทาง facebook อีกหน่อย ... จากนั้นก็รอ ร้อ รอ รอเวลาที่คนดีจะมาถึงค่ะ


ที่นั่งรอคนดีมาถึง ไม่ได้มีแค่เรานะคะ สาวๆ ในออฟฟิศก็รออยู่ค่ะ ... พอคนดีมาถึง เราก็แจกกอด พร้อมกระซิบ Happy Birthday อีกรอบ แล้วชี้ชวนให้ดูนั่นโน่นนี่ตรงโต๊ะทำงาน


สักพักสาวๆ ก็ยกเค้กชอคโกแลตมาให้ พร้อมยกขบวนมาร้องเพลงอวยพรวันเกิด ... อธิษฐาน เป่าเทียนเรียบร้อย ก็ได้เวลาแบ่งความอร่อยให้อิ่มกันถ้วนหน้าค่ะ


ได้เค้กเป็นของว่างช่วงบ่ายแล้ว ก็แยกย้ายกันกลับไปทำงาน รวมถึงเจ้าของวันเกิด ที่เปิดโน้ตบุ้คนั่งทำงานเหมือนกัน ... มีงานมาส่ง คนดีเลยลุกไปรับ ไปตรวจงาน เราเลยได้โอกาสหยิบของขวัญมาวางไว้ด้านหลังโน้ตบุ้ค


คนดีกลับมานั่งทำงานก๊อกๆ แก๊กๆ อีกพักใหญ่ กว่าจะเห็นว่ามีของขวัญวางอยู่ ... พอเห็นแล้วก็หน้าบานแฉ่งอย่างที่เห็นนี่หล่ะค่ะ


บรรจงแกะของขวัญ พอเจอของด้านในก็ยิ้มกว้าง เพราะกำลังอยากได้เคสสำหรับไอแพด แต่ยังไม่เจอที่ถูกใจ ... เราเลยจัดหามาให้ ไม่รู้ว่าถูกใจรึเปล่า แต่เห็นยิ้มแฉ่งขนาดนี้ก็น่าจะชอบหล่ะน้าาาา


นั่งทำงานจนถึงเวลาเลิกงาน ก็ได้เวลาไปฉลองค่ะ ... ลังเลอยู่นานว่าจะไปฉลองวันเกิดที่ไหนดี เราเสนอร้านให้คนดีที่เป็นเจ้ามือเลือกหลายร้าน แต่เจ้ามือก็ตามใจให้เราเลือกได้ตามชอบ ... เปิดบล็อกเก่าย้อนดูว่าปีที่แล้วไปฉลองที่ไหนกันมาน้อ ปีนี้จะได้เลือกร้านต่างจากเดิม


คอฟฟี่บีนส์ บาย ดาว คือ ตัวเลือกของปีนี้ค่ะ ... เพราะเราทั้งคู่ไม่ได้มานานแล้ว และมีอาหารอร่อย พร้อมเค้กอร่อยๆ เหมาะเจาะลงตัวที่สุด


สปาเกตตี้ปลาสลิด ลาบปูนิ่ม บะหมี่ราดหน้าปูกับบรอคโคลี่ ... อร่อยทุกจานเหมือนเดิมค่ะ อิ่ม อร่อย กำลังสบาย ปิดท้ายด้วย ไวท์ชอคโกแลตชีสเค้ก ของโปรดของเราทั้งคู่


จังหวะที่คนดีลุกไปห้องน้ำ เราจัดการเรียกเก็บตังค์ แล้วชิงจ่ายตังค์ซะก่อน ... จะให้เจ้าของวันเกิดจะมาเป็นเจ้ามือได้ยังไงหล่ะคะ


คนดีจ๋า ... ขอให้มีความสุขมากๆ นะคะ สุขภาพแข็งแรง การงานรุ่งเรือง เจอลูกค้าใจดีคุยง่ายๆ จ่ายตังค์คล่องๆ มีซัพพลายเออร์คุยรู้เรื่อง ทำงานเรียบร้อย ได้ลูกน้องเก่งๆ ช่วยแบ่งเบาภาระ ... ขอให้มีเรื่องดีดีเกิดขึ้นทุกๆ วันเลยค่า

25.1.54

English Class #10

ครั้งที่ 10 แล้วค่า เหลืออีก 5 ครั้งก็จะจบคอร์สแล้ว ... เวลาผ่านไปรวดเร็วจริง


คลาสนี้มีนักเรียนเริ่มต้น 4 คน อีก 2 คนติดงานอยู่ตามมาสมทบเมื่อผ่านไปครึ่งทางแล้ว ... ขาดเรียน 1 คน เพราะติดงานนุงนังเกินจะเคลียร์ได้ทัน


คลาสนี้ยังคงต่อเนื่องจากคลาสที่แล้ว ยังเป็น Listening & Pronunciation อยู่ ... เปิดคลาสมาครูก็ให้หัดพูด หัดออกเสียงกันเลย ต่ำๆ สูงๆ สนุกสนานแบบมึนๆ เพราะก้มๆ เงยๆ หน้าประกอบไปด้วย


แล้วไปต่อกันที่ suffix อีกนิด เอาการบ้านที่หาศัพท์มาเพิ่มมาตอบ มาคุย มาอธิบายให้กระจ่างใจ ... เข้าใจ แต่ก็ยังงง


พอนักเรียน 2 คน ตามมาสมทบ เลยโดนจับให้หัดออกเสียงด้วย ... โดยเฉพาะคนดีที่ขาดเรียนคลาสที่แล้ว และไม่ว่างให้เราอธิบายอะไรเพิ่มเติม มาเจอใหม่ๆ สดๆ ตอนนี้ก็ดูจะมึนงงไม่ใช่น้อย ... แล้วยังเป็นพวกออกเสียงพลาดได้ง่าย พูดรัวเร็ว ลิ้นพันกันไม่เป็นภาษาอยู่บ่อยๆ เลยเป็นที่จับตามองว่าออกเสียงแบบนี้ คงทำให้สมาชิกได้ฮาเฮกันแน่


จริงดังคาดค่ะ เพราะคนดีออกเสียงผิด-ถูก บ้าง แต่ที่ทำให้ฮาคือ หน้าตาและท่าประกอบการอ่านออกเสียง ... เป็นคลาสที่ได้ขำอีกแล้ว


พอมีคนดีเข้าเรียน เป็นต้องมีเรื่องได้ฮาจริงๆ

24.1.54

ปัดฝุ่นบล็อก

ปล่อยบล็อกทิ้งร้างไว้เป็นเดือน ไม่เค้ย ไม่เคยเว้นว่างการอัพบล็อกนานขนาดนี้ ... เสียประวัติสุดๆ


เรื่องที่จะเขียนมี แต่ตัวขี้เกียจกระโดดเกาะหลัง สลัดไม่ยอมหลุด ... เคลียร์เอกสารปลายปี ยุ่งนุงนังพอตัว แล้วยังมัวแต่จ่อมจมอยู่กับเกมที่ facebook และขี้เกียจแต่งรูปประกอบบล็อก เลยดองไว้ซะนานโข


จดโน้ตไว้ว่าวันไหนมีเรื่องอะไรที่อยากจะเก็บบันทึกลงบล็อกไว้บ้าง จดๆๆๆๆ ไว้จนมีมากมายหลายเรื่อง จนจะล้นแล้ว ก็ยังไม่ได้ทยอยปล่อยลงบล็อกเลย ... จนบางเรื่องจะลืมแล้ว


ได้ฤกษ์ได้เวลา ปัดฝุ่น กวาดหยากไย่ ไล่แมงมุม ที่เกาะท่วมบล็อกออกสักที ... แล้วจะทยอยปล่อยบล็อกย้อนหลังตามวันออกมาเรื่อยๆ ทั้งครึ่งเดือนหลังของธันวา 53 และ ครึ่งเดือนแรกของมกรา 54 ... ใครแวะมาดู แวะมาอ่าน ก็ต้องกดย้อนหลังดูตามลำดับได้ที่ My Memoir นะคะ


เตรียมตัวเจอกับบล็อกเก่าๆ ทยอยมาเล่าเรื่องอดีตที่เพิ่งผ่านมาไม่นานกันได้ค่า

23.1.54

ทริป ส ว วังน้ำเขียว #2

ย้อนไปดูเรื่องชวนปวดหัวเมื่อวานได้ ที่นี่ ค่ะ


6 โมงนิดๆ เหล่าประดา ส ว ทั้งหลายก็ทยอยตื่นค่ะ ตื่นมาคุยกันคิกคัก ดื่มกาแฟ และหม่ำมื้อเช้า ... เราเลยตื่นมาล้างหน้า แปรงฟัน แล้วลุกไปตักข้าวต้มเห็ดหอม หมูสับ มานั่งหม่ำ ... อร่อยค่ะ


เติมพลังมื้อเช้าเรียบร้อยแล้วก็อาบน้ำ แต่งตัว เก็บของ ออกเดินทางกันต่อค่ะ ... ขามามาทางฉะเชิงเทรา ปราจีน แต่ขากลับจะวนกลับทางโคราช สระบุรี จะได้วนเที่ยวเป็นวงกลมพอดี


จุดหมายต่อไปของทรินปี้คือ วัดป่าภูหายหลง ค่ะ ... หม่ามี้ตั้งใจจะมาไหว้พระ ทำบุญ เพราะมีญาติแนะนำมา ขับรถวนหาไม่นานนัก ก็เจอค่ะ


ถึงแล้วยังมีภารกิจไต่บันไดกันต่อค่ะ เพราะพระอุโบสถอยู่บนเขา ... ขึ้นบันไดไปร้อยกว่าขั้น แม้แดดจะแรง แต่ก็มีลมเย็นๆ พัดมาสบายๆ ที่สำคัญวิวดีมากกกกกกกกกก


เดินขึ้น-ลงบันไดขนาดนี้ เหนื่อย และหิวอีกแล้วค่ะ ... มุ่งหน้าไปเขาใหญ่ หม่ามี้สนใจอยากจะไป Palio กว่าจะไปถึงคนคงแน่นเต็มแน่ๆ ระหว่างนี้ แวะหาร้านอาหารกลางวันก่อนดีกว่า


เจอ ครัวสงกรานต์ ระหว่างทาง ลองแวะดูแล้วกัน ... มีขายทั้งก๋วยเตี๋ยว อาหารตามสั่ง อาหารจานเดียว และกับข้าวอีกหลายอย่าง ... คณะ ส ว เลยสั่งกันให้หนำใจ แล้วยังหยิบถุงผักสลัดสดๆ ที่ซื้อจากวังน้ำเขียว มาขอให้ทางร้านช่วยหั่น และจัดจานให้


เป็นการสุ่มเสี่ยงเลือกร้านอาหารที่โชคดีค่ะ อาหารอร่อย ประทับใจอีกร้าน ... อิ่มแล้วก็ไปเที่ยวกันต่อ มุ่งหน้าไป Palio แต่พอไปถึง เห็นรถที่จอดหนาแน่น และคนเดินกันวุ่นวาย คณะ ส ว เลยถอดใจ ไว้โอกาสหน้าค่อยแวะแล้วกัน


ไม่แวะเที่ยวแล้ว แต่ยังแวะซื้อของฝากค่ะ ร้านครูต้อ ตรงมวกเหล็ก คือร้านประจำ ... มาเจอคนหนาแน่นอีกแล้ว เข้าคิวรอจ่ายเงินกันยาว ทำเอาพ่อถอดใจไม่อยากไปเข้าคิวด้วย ... ส่วนเราแวะไปซื้อกะหรี่พัฟเจ้าอร่อย เจ้าประจำที่อยู่ใกล้ๆ


จากนั้นก็ขึ้นรถตรงดิ่งกลับบ้านกันค่ะ ... เป็นทริปเปลี่ยนที่นอนและชวนกันตะลอนชิมแท้ๆ เลยค่ะ ไม่ได้แวะเที่ยวอะไรจริงจังนัก หนักไปทางกินเป็นหลัก ... ก็เรื่องกินเรื่องใหญนี่คะ

22.1.54

ทัวร์ ส ว วังน้ำเขียว #1

กลับจากปาร์ตี้ปีใหม่ของออฟฟิศ ถึงบ้านเกือบตี 2 ... ถึงบ้านปุ๊บก็รีบจัดการเก็บเสื้อผ้าลงกระเป๋า เตรียมออกเดินทางไปเที่ยวกับคณะ ส ว ที่บ้านค่ะ


กว่าจะเก็บกระเป๋าเสร็จก็เกือบตี 3 ... อาบน้ำรวบรอบเย็น และ รอบเช้า แล้วก็แต่งตัวเตรียมออกเดินทางได้เลย เพราะล้อหมุนตี 5 ... แต่ต้านทานความง่วงงุนไม่ไหว ผล็อยหลับไปได้ราวๆ ครึ่งชั่วโมง หม่ามี้ก็มาเคาะประตูเรียก


ทริปนี้จัดเป็นทริปประจำปีของที่บ้านค่ะ เพราะเป็นทริปฉลองวันเกิดหม่ามี้ล่วงหน้า ... แผนเดิมตั้งใจจะไปทำบุญสร้างกุฏิที่กาญจนบุรี แต่พอหม่ามี้เห็นงานดอกไม้ที่วังน้ำเขียว เลยเปลี่ยนใจ เปลี่ยนแผนมาที่นี่แทน


มาแค่วังน้ำเขียว แล้วทำม้ายยยยย ทำมายยยยย ต้องออกเดินทางตั้งแต่ตี 5 อ่ะเหรอคะ ... เพราะต้องแวะรับสมาชิก ส ว แล้วจะไปหม่ำข้าวเช้ากันที่ พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ค่ะ


มื้อเช้า มื้อแรกของทริปนี้ อยู่ที่ ร้านข้าวมันไก่ เจ้าอร่อย ของเพื่อนพ่อ ที่ปกติจะเปิดร้านขายตอน 11 โมง ... แต่วันนี้เปิดเร็วกว่าปกติตามคำขอของชาวคณะที่คุ้นเคยกันเป็นอย่างดีค่ะ ... อิ่มจากมื้อเช้า และนั่งเม้าท์กันสักพักแล้ว ก็มุ่งหน้าไปวังน้ำเขียวกันค่ะ ... เราซึ่งอดนอน ก็ปิดสวิทช์เครื่องตัวเอง หลับได้ตามสบาย เพราะทริปนี้ไม่ต้องทำหน้าที่เนฯ


มาตื่นอีกทีก็จวนจะถึงที่พักแล้วค่ะ ... ที่พักคราวนี้ชื่อ บ้านไร่ภูแผงม้า วิวสวย บรรยากาศดี แต่ไม่ได้เก็บภาพห้องพักมาเลย เพราะหิว เหนื่อย และ ง่วง


หลังจาก ส ว ทั้งหลาย เดินสำรวจที่พัก ชมวิว พักผ่อน จนท้องเริ่มร้องก็ชวนกันออกไปหม่ำมื้อเที่ยงตอนบ่ายนิดๆ ... เวลานี้ ร้านไหนๆ ก็คนเยอะ โดยเฉพาะร้านชื่อดังๆ เห็นรถจอดเพียบบบบบ


ผ่านไปเจอร้าน ครัวทะเลวิว มีป้ายหน้าร้านโฆษณาชวนเชื่อ 9 อย่าง ... พ่อครัว 9 คน 9 กระทะ ที่โดนใจคือ อาหารออกใน 9 นาที ... เอ้า ลองกันหน่อย


คนเยอะ แต่มีโต๊ะว่างพอดี นั่งปุ๊บก็รีบเปิดเมนูสั่งอาหาร ... ผัดหมี่โคราช ส้มตำไทย ส้มตำลาว คอหมูย่าง ผัดยอดมะระ ปลาเนื้ออ่อนผัดพริกแกง แกงส้มชะอมกุ้ง ... สั่งจบก็นั่งรอดูซิว่า อาหารจานแรกจะออกได้ภายใน 9 นาที อย่างที่ป้ายเขียนไว้รึเปล่า


ระหว่างรออาหาร ก็ต้องหยิบจาน หยิบช้อนส้อมเอง ไม่เป็นไร ลูกค้าเยอะ เข้าใจ ช่วยๆ กันไป บริการตัวเองบ้าง ... แต่พอพนักงานหยิบแก้วมาเสิร์ฟ แล้วคว่ำแก้วเปียกๆ ลงบนโต๊ะ เอ๊ะ อะไร ยังไง ... เอ้า ไม่เป็นไร เอาทิชชู่เช็ดซ้ำอีกรอบก็ได้ น้องเค้าคงเหนื่อยจนเบลอ


รอสักพัก (เกิน 9 นาทีแน่ๆ ค่ะ) หมูย่างออกมาเป็นจานแรก อืม พอไหว ... ตามมาด้วยผัดยอดมะระ ต๊าย มาจานติ๊ดเดียว เหนียวอีกต่างหาก ... ปลาเนื้ออ่อน อืม ก็กล้อมแกล้ม ... แกงส้มชามไม่ใหญ่ แล้วน้ำแกงใส และรสอ่อนไปนิดนะ


จากนั้นก็นั่งรอ ร้อ รอ ผัดหมี่ กับ ส้มตำ ก็ไม่มาเพิ่มสักที ... จนไปเห็นโต๊ะที่เพิ่งมาใหม่ 2 โต๊ะ ด้านหลังเราได้อาหารครบแล้ว และเท่าที่ดูน่าจะทำยากกว่าผัดหมี่กับส้มตำนะ


ไม่ได้การแล้ว ไม่เข้าใจ สงสัย มีคำถาม ก็ต้องลุกไปถามค่ะ ... ลุกไปตรงเคาเตอร์ที่รวบรวมบิล และคิดเงิน ไปตามว่าอาหารที่สั่งไปถึงไหนแล้ว แต่คำตอบที่ได้คือ ความเงียบ นิ่ง จากคุณผู้หญิงที่ประจำอยู่ตรงนั้น ... เอ้า ไม่เป็นไร รอได้ ปล่อยคิดเงิน เคลียร์บิลก่อน


เสร็จบิลแรก จะต่อบิลสอง เราเลยถามว่า อาหารของที่โต๊ะเนี่ย ยังขาดอยู่ ทำรึยัง ... คุณผู้หญิงก็ไม่สนใจ ก้มหน้าก้มตาจัดการกับบิลตรงหน้าอีกพักใหญ่ กว่าจะเงยหน้ามามอง แล้วถามว่า "โต๊ะไหน" ... พอชี้ให้ดู ก็ก้มหน้าควานหาบิลต่อ แล้วพอมีพนักงานเสิร์ฟมาถามเรื่องอื่น ก็หันไปวุ่นวายทางนั้นอีก ... เอ้า เก็บตังค์ ทอนตังค์ให้เรียบร้อยก่อนก็ได้ รอได้


เสร็จแล้วก็ยังไม่ได้คำตอบ ... เราเลยถามว่า "ขอโทษนะคะ โต๊ะข้างหลังเนี่ย มาทีหลัง แต่ได้อาหารครบแล้ว เค้าโทรจองโต๊ะและสั่งอาหารไว้ก่อนรึเปล่า" ... เงียบฉี่ เฉยแหะ ไม่มีสัญญาณตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก ... มั่นใจว่าโต๊ะที่อ้างถึงไม่ได้จองโต๊ะไว้แน่นอนค่ะ เพราะตอนเค้าเดินเข้ามายังถามพนักงานว่าโต๊ะไหนว่าง ตรงนี้ได้มั้ยอยู่เลย ... ไม่ได้คำตอบ คำอธิบายใดๆ จากที่ยืนกอดอก ชักเริ่มจะหมดความอดทน ขอเปลี่ยนมาท้าวเอวแล้ว พร้อมจะหาเรื่องแล้วนะ


"ยังไม่ได้อาหารอะไรเหรอ" ... "ส้มตำไทย ส้มตำลาว ผัดหมี่โคราชค่ะ มันทำยากกว่าอาหารของโต๊ะด้านหลังนี้เหรอคะ ทำไมเค้ามาทีหลัง แล้วได้ครบก่อน เค้าจองโต๊ะ สั่งอาหารไว้ก่อนเหรอคะ" ... ลูกค้าโต๊ะที่ถูกอ้างถึงเริ่มไม่มั่นใจว่าอาหารเสิร์ฟผิดโต๊ะรึเปล่า เพราะหันมาถามพนักงานเสิร์ฟ ซึ่งก็ไม่ได้คำตอบอะไร


พ่อเห็นลูกสาวท้าวเอวขนาดนี้ เลยเดินมาบอกว่า "เคลียร์บิลเลยครับ" ... แล้วก็มีลูกค้าอีกโต๊ะเดินมาเคลียร์บิลเพราะได้อาหารไม่ครบเหมือนกัน คุณผู้หญิงคนนี้ก็หันไปบอกลูกน้องตัวเองว่า "ไปดูในครัวซิ ว่าทำรึยัง ลูกค้ายกเลิกบิล" ปากไวเท่าใจคิดเรารีบพูดทันที "โอ๊ย ไม่ต้องไปดูหรอกค่ะ คงยังไม่ได้ทำหรอก"


ยืนหงุดหงิด มองเค้าคิดเงิน ... ต๊ายยยยยย ผัดยอดมะระจานนิดเดียว 100 นึงเชียวเหรอ ปลาเนื้ออ่อน 140 ราคาค่าอาหาร 4 จานที่เห็น รวมกับข้าวเปล่าและเครื่องดื่ม 13XX บาท ... เฮ้ย ไรเนี่ย นิดเดียวแค่นี้เนี่ยนะ


เดินกลับมานั่งที่โต๊ะ แล้วนั่งคิดคำนวณ เห็นในบิลเขียนค่าไวน์แดง 590 บาท ... เอ๊ะ ที่สั่งมาเป็นไวน์ผลไม้ ขวดปริมาณ 500 ml. ทำไมมันแพงนัก ... เลยส่งเสียงถามพ่อไปว่า "พ่อคะ ลองถามเค้าทีซิว่าไวน์ผลไม้นี่ขวดละเท่าไหร่ เค้าคิด 590 นะ" ตั้งใจถามดังๆ จากโต๊ะที่นั่งอยู่เกือบจะกลางร้านนี่แหละให้ได้ยินทั่วกัน เพราะไวน์ผลไม้แบบนี้ มาเจอทีหลังตามร้านค้าขายขวดละ 35 บาท ... พอพ่อหันไป คุณผู้หญิงคนนั้นก็ทำหน้าตางงๆ "อุ๊ย นึกว่าสั่งขวดใหญ่ค่ะ" ก่อนจะส่งเงินส่วนที่คิดเกินไปคืนมาให้ ... ก็ในบิลที่พนักงานรับออเดอร์ไปเขียนไว้ว่า ไวน์แดง คุณผู้หญิงคนนั้นเลยตีความเองว่าคงจะขวดใหญ่ ไม่มีถามเช็คให้แน่ใจว่าสั่งแบบไหนกันแน่


หูยยยย แย่ครบสูตรจริงๆ ... พนักงานไม่สนใจ พูดไม่รู้เรื่อง อาหารออกช้า แล้วยังรสชาติไม่ได้ดีอะไรนัก แพงอีกต่างหาก แล้วยังคิดเงินส่งเดชด้วย ... โอ๊ยยยยยย หมายหัวขึ้นบัญชีดำ


ขึ้นรถแบบท้องยังร้องกันอยู่ มองหาเป้าหมายใหม่ แม้จะไกลออกไปสักหน่อย แต่คงจะดีกว่าร้านนี้ ... เลยไปเจอ ครัวบ้านไม้ รถไม่เยอะนัก น่าจะบริการรวดเร็ว


ลงไปก็ประทับใจเลยค่ะ พนักงานเดินมาต้อนรับขับสู้อย่างดี บรรยากาศดี วิวดี ลมเย็น สบาย ... สั่งอาหารกันอีกรอบค่ะ


นี่คืออาหารที่สั่งไป มารวดเร็วทันใจ จานใหญ่โตอลังการ หม่ำกันอิ่ม และอร่อย ... มื้อนี้ ร้านนี้จ่ายตังค์ไปพอๆ กับอาหารเล็กน้อยที่ร้านนั้น แต่ความอร่อย และความประทับใจต่างกันลิบลับ


ท้องอิ่มสบายใจ ไปเดินเที่ยว เดินชมตลาด ซื้อของฝาก ตุนเสบียงมื้อเย็นกันต่อค่ะ ... ตอนแรกแผนกะว่าจะแวะดูดอกไม้เลย แต่ตอนผ่านไปที่พัก และผ่านออกมากินข้าว เห็นคนเยอะ และดูดอกไม้ไม่สดชื่นเท่าไหร่ ... แผนที่ตั้งใจมาดูดอกไม้เลยพับเก็บทันควัน ตรงกลับเข้าที่พักกันดีกว่า


นั่งพักผ่อนนอนเล่น จนได้เวลามื้อเย็น ก็หม่ำกันอีกแล้ว ... ส ว ชุดนี้ เรื่องกินเรื่องใหญ่ค่ะ


มื้อเย็นก็ใช้บริการร้านอาหารของที่พักเลยค่ะ อาหารอร่อย โดยเฉพาะน้ำพริก อร่อยเด็ด ... เกลี้ยงทุกจานค่ะ


อิ่มแล้วก็ทยอยกันอาบน้ำค่ะ เพราะบ้านพักที่ได้เป็นแบบนอนรวม และมีห้องน้ำเดียว ... เพราะฉะนั้น สมาชิก 9 คน เลยต้องทยอยกันอาบน้ำ และต้องรีบอาบด้วยค่ะ เพราะอากาศเย็นลงเรื่อยๆ


ยิ่งค่ำยิ่งเย็น ยิ่งดึกยิ่งหนาว ... นอนปิดหน้าต่างบางส่วน แล้วไม่เปิดพัดลม ก็ยังเย็นจนหนาวค่ะ ... ตกดึกซุกตัวห่อตัวอยู่ในผ้าห่มกันถ้วนหน้า


วันพรุ่งนี้จะมีโชคเรื่องอาหารมั้ย หรือ จะโชคร้ายเจอร้านอาหารบริการแย่ๆ แบบวันนี้อีกรึเปล่า ... ติดตามได้ ที่นี่ ค่ะ

21.1.54

Bunny Party

ตามธรรมเนียมออฟฟิศ จะมีงานเลี้ยงบ๊ายบายปีเก่า-เวลคัมปีใหม่ ... ปีนี้ก็มีเช่นเดิมค่ะ แต่มาล่ามาช้าไปสักหน่อย


เพราะสัปดาห์สุดท้ายของปีเก่า มีสมาชิกลาพักร้อนยาว ซึ่งเราก็เป็น 1 ในนั้น ... ส่วนนายก็มีโปรแกรมไปต่างประเทศพอดี กลับมาสัปดาห์แรกก็วุ่นวายกับการเคลียร์งาน ปาร์ตี้ปีใหม่เลยถูกลืมไปก่อน


แล้ววันนึงนายก็ถามว่า "ปาร์ตี้ที่ไหนกันดี" ... เอ้า ได้เวลาแล้ว ช่วยกันคิดเร็ว


ให้สาวๆ ช่วยกันคิด ผลออกมาก็ร้านไหนก็ได้ที่อาหารอร่อย และมีคาราโอเกะ ... ให้น้องใหม่ของทีมที่เพิ่งได้มาดูแลช่วยจัดการเช็คข้อมูลให้ แล้วก็ส่งไปเสนอนาย


แต่ผลออกมาเป็น นายเสนอไอเดียพาลงเรือ ล่องเรือชมวิวแม่น้ำเจ้าพระยา กลับมาแทน ... แล้วก็ส่งเรื่องให้พี่ที่ปรึกษาช่วยประสานงานให้ต่อ


17.15 น. สาวๆ ยกพลออกจากออฟิศ ตรงไปลงเรือที่ริเวอร์ไซด์ ... รถหนาแน่น กว่าจะไปถึงที่หมายก็จวนจะทุ่ม ... เรือออกจากท่า 2 ทุ่ม เวลาเหลือๆ เลยไปนั่งปักหลักพักผ่อนที่ห้องรับรองที่เปิดรอไว้ก่อน


ใกล้เวลาออกเรือก็ทยอยกันลงเรือพร้อมกับอุปกรณ์ประกอบธีมปาร์ตี้ครั้งนี้ ... Bunny Party


เติมหู เติมหาง เติมฟันกระต่ายตามแต่จะจัดมาค่ะ ... เติมอุปกรณ์แล้วก็ต้องเก็บภาพเป็นที่ระลึก คราวนี้ล่องเรือด้วย เลยมีฉากหลังสวยๆ ให้เลือกตลอดทางค่ะ


ตอนแรกสาวๆ ทำทีอิดออดไม่อยากมาลงเรือ เพราะเดินทางลำบาก แล้วกว่าเรือจะกลับเข้าฝั่งก็เกรงว่าจะดึก ... แต่พอเรือออกเท่านั้นหล่ะค่ะ ทิ้งจานชามช้อนส้อมที่กินข้าวอยู่ ไปเก็บภาพกันใหญ่


งานนี้ลืมหยิบกล้องติดไปด้วย เลยไม่มีภาพประกอบสักเท่าไหร่ ... อีกอย่างก็ล่องเรือมาหลายทีแล้ว เลยชินค่ะ


ล่องเรือไป กินข้าวไป ถ่ายรูปไป ร้องคาราโอเกะกันไป ... เพลินนนนนนนนนนนนนนนน กันถ้วนหน้าค่ะ


พอเรือกลับลำที่แถวสะพานพระราม 9 ก็ได้เวลาลุ้นของขวัญกันค่ะ ... ของขวัญนายจัดเป็นไฮไลท์เหมือนเดิมค่ะ ปีนี้อยู่ในลุ้นนานจนเกือบท้ายๆ กว่าจะออก สาวผู้โชคดีที่ได้ไป คือ น้องแตงไทย ซึ่งปีนี้มูลค่าสูงถึง 5,ooo บาทกันเลย


กว่าจะจับสลากจบก็เกือบกลับเข้าฝั่งพอดี ... ขึ้นฝั่งได้ บางส่วนก็แยกย้ายกลับเลย บางส่วนก็กลับขึ้นไปคุยกันต่อที่ห้องรับรองที่เปิดไว้ เม้าท์เมามันกันจนตีหนึ่งถึงได้แยกย้าย


บันนี่ปาร์ตี้เลิกรา ... รอดูปีหน้าว่าจะเป็นปาร์ตี้ธีมไหนต่อ

20.1.54

เก็บสัมภาระ ย้ายฐานที่มั่น

ทำงานที่บริษัทฯ นี้มาตั้งแต่เรียนจบ ... เจอมหกรรมจัดออฟฟิศใหม่ ย้ายออฟฟิศใหม่มาหลายหน แต่ละหนเหนื่อยประทับใจมาก ... แล้วมหกรรมนี้ก็วนมาอีกรอบ


นายวางแผนรีโนเวทออฟฟิศใหม่ จัดเป็นแผนใหญ่ เพราะทำทุกชั้น และมีการทุบ รื้อ ก่อ สร้าง เยอะเชียว ... แค่คิดตามแววเหนื่อยก็ลอยมาแล้ว


ออฟฟิศเป็นอาคารพาณิชย์ที่เรายึดฐานที่มั่นประจำการอยู่ชั้น 1 ... ส่วนน้องๆ และนาย อยู่ชั้นบนบนขึ้นไป ... มหกรรมย้ายคราวนี้ เริ่มจากชั้นล่างเป็นอันดับแรก ซึ่งก็หมายความว่า เราต้องอพยพสมบัติย้ายฐานที่มั่นใหม่


ราวๆ วันอังคาร นายเรียกถามว่าจะให้ช่างเข้ามาเริ่มงานวันไหนดี ... เรานั่งนับวันแล้วบอกว่า "จันทร์หน้าเลยแล้วกันค่ะ"


ตอบนายจบก็วางแผนเตรียมเก็บสัมภาระ งานหนัก งานใหญ่ๆๆ ... วางแผนในหัวว่าจะเก็บอะไร ตรงไหน ยังไงก่อน แล้วจะเก็บไว้ไหนยังไงดี


วันพฤหัสฯ ถือฤกษ์สะดวก ส่วนตัว แต่งตัวทะมัดทะแมง พร้อมมอม พร้อมเหนื่อย ... ช่วงเช้าเคลียร์เอกสารให้เรียบร้อย แล้วก็เริ่มทยอยแยกของ เก็บของลงกล่อง อันไหนจำเป็นต้องใช้ อันไหนเก็บเข้ากรุไว้ได้เลย


แล้วทยอยขนของต้องใช้บางส่วนไปวางไว้ที่โต๊ะใหม่ก่อน ส่วนของที่เก็บยาวได้ก็ตั้งแยกไว้รอให้ช่างมาช่วยขนขึ้นชั้นบน ... ช่วงบ่ายๆ เริ่มเก็บ เริ่มขน เริ่มย้ายจริงจัง น้องๆ ที่ไม่ยุ่งนัก อาสามาช่วยขน ช่วยย้ายหลายแรง


จัดการเคลียร์ไปได้พอสมควรค่ะ เหลือเก็บงานอีกนิดหน่อย ส่วนใหญ่เป็นของที่ยังต้องใช้อยู่ ... รอวันรุ่งขึ้นใช้งานให้เรียบร้อย ค่อยขนไปจัดโต๊ะใหม่เลย


เป็นหนึ่งวันที่วุ่นวาย งุนงง และ มอมแมม ดีค่ะ ... นี่แค่เริ่มต้นเท่านั้น มหกรรมนี้ยังอีกยาวนานนนนนน


19.1.54

Burlesque : บาร์รัก เวทีร้อน

ตอนเห็นเทรลเลอร์หนังเรื่องนี้ บอกตัวเองทันทีว่า "อยากดู อยากดู จะดู" ... ช้อบ ชอบ หนังสไตล์มิวสิคัลแบบนี้




คนดีเองก็อยากดูเหมือนกัน เลยชวนกันง่าย ... สัปดาห์แรกที่หนังเข้า พลาดไป เลยมารอดูหนังช่วงโปรโมชั่นวันพุธ คุ้ม ชัวร์


...เรื่องย่อ... (ภาพโปสเตอร์จาก movie.mthai.com)


Ali เด็กสาวจากเมืองเล็กๆ ที่มีน้ำเสียงทรงพลัง ทิ้งบ้านเกิด เดินทางมายังมหานครลอสแอนเจลิส เพื่อตามหาความฝันที่อยากจะเป็นนักร้อง ... Ali บังเอิญมาเจอ The Burlesque Lounge โรงละครหรูที่กำลังตกที่นั่งลำบาก


เธอตื้อจนได้ตำแหน่งสาวเสิร์ฟ และซึมซับการแสดงโชว์ชุดต่างๆ และหมายมั่นปั้นมือว่าจะต้องขึ้นไปยืนอยู่บนเวทีนั้นให้ได้สักวัน ... แล้ววันนึงโอกาสนั้นก็มาถึง เธอก็ได้ขึ้นโชว์น้ำเสียงทรงพลัง และโชว์ของเธอก็ช่วยให้ เดอะ เบอร์เลสค์ เลานจ์ กลับคืนสู่ความยิ่งใหญ่อีกครั้ง


เป็นหนังที่คุ้มค่ามากค่ะ จ่ายตั๋วหนังราคาเต็มก็คุ้ม ยิ่งได้ราคาโปรโมชั่นยิ่งคุ้มมากกกกกกกกก ... น้ำเสียงของคริสติน่า และแชร์ สุดยอด ... โชว์แต่ละชุดที่แสดงในหนังก็เยี่ยม คอสตูมของโชว์เริ่ดดดดด


พอโชว์ในหนังจบแต่ละชุด จะเผลอปรบมือให้ทุกที รู้สึกเหมือนกำลังได้ดูโชว์ดีดีอยู่ ต้องคอยเตือนตัวเองว่ากำลังดูหนัง ... ดูเพลินมาก ปลาบปลื้มถูกใจเป็นที่สุด


ติดใจมากกกกกกกกกกกกกกก มากขนาดที่จะต้องซื้อแผ่นเก็บไว้ดูให้ได้ค่ะ

18.1.54

English Class #9

มาถึงคลาสที่ 9 แล้ว ... เหลืออีกครึ่งทางก็หมดคอร์ส


คลาสนี้นักเรียนหายหน้าหายตา ไป 2 คน ... คนนึงติดงาน ส่วนอีกคน ก็คนดีนั่นเอง ติดภารกิจลูกกตัญญู แวะไปพูดคุยกับคุณหมอเรื่องอาการป่วยของป๊า


เริ่มคลาสด้วยการบ้านที่ส่งไป ครูจัดการพิมพ์ และตรวจแก้มาให้เรียบร้อย พร้อมคำอธิบาย ... จากนั้นก็แจกชีทชุดใหม่ เพราะคลาสนี้จะเปลี่ยนจาก writing มาเป็น vocabulary และ listening & pronunciation บ้าง


เริ่มต้นกันที่ listening & pronunciation หัดออกเสียง แล้วจับคู่ศัพท์กับเสียงที่ตรงกัน ... จากนั้นก็ตามด้วย vocabulary เกี่ยวกับ suffix ทำ root word ที่ได้มาให้เป็นศัพท์ที่ถูกต้อง สนุกดี แต่มามึนตรงที่คำไหนเป็น noun, adverb, adjective


เหมือนจะเข้าใจ แล้วก็เหมือนจะงง ... ครูเลยให้การบ้านกลับมาทำอีกหน่อย ให้หาศัพท์มาจับคู่ จัดหมวดกัน


สนุกดีจัง ชอบเรียน vocabulary ที่สุด

17.1.54

ปัญหากับของเล่นใหม่

หลังจากที่เราตกเป็น สาวก iPhone ไปแล้ว ... คนดีก็มีโอกาสได้หยิบ จับ แตะ ใช้ ลองเล่นดูเรื่อยๆ จนสุดท้ายก็ตกเป็นสาวก iPhone อีกคน


จากที่เคยกังวลว่าสมาร์ทโฟนจะใช้ยาก ใช้ไม่คุ้มค่ากับที่ซื้อมา ผลปรากฎว่า ใช้สะดวก ใช้ง่าย ใช้สบาย ใช้เพลิน ... เพราะมีสารพัด App ให้เลือกมาเล่น เพลินนนนนเลยค่ะ


หลังจากติด iPhone แล้ว คนดีก็สนใจ iPad ขึ้นมาบ้าง ... ลังเล รีรอ และหาข้อมูลอยู่พอควรว่าจะใช้ดีมั้ย ใช้คุ้มรึเปล่า ไตร่ตรองครุ่นคิดอยู่นาน แวะเวียนไปดูที่ iStudio อยู่หลายรอบ ... สุดท้ายก็สอยมาจนได้


ได้ของใหม่มาในมือ ก็ต้องทดลองใช้ ทดลองเล่น ให้คุ้นมือ ... แต่ปรากฎว่า ใช้ไม่ได้ค่ะ


คนดีโทรมาบ่นงึมงัมว่า น้องแพดเชื่อมต่อกับไวไฟที่บ้านไม่ได้ ไม่แน่ใจว่าเครื่องเกเรรึเปล่า อารมณ์เสีย หงุดหงิดหัวใจ ... ให้คนดีลองใช้น้องโฟนเชื่อมต่อกับไวไฟดูบ้างว่าเป็นยังไง ... ผลคือไม่ได้เหมือนกัน


เราเลยขอเวลา วางสาย ลองเชื่อมต่อกับไวไฟที่บ้านเราดู ก็ต่อได้ปกติ รวดเร็ว ไม่มีปัญหาใดๆ ... โทรกลับไปบอกผล แล้วสันนิษฐานว่า น่าจะมีปัญหาที่ไวไฟหล่ะ เครื่องน่าจะปกติ


คนดีเลยเก็บความหงุดหงิดใจไว้ แล้วมาซักถามกับที่ทรูช้อปเรื่องการเซ็ทระบบ ... เพราะพอไปที่อื่น น้องแพด เชื่อมต่อไวไฟได้หมด เล่นได้ปกติ รวดเร็วปรู๊ดดดดปร๊าดดดดด


สรุปคือต้องลองตั้งค่า password ใหม่ ... แต่ยังไม่ได้ลองทำสักที เพราะเจ้าของเครื่องคือพี่ชายคนดีที่ย้ายออกไปอยู่บ้านอีกหลัง จำไม่ได้ว่าเก็บอุปกรณ์เสริมไว้ไหน ... แต่ถึงหาอุปกรณ์เจอ คนดีก็วุ่นวายกับงานจนไม่มีเวลาจะเซ็ทใหม่


คนดีจะใช้น้องแพดได้ก็เวลามาอยู่ออฟฟิศเรา หรือ อยู่ที่บ้านเรา ... ได้ของเล่นมาใหม่แต่เห่อได้ไม่เต็มที่เลย น่าสงสารจริง

15.1.54

: 106 เดือน :

ปกติวันที่ 15 ก็จัดเป็นวันพิเศษเล็กๆ น้อยๆ ของเราอยู่แล้ว ... แต่เดือนนี้พิเศษกว่าวันอื่นๆ ขึ้นมาอีกนิดตรงที่ มีทริปเล็กๆ ออกไปตะลอนทัวร์กันค่ะ


เริ่มจากคนดีอยากไปไหว้พระที่วัดบางกุ้ง อัมพวา ... ใกล้ๆ แค่นี้ และจัดเป็นที่ที่คุ้นเคย เลยชวนกันขึ้นรถมุ่งหน้าไปกันเลย


ไหว้พระที่โบสถ์เรียบร้อย คนดีก็ขอไปไหว้พระรูปพระเจ้าตากสิน ... อันนี้ก็จัดเป็นหนึ่งในการบ้านที่คนดีได้จากพี่หมอดูค่ะ


สบายใจแล้วก็ไปเที่ยวกันเลยค่ะ ... ที่แรกก็ ตลาดน้ำบางน้อย ตลาดน้ำเล็กๆ อยู่ไม่ไกลจากอัมพวา ร้านรวงยังมีไม่มาก และบรรยากาศยังไม่หนาแน่นแออัดเท่า เดินเล่นกันได้สบายๆ


เราเดินชมตลาดกันนิดหน่อย ก่อนจะไปแวะกินโรตีแต้จิ๋วเจ้าอร่อยเจ้าเดียวของที่นี่ ... เติมของหวานเล็กๆ น้อยๆ ให้สดชื่น


ย้ายไป ตลาดน้ำอัมพวา ต่อค่ะ ... ไม่ได้อยากไปเดินเที่ยวหรอกนะคะ แต่ไปเดินซื้อขนม ซื้อของอร่อยร้านโปรด ร้านประจำที่เราโปรดปรานค่ะ ... ใช้เวลาเดินซื้อของไม่นานเลยค่ะ เพราะมีเส้นทางประจำอยู่แล้ว เดินวนตามร้านประจำแป๊บเดียวได้ของครบตามตั้งใจ ก็กลับค่ะ


กลับเข้ากรุงเทพฯ มาแวะทำธุระที่เอสพลานาด แล้วเดินเตร็ดเตร่ที่รบินสันรัชดาอีกหน่อย ก็กลับเข้าบ้านค่ะ ... นี่หล่ะค่ะ เรื่องพิเศษเล็กๆ ในวันพิเศษเล็กๆ ของเรา

ไม่มีของขวัญ ไม่มีอาหารมื้อพิเศษ แค่ได้อยู่ด้วยกันก็พิเศษพอแล้วค่ะ ... ขอบคุณนะคะคนดี ที่เคลียร์คิวมาตะลอนด้วยกันเต็มวันแบบไม่มีงานมากวนใจ


-รักคนดีที่สุดค่ะ-

13.1.54

บังเอิญไป Chabuton

มีนัดกับคุณกิ๊กอีกแล้วค่ะ ไม่ได้นัดเดท แต่เป็นนัดรับของ ... ของอะไรมากมายนัก ถึงต้องนัดรับ-ส่งของกันอีกแล้ว


เป็นของที่ชวนกันทำบุญ จะไปบริจาคให้เด็กๆ ค่ะ แล้วก็มีของฝากซื้ออีกบางส่วน ... เพราะปริมาณของฝากทำบุญมีมากพอควร เลยต้องนัดเจอกัน เพื่อความสะดวก เลยนัดกันที่ CTW จะได้ไปหาอะไรอร่อยๆ หม่ำด้วย


เพื่อความเอร็ดอร่อยเพิ่มขึ้น ก็เลยชวนสมาชิกเพิ่ม ... จากเดิมที่มีเรา คนดี และคุณกิ๊ก ก็มี น้องฝน หมวยบี พี่หมี พี่จุ๊บ เพิ่มมาด้วย ... เป็นขบวนใหญ่ที่ความสัมพันธ์นุงนัง เพราะมีตำแหน่งกิ๊กกั๊กกันข้ามไปข้ามมา


ด้วยความบังเอิญที่บิ๊กเบิ้มจอดเยื้องกับรถคุณกิ๊กที่เพิ่งมาถึงไล่ๆ กันพอดี ... เลยได้โอนย้ายถ่ายของกันตั้งแต่ที่อาคารจอดรถเลย รับ-มอบของเรียบร้อย ก็เคลื่อนขบวนไปหาของอร่อยเพิ่มพลัง


ตอนแรกกะว่าจะเดินดูของขวัญ ของจับสลากก่อน แต่ลืมไปว่า Zen ยังปิดอยู่ ภารกิจหาของขวัญเลยจบ ... มุ่งหน้าหาของอร่อยอย่างเดียว


คนดีเสนอว่า "ลูกค้าเพิ่งแนะนำร้านราเมนร้านใหม่ที่เพิ่งมาเปิด ไปลองกันมั้ย" ... สมาชิกเห็นดีเห็นงาม ยกขบวนตามไปดู ตามไปลอง เดินวนหาที่ตั้งร้านสักหน่อย ก็เจอะร้านอยู่ตรงหน้า


ร้านที่คนดีว่า คือ Chabuton ที่บอกว่าเป็นราเมนต้นตำรับจากญี่ปุ่น โดยเชฟผู้ชนะเลิศ TV Champion ... ว้าววว ติดป้ายการันตีตัวเองขนาดนี้ ก็ต้องลองชิมสักหน่อย


ไปกัน 7 คน ชวนกันสั่งหลากหลายเมนู จะได้แบ่งปันกันชิมให้หลากหลาย ... น้องพนักงานเสิร์ฟมาช่วยแนะนำความแตกต่างของราเมนที่มีในเมนู ว่าชามไหนคืออะไร ต่างกันยังไง และชามไหนที่เป็นเมนูฮิต ... สรุปสั่งราเมนกันคนละชาม แล้วสั่งเครื่องเคียงต่างๆ มาเพิ่ม ค่ะ



ชามนี้ของเรา ชื่อ Kara Kara Tonkatsu Ramen ... เป็นราเมนน้ำซุปกระดูกหมู ที่มีหมูชาชู และหมูสับผัดเครื่อง ... น้ำซุปเข้มข้น เส้นนุ่ม หมูชาชูอร่อย หมูสับผัดเครื่องช่วยทำให้น้ำซุปมีรสเผ็ดปะแล่มๆ โดยรวมก็ อร่อยดีค่ะ แต่ยังไม่ปลาบปลื้มถึงขั้นแสงพุ่ง


เป็นการได้ลองชิมโดยบังเอิญ นับว่าถูกปาก แต่ยังไม่ตราตรึงใจค่ะ

11.1.54

English Class #8

หลังจากเว้นวรรคพักการเรียนไป 3 สัปดาห์ ทำเอาเหล่านักเรียนขี้เกียจชอบกล ชักไม่อยากจะเรียนซะอย่างนั้น ... แต่คลาสที่ 8 ก็เกิดขึ้นเหมือนเดิมค่ะ


คลาสนี้นักเรียนหายไป 1 คน ติดภารกิจกับที่บ้าน ... ที่เหลืออยู่กันพร้อมหน้า เลยได้ทักทายสวัสดีใหม่กัน


คลาสนี้ยังคงอยู่ที่ e-mail writing กันต่อ ... ครูให้พิมพ์การบ้านที่เขียนขอข้อมูลท่องเที่ยวออกมา แล้วมาตรวจ ปรับแก้ พร้อมอธิบายเพิ่มเติมว่าการเขียนอีเมล์ที่ดีนั้นควรจะทำอย่างไร ... มีตัวอย่างประกอบให้เห็นด้วยว่า Do และ Don't นั้น มีอะไรบ้าง


จากนั้นก็ให้การบ้านกลับไปทำอีกรอบ เป็นการเขียนอีเมล์ส่งเหมือนเดิม แต่คราวนี้ให้เขียนขอข้อมูลอะไรก็ได้ ถึงใครก็ได้ ... ให้ส่งตรงมาถึงครูโดยตรง


หึ หึ การบ้านงานเขียนอีกแล้ว ... สนุกอีกแล้ว

10.1.54

Run Run Run

ปีนี้เรากับคนดีตั้งใจกันไว้ว่า จะจัดเวลาออกกำลังกายเพิ่มขึ้น เพราะตัวขยายเบ่งบานกันทั้งคู่ ... ไม่ได้อยากจะลดน้ำหนักให้หุ่นสวย น้ำหนักไม่สำคัญ แต่อยากฟิต


อายุเพิ่มขึ้นทุกปี ระบบเผาพลาญทำงานแย่ลง แต่ยังเอ็นจอยอีทติ้งกินกันกระจายทั้งคู่ ... แววลอยมาชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ว่าถ้าปล่อยไว้แบบนี้คงเจอปัญหาไขมันอุดตันเส้นเลือดแน่ๆ แล้วคงจะมีโอกาสเป็นโรคอื่นๆ เพิ่มตามมา


เพราะฉะนั้น ... เรามาออกกำลังกายกันดีกว่า


ตอนแรกตั้งใจจะไปสมัครสมาชิกฟิตเนสที่โรงแรมใกล้ๆ ออฟฟิศ ที่เคยใช้บริการเมื่อนานมาแล้ว ... แต่พอแวะไปดูปรากฎว่าปิดปรับปรุง และดูจะปิดปรับปรุงทั้งโรงแรม ปิดยาวววววว กันเลย


มองหาทางเลือกต่อมา คือ แฟรนไชส์ ฟิตเนส แบรนด์คุ้นหู ... ใกล้สุด สะดวกสุดก็ต้อง Cal Wow แต่ให้ตายเหอะ ไม่ชอบบรรยากาศแบบนี้เลย เหมือนพากันออกกำลังกายเตรียมไปรบ ... แล้วยังชื่อเสียต่างๆ ที่ได้ยิน แล้วคนใกล้ตัวก็เจอะ เลยทำใจให้ไปสมัครสมาชิกที่นี่ไม่ได้


ระหว่างที่ยังหาฟิตเนสถูกใจ ใกล้บ้านไม่ได้ ... ก็ไปอาศัยวิ่งที่สวนสาธารณะก่อนแล้วกัน "สวนรถไฟ" เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด


จริงๆ ชื่อบล็อกจะใช้ Run Run Run ก็ไม่ถูก ต้องเรียกว่า walk, jog, run จะเหมาะกว่า ... เพราะไปเดิน วิ่งเหยาะๆ วิ่งจริงจัง สลับกันไป เพราะเรามีปัญหาเข่าค้อกแค้ก ก๊อกแก๊ก วิ่งไม่ดี อาจจะเจ็บเข่าได้ เลยต้องค่อยๆ ปรับตัวกันไป


ตั้งใจไว้ว่าจะไปวิ่งสัปดาห์ละ 3 วัน แต่ไม่รู้จะทำได้ตามเป้าหมายที่ตั้งใจไว้รึเปล่า ... ทั้งภารกิจการงาน และภารกิจการกิน ชวนให้ไขว้เขว้เหลือเกิน

8.1.54

ภารกิจผู้ใหญ่ ในวันเด็ก

"เด็กเอ๋ย เด็กดี ต้องมีหน้าที่ 10 อย่างด้วยกัน เด็กเอ๋ย เด็กดีต้องมีหน้าที่ 10 อย่างด้วยกัน 1 นับถือศาสนา ...................................."


หน้าที่แรกของเด็กดีนี่หล่ะค่ะ ที่เป็นภารกิจหลักของผู้ใหญ่อย่างเราในวันนี้ ... ภารกิจที่ว่าคือ ไปถวายสังฆทาน


ได้การบ้านจากพี่หมอดูประจำตัวว่าให้ถวายสังฆทาน พร้อมพระพุทธรูป ... จัดเตรียมชุดสังฆทานไว้นานแล้ว แต่ยังไม่มีโอกาสได้ไปเช่าพระพุทธรูป ได้การบ้านมาตั้งแต่ปลายปี ยังไม่มีเวลาไปทำให้เรียบร้อยสักที เพราะมีคิวตะลอนทุกเสาร์-อาทิตย์ ... แม้จะผ่านวัด แต่ของไม่พร้อมก็เลยยังไม่ได้จัดการธุระให้เรียบร้อย


เบิกฤกษ์ต้นปี จัดคิวไปทำบุญสักทีน่าจะเหมาะ ไม่งั้นคงต้องผลัดวันไปอีกนาน ไม่ดีแน่ๆ ... ไปเข้าวัดวันเด็กนี่แหละ ... ตัดสินใจแล้วก็ทำใจเตรียมไว้เลย ว่ารถเยอะ คนแยะ เพราะเป็นวันที่ผู้ใหญ่พาเด็กๆ เที่ยว แล้วยังต้นปีแบบนี้ ต้องมีพุทธศาสนิกชนที่ตั้งใจไหว้พระ 9 วัด ช่วงต้นปีแน่ๆ


ใจจริงอยากจะไปวัดเล็กๆ ที่ชื่อไม่ดัง แต่เพื่อความสะดวกในการเช่าพระและเข้าวัด ... เลยเลือกวัดที่อยู่ไม่ไกลบ้านคนดีนัก อำนวยความสะดวกให้คนขับ ... ผลปรากฎว่าเจอขบวนคนเอิกเกริกวุ่นวาย อย่างที่กลัวจริงๆ


เข้าวัดไหว้พระไป ก็ต้องคอยเตือนสติตัวเองว่าทำบุญ ใจเย็นๆ หายใจเข้าลึกๆ หายใจออกยาวๆ ไว้ ... เพราะวัดชื่อดัง ให้ความรู้สึกว่าเป็นพุทธพาณิชย์ เกินไป แล้วยังเจอคนเยอะ มากมายชวนเวียนหัวอีก เพราะทุกคนก็อยากจะจัดการธุระของตัวเองให้เรียบร้อยก่อน


ถวายสังฆทานเรียบร้อย ไหว้พระเรียบร้อย ก็ต้องกรวดน้ำ ... พี่หมอดูระบุการบ้านมาว่า ต้องกรวดน้ำ 3 ถัง โดยให้กรวดน้ำใต้ต้นโพธิ์ รดผ่านใบโพธิ์ที่ร่วงหล่นบนพื้น ... เอาหล่ะซิ เดินหาต้นโพธิ์ เดินขอยืมถังน้ำ เดินเติมน้ำ กรวดน้ำ กว่าจะครบถ้วนก็ได้เหงื่อหลายหยด


จบภารกิจนี้แล้ว ก็เตรียมตัวไปเจอพี่หมอดูอีกรอบ ... เพราะพี่เค้าบอกว่าปีชงพอดี ไปจัดการถวายสังฆทานก่อน กุมภาฯ ค่อยมาเจอกันใหม ... เอาหล่ะ จะได้การบ้านอะไรมาเพิ่มอีกน้อ

5.1.54

สุดเขต สเลดเป็ด

ระยะหลังหันมาใช้บริการโปรโมชั่นดูหนังวันพุธราคาพิเศษบ่อยขึ้น ... โดยเฉพาะหนังที่ไม่ได้อยากดูจัดๆ ไม่ได้เฝ้ารอดูด้วยใจจดจ่อ ดูก็ได้ไม่ดูก็ไม่เป็นไร ... เช้าวันพุธก็เช็คดูสักนิดว่ามีหนังอะไรน่าสนใจมั้ย ถ้ามีก็ไป ถ้าไม่มีก็ผ่าน


อย่าง สุดเขต สเลดเป็ด นี่ ก็จัดอยู่ในหมวดนี้ ... สนใจเพราะเคยชอบใจ แสบสนิทฯ ผลงานของผู้กำกับ ใช้โปรโมชั่นได้ก็ดูหน่อยแล้วกัน


"ชอบตำรา...แต่ไม่ชอบตาราง"

"ชอบแต่งตัว...แต่ไม่ชอบแต่งตาม"

"ชอบทำในสิ่งที่ตัวเองชอบ...แต่ไม่ชอบทำในสิ่งที่คนอื่นชอบ"

"มีฝัน...แต่ไม่มีฝีมือ"


ที่สำคัญ "มีความรัก...แต่ไม่รู้จักความรัก"

เป็นเรื่องราวของคนแปลกๆ ที่ชอบโกหกตัวเอง

ถ้าคุณบอกว่าไม่แคร์ที่ไม่มีใครเข้าใจ...

ถ้าคุณบอกว่าไม่สนใจว่าจะมีใครยอมรับในตัวคุณมั้ย...

ถ้าคุณบอกว่าคุณไม่ต้องการชนะ...

ถ้าคุณเป็นผู้หญิงที่บอกว่าตัวเองไม่ห่วงสวย...

ถ้าคุณบอกว่าคุณอยู่คนเดียวได้โดยไม่เคยเหงาเลย... คุณกำลังโกหก




เรื่องราวของคนเหล่านี้เล่าผ่านชีวิตของสุดเขต ผู้ชายซึ่งบอกใครต่อใครว่า "ผมเป็นอินดี้พี่ไม่เข้าใจผมหรอก แต่ถึงพี่ไม่เข้าใจ ผมก็ไม่แคร์ ถึงใครไม่ยอมรับผมก็ไม่มายด์"


เป็นเรื่องย่อหนังที่อ่านแล้วงุนงง สงสัย ว่ามันคืออะไรกันแน่ ... ไปดูหนังก็เข้าใจแบบงงๆ เป็นหนังที่ดูได้ เพลินๆ แบบไม่ต้องคิดอะไร มีมุขให้ขำเป็นระยะ ... ที่ถูกใจที่สุดก็ต้อง ตุ๊กกี้กับโก๊ะตี๋ นี่หล่ะค่ะ ฮา


เรื่องต่อไปที่สนใจและเฝ้ารอคือ Burlesque ค่ะ ชอบจริงๆ หนังสไตล์มิวสิคัล และเป็นโชว์แบบนี้ ... รอ ร้อ รอ ยังไงก็จะต้องดูให้ได้ แล้วจะได้ดูมั้ยน้ออออ

2.1.54

ปีใหม่กับ หม่ามี้+พ่อ

ที่บ้านเราชวนกันทานข้าวนอกบ้านเป็นประจำ ทั้งทานตามเทศกาล และทานตามชอบใจ เพราะอยากทาน และอยากชิม ... กินข้าวนอกบ้านกันบ่อย จนไม่ได้เป็นมื้อพิเศษอะไร


ช่วงปลายปี พ่อมาถามว่า shabushi เป็นยังไง ไม่เคยไป อยากจะชวนไป แต่เรากับคนดีคิวเต็ม ว่างไม่ตรงกันสักที เลยไม่ได้พาพ่อไปลองชิม ... โอกาสดีปีใหม่ เลยจะพาไปชิมให้หายอยาก


เลยเสนอทางเลือกไปให้ว่า อยากจะไป shabushi จิ้มจุ่ม หรือ อยากจะไปกินแบบ yakiniku ปิ้งย่าง ... ให้คนดีช่วยเลือก คนดีตอบว่า "ถ้าถามพ่อ คงจะได้ปิ้งย่างแน่ๆ" ... ผลออกมาจริงดังคาดค่ะ


เลือกได้แล้วเราก็จัดการนัดวัน แล้วโทรจองร้าน ... "ไดจัง" เป็นคำตอบเดียว และคำตอบสุดท้าย


นัดนี้มีกัน 4 ชีวิต ขาดเจ้าน้องชายไป 1 คน เพราะติดงาน ไม่ว่าง เสียใจด้วย อดไปนะจ๊ะ ... ออกจากบ้านคนดี โทรไปย้ำเวลาว่าจะเข้าไปรับกี่โมง ให้แต่งตัวเตรียมไว้ แล้ววนไปรับที่บ้าน


ถึงร้านเร็วกว่าเวลาที่จองโต๊ะไว้พอสมควร นั่งรอสักแป๊บ ก็ได้โต๊ะแล้วค่ะ ... หม่ามี้ กับ พ่อ ไม่เคยมาร้านบุฟเฟ่ต์ปิ้งย่างแบบนี้ ดูตื่นตาตื่นใจสงสัยเล็กน้อย แต่ก็เพลิดเพลินกับอาหารตรงหน้า


เพลินกับอาหารอยู่ราวๆ ชั่วโมงกว่า จัดการ เนื้อ หมู ไก่ หมึก กุ้ง แซลมอน เบคอน รวมทั้งของหวานครบถ้วน ... พุงเต่ง ท้องตึง ก็จัดการชำระค่าเสียหาย แล้วย้ายไปจุดหมายต่อไปค่ะ


จุดหมายต่อมา คือ คริสตัล พาร์ค ... ไม่ได้จะพามาทานอะไรเพิ่ม แต่พามาให้เดินเล่น เดินย่อยอาหาร ... เพราะคนดีขอแวะเอาของไปให้ลูกค้าแถวนั้น พอดีกับที่เราอยากจะแวะซื้ออาหาร+ขนมให้หมาโม่ เลยชวนหม่ามี้กับพ่อมาเดินเล่น เพลินๆ ด้วยกันเลย


คนดีปล่อยเรา 3 คน ลงแล้วเลยไปบ้านลูกค้า เราตรงดิ่งไปร้านเพ็ทช้อปเจ้าประจำ หม่ามี้กับพ่อก็เดินตามมาสำรวจด้วย ... พอซื้อของเรียบร้อย เราก็หาที่ปักหลักนั่งรอ บอกให้ไปเดินเล่นกันได้ตามสบาย ... เหมือนมาเที่ยวกับเด็กเลยค่ะ เพราะทั้งสองคนไม่เคยมาแถวนี้ พากันเดินหายไปเลยยยยยยยย ปล่อยลูกนั่งรอให้ยุงตอม ยุงกัด


ครู่ใหญ่คนดีก็วนรถกลับมารับ พาขบวนกลับมาส่งบ้าน ... จบการฉลองปีใหม่แบบง่ายๆ กับสาวสวย หนุ่มหล่อที่สุดของเรา

1.1.54

New Year Gift 2011

Happy New Year 2011 : เป็นอีกปีที่มาฉลองส่งท้ายปีที่บ้านคนดี ... เพราะฉะนั้นก็ต้องทำการซุกซ่อนของขวัญมาด้วย


ลำพังแอบเตรียมของขวัญ หาของขวัญก็ลำบากแล้ว ... แต่ต้องซุกซ่อนของขวัญ กับหาเวลาเหมาะๆ ที่จะเอาออกมาเซอร์ไพรส์เนี่ย ลำบากกว่าเยอะเลยค่ะ


กลับจากดูหนังแล้ว ก็ชวนกันดูทีวีไปเรื่อยเปื่อย ... เรานั่งเล่นคอมฯ เล่นเกม ไปด้วย หันไปอีกทีคนดีก็หลับเหมือนสลบ สงสัยจะขับรถเหนื่อย ขนาดพลุดังโครมครามยังไม่รู้เรื่องเลย


ข้อดีของการมาค้างบ้านคนดีในช่วงปีใหม่ก็คือ สามารถมองเห็นพลุได้จากหลายมุม ... พลุยิงขึ้นมาปุ้ง ปั้ง พร้อมๆ กัน 7-8 จุด ทั้งชุดเล็ก ชุดใหญ่ ดูเพลินนนนนนน ... ดูพลุจนจบแล้ว บอก Happy New Year กันเรียบร้อย ก็อาบน้ำเตรียมเข้านอนค่ะ


ระหว่างที่คนดีไปอาบน้ำ เราก็รีบหยิบกล่องของขวัญกับการ์ดออกมาวางไว้ ... วางของเรียบร้อยก็มุดเข้าผ้าห่ม เตรียมหลับ


คนดีมาเห็นของขวัญเอาตอนเช้า บอกขอบคุณ แล้วส่งการ์ดปีใหม่มาให้ ... ส่วนของขวัญนั้น ขอติดไว้ก่อน เพราะไม่รู้จะหาอะไร ส่วนของที่เราบอกว่าอยากได้ คนดีไปหาแล้ว แต่ยังหาไม่ได้ เลยขอแปะค้างไว้ก่อน ... ไม่เป็นไรค่า



ว่าแล้วคนดีก็เปิดกล่องของขวัญ ... ของขวัญปีใหม่ปีนี้ อยู่ภายใต้คอนเซปท์บำรุงค่ะ บำรุงสมอง และบำรุงความงาม


เบรนฟิต และ สกินฟิต อย่างละ 2 กล่องใหญ่ ค่ะ... ให้คนดีได้ลองชิม และหวังว่าจะช่วยบำรุงสมอง บำรุงผิวได้เล็กๆ น้อยๆ ... เห็นว่าทำงานเยอะ ใช้ร่างกายมาก พักผ่อนน้อย ไม่ค่อยได้ดูแลตัวเอง เลยจัดมาช่วยเสริมให้สักหน่อย


ขอให้มีเรื่องดีดี เรื่องที่ทำให้สดใส สดชื่น ยิ้มแย้มแจ่มใส เกิดขึ้นตลอดปีนะคะ ... สวัสดีปีใหม่ค่า