30.4.53

ประสบการณ์ นิ่งค้างกลางทางด่วน

ศุกร์ 30 เมษา ... ศุกร์สิ้นเดือน และเป็นวันหยุดต่อเนื่องด้วย เพราะฉะนั้นการจราจรคับคั่งแน่ๆ เพราะมีเหตุให้รถติดแบบทวีคูณ


เรานัดน้องฝน ชวนกันไปค้างบ้านคนดี เพราะคนดีจะพาที่บ้านไปหม่ำของอร่อย ... ตามแผนที่คุยกันไว้ตอนแรก คือ คนดีจะมารับที่ออฟฟิศ แล้วมุ่งหน้าไปหม่ำของอร่อย ที่ร้าน NK ตรงท่าดินแดง


เราหอบเสื้อผ้าสมบัติทั้งหลายมาที่ออฟฟิศเรียบร้อย เพราะคนดีไปค้างที่บ้านเมื่อคืน เลยหอบของใส่รถมาเลย ... แต่เพราะคนดีต้องไปตะลอนทั่วเมือง ทั้งเอารถไปเช็ค ไปรับของ ไปดูงานที่ซัพฯ ... คนดีเลยให้เราเอาสมบัติทั้งหลายลงที่ออฟฟิศไว้ก่อน แล้วค่อยขนขึ้นตอนมารับ


แต่................................................................................................................


งานที่ยุ่งนุงนัง บ่ายสามกว่าๆ คนดีโทรมาบอกว่ายังอยู่โรงงานซัพฯ ที่ศาลายา คงจะข้ามมารับลำบาก ... เอาหล่ะซิ ก็ต้องหอบสมบัติข้ามไปหา ไม่เป็นไร ไปได้ เจอกันแถวคลองสานแล้วกัน


เลิกงานเอาของที่ไม่ต้องใช้กลับมาเก็บบ้าน แล้ววนกลับมาออฟฟิศมารับน้องฝนขึ้นแท๊กซี่ไปด้วยกัน ... หาแท๊กซี่ไม่ยาก รอแป๊บเดียว และโชคดีที่ไม่ใช่แท๊กซี่เสื้อแดงเลยไม่ต้องฟังวิทยุให้ปวดหัว


แต่.................................................................................................................


พอเลี้ยวถึงด่านจ่ายเงินตรงดินแดง ก็อึ้ง เพราะรถหนาแน่นมาก เห็นไฟท้ายรถแดงๆ วิบวับเต็มไปหมด ... ต๊าย ตาย ตาย รถติดขนาดนี้เลยเหรอนี่ พอนึกได้ว่าเป็นศุกร์สิ้นเดือน แล้วหยุดต่อเนื่องด้วย ก็ทำใจได้ เรากับน้องฝนหยิบไอโฟนมาลองเล่น app ใหม่ๆ กัน


จากด่านดินแดงไปทางลงเพลินจิต รถค่อยๆ คืบไปทีละนิ ทีละนิด ใช้เวลาราวๆ ชั่วโมง แล้วค่อยๆ คลานผ่านทางลงพระราม 4 ... พอแยกมาทางดาวคะนองได้ก็แล่นฉิวดีขึ้น ก่อนจะมาเจอรถหนาแน่นเคลื่อนตัวได้ช้า ตรงหน้าเซ็นทรัลพระราม 3


ตรงนี้เองที่เสียงรถเริ่มแปลกๆ มันครืดคราดพิกล ... พี่คนขับบ่นว่า คลัทช์เริ่มไม่ปกติ คลัทช์จมๆ พิกล ... โอ๊ย ได้ยินแล้วใจไม่ดี ยังไงก็ขอให้พ้นทางด่วนไปก่อนเถอะ


แต่พอขึ้นเนินทางแยกจะมุ่งหน้าไปทางแจ้งวัฒนะ เพื่อที่จะลงทางด่วนสาทร รถก็ออกอาการหนักกว่าเดิม ส่งเสียงดังขึ้น กระตุก และดับ


เรียบร้อย ...................................................... รถนิ่ง เคลื่อนตัวไม่ได้แล้ว


เอาหล่ะซิ เอาไงดี ... พี่คนขับโทรหาเฮียเจ้าของอู่ พี่เค้าเพิ่งเอารถคันเก่าไปเทิร์นคันนี้มาได้ 2 วัน เมื่อวานก็เพิ่งซ่อมไดสตาร์ทไปตัวนึง วันนี้คลัทช์ก็มาออกอาการอีก ... โทรไปสอบถามวิธีแก้ไขอาการเบื้องต้น เพื่อให้รถลงจากทางด่วนไปได้ก่อน แล้วค่อยเอาเข้าอู่


แต่เฮียเจ้าของอู่รถก็ช่วยอะไรได้ไม่มาก และดูไม่อยากจะรับรู้ด้วยซ้ำ เพราะหลังจากนั้นก็ปิดเครื่องไม่รับสายพี่คนขับอีกเลย


เรากับน้องฝน คว้าไอโฟนมาหาเบอร์ฉุกเฉิน และช่วยกันโทร ... โทรติดศูนย์จราจรทางด่วนก่อน แจ้งเหตุขัดข้อง และขอความช่วยเหลือไปเรียบร้อย เจ้าหน้าที่บอกว่าจะส่งรถมาดูให้แต่คงต้องรอนานสักหน่อย เพราะรถติดมาก และมีรถเสียหลายจุด


เพื่อความอุ่นใจ เลยกดเบอร์ฉุกเฉิน จส.100 สวพ.91 สลับกันไปมาอีก ... จนติดสักรายนึง จำไม่ได้ว่ารายไหน แจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือไปเรียบร้อย ทีนี้ก็นั่งรอกันต่อไป


โชคดีที่จุดที่รถเสีย เป็นเนินทางขึ้นที่ด้านซ้ายมือเป็นสะพานพระราม 9 เลยได้ชมวิวมุมสูง สวยแปลกตาไปอีกแบบ ... นั่ง รอ ร้อ รอ รอกันไปเรื่อยๆ ลองโทรไปย้ำกับศูนย์จราจรอีกรอบว่ารถเจ้าหน้าที่ถึงไหนแล้ว


นั่งรออีกพักใหญ่ๆ พระเอกที่เรารอคอยก็มาถึงค่ะ ... เห็นไฟท้ายเหลืองๆ ถอยหลังวิบๆๆๆๆๆๆ มาจากข้างหน้า ... พี่เจ้าหน้าที่ 2 คน ลงมาคุยกับพี่คนขับถามอาการรถ เราเลยขอรบกวนถามเส้นทางด้วย เพราะคนดีกำลังหาทางวนรถมารับ


ตกลงกันว่าพี่เค้าจะลากรถไปส่งลงทางด่วนสาทร ... ผู้โดยสารอย่างเราก็หารถไปต่อ ส่วนพี่คนขับก็ต้องหารถมาลากไปเข้าอู่


ตกลงได้ก็ทำการประกอบร่าง รถลากถอยหลังมา ค่อยๆ ยกแท๊กซี่ขึ้น แล้วก็ลากรถเคลื่อนที่ไป ... ตอนประกอบร่าง ช่วนตื่นเต้นเล็กน้อย เพราะรถยกเอนขึ้น เหมือนกำลังจะนั่งรถไฟเหาะ พอรถเคลื่อนที่ได้ก็นั่งได้เพลินๆ สบายๆ มองซ้ายมองขวาไปเรื่อยๆ ... รถคันข้างๆ มีชะเง้อชะแง้ดูว่าเกิดอะไร เราก็แอบอมยิ้ม


มองโลกในแง่ดีว่า เป็นประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิต จะมีใครสักกี่คนที่จะเจอเหตุการณ์แบบนี้ ... แล้วโชคดีที่อยู่ด้วยกันสองคน เลยไม่เครียด ไม่ระแวง เท่าไหร่ ช่วยกันคิด ช่วยกันหา


พอลากรถลงไปได้ เราก็จ่ายค่ารถให้พี่แท๊กซี่ ขอบคุณพี่เจ้าหน้าที่ แล้วก็เดินไปหารถกันต่อ ... เดินหอบสมบัติไปจนถึงถนนสาทร แล้วก็ รอ ร้อ รอ แท๊กซี่ หายากเหลือเกิน แล้วยังมีอีกหลายกลุ่ม หลายคน ที่รอรถอยู่เหมือนกัน ... นั่งถอดใจว่าคงนานแน่ๆ โทรรายงาน โทรเช็คกับคนดีว่าใครอยู่ตรงไหน จะไปเจอกันตรงไหน เพราะคนดีวนรถมารับ ก็เจอรถติดหนึบเหมือนกัน


โชคดีที่เรียกแท๊กซี่ได้ แล้วพี่คนขับรู้จักทาง ขับรถปรื๊ดเดียวจากสะพานตากสินไปถึงท่าดินแดง ... เรากับน้องฝนหอบสมบัติ และสังขารเดินเข้าร้าน NK แบบเหนื่อยๆ


พักใหญ่ๆ คนดีก็ตามมาถึง ... คนดีมาแบบหิวโหย เรากับน้องฝน หิวโหยเหมือนกัน แต่หมดแรง


ออกจากออฟฟิศเกือบหกโมง กว่าจะมาถึงร้านได้ก็จวนเจียนจะสี่ทุ่ม ... เป็นการเดินทางที่ตื่นเต้น และเหนื่อยสุดๆ

5 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

4 ชั่วโมง นี่เราอยู่บ้านจังหวัดเดียวกันหรือเปล่าเนี่ย

วันนั้นขับรถวนไปวนมาทั่วเมืองเลยอ่ะ

big_birdy

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

หนีกันไปสองคนเลยเป็นแบบนี้เลย .... อิอิ

Wadee กล่าวว่า...

เป็นหนูคงวีนไปแล้ว พี่ตั๊กสุขุมลุ่มลึกจริง ๆ !!!

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ย้ายไปอยู่บ้านนอกกันเถอะชาวเรา

Tar la la

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

เหนื่อยแทนเลย

BeMuay

แสดงความคิดเห็น