อย่างที่เขียนไปใน บล็อกหน้าที่แล้ว ว่าโกลดี้มีอาการไม่ปกติ ก่อนออกจากกรุงเทพฯ ก็เริ่มประท้วง แล้วยังไปดับสนิทนิ่งที่วัดอีกต่างหาก ... เรากังวลทั้งคู่ แต่คนดีที่เป็นเจ้าของรถก็น่าจะกังวลมากกว่า
เช้าวันอาทิตย์ หลังจากรู้ว่าโกลดี้ดับสนิทนิ่ง ไม่หือ ไม่อือ ใดๆ ... คนดีก็ให้เราไปรออยู่ในห้อง ระหว่างที่โทรไปปรึกษาขอความเห็นและความช่วยเหลือจากเพื่อนผ้องน้องพี่ หลายคนหลายเสียงก็ช่วยวินิจฉัยอาการ และแสดงความเห็น ... เราเองเข้ามานั่งอ่านหนังสือธรรมมะไปเรื่อยๆ พักใหญ่ๆ คนดีก็กลับเข้ามา
ถามได่ความได้เรื่องว่า น่าจะมีอาการจากอะไร ตรงไหน ยังไงบ้าง และคนดีก็เล่าว่า มีญาติธรรมใจดี อาสาช่วยเหลือ เพราะเห็นดนดีเดินเก้ๆ กังๆ ดูรถอยู่หลายรอบแล้ว ... คนดีบอกว่าเป็น "พี่ทอม" มาช่วยจัมพ์แบตให้ รถสตาร์ทติดแล้ว แต่ระบบไฟข้างในยังไม่ทำงาน
ได้ยินคนดีเรียกพี่ทอมแล้วก็สงสัย ว่ารู้ได้ยังไงว่าเค้าอายุมากกว่า ... คนดีบอกว่าไม่แน่ใจเหมือนกัน แต่เดาเอาว่าน่าจะอายุมากกว่า
จนเช้าวันจันทร์ที่ช่างเค้ามาดู ระหว่างยืนคุยกับช่างอยู่ พี่เค้าก็เดินผ่านมาพอดี มาหยุดยืนดู ฟัง ช่วยซักถาม เสนอความเห็น และอาศาช่วยเหลือ ... พี่เค้าเสนอตัวว่า ถ้าต้องขับรถไปส่งที่ร้านไดนาโม เดี๋ยวเค้าจะขับรถตามไป เผื่อจะต้องจอดรถทิ้งไว้ให้ช่างดูอาการก่อน เค้าจะได้รับเราสองคนกลับมาที่วัด แล้ววันที่รถเสร็จ หรือเราจะเดินทางกลับ เดี๋ยวพี่เค้าจะขับรถไปส่งที่ร้านให้
ได้ยินแล้วซาบซึ้งในน้ำใจที่สุด ... โชคดีจริงๆ ที่เจอญาติธรรมดีดี
พอช่างบอกว่าจะเอาแบตไปชาร์จก่อน แล้วค่อยเอากลับมาใส่รถให้ขับไปที่ร้าน ... พี่เค้าก็บอกว่า "มีอะไรให้พี่ช่วยก็บอกแล้วกัน จะเอายังไงก็บอกมา" ก่อนจะเดินไปธรรมศาลา
ผลปรากฎว่า พอช่างไปชาร์จแบตมาแล้ว รถสตาร์ทติดได้ เราสองคนก็ขับรถออกไปร้านไดนาโมด้วยกัน ... เกรงใจไม่กล้าเดินไปตามพี่เค้าหรอกค่ะ ไม่อยากไปกวนคนที่ตั้งใจมาปฏิบัติธรรม ธุระของเราก็ลองจัดการกันเองก่อนแล้วกัน ... โชคดีที่ช่างบอกว่า เดี๋ยวถ้าต้องทิ้งรถไว้ เค้าจะขับเข้ามาส่งก็ได้ ... โชคดีกว่า ตรงที่รถอาการไม่มาก ไม่ต้องทิ้งไว้ แค่รอพักใหญ่ๆ ซ่อมเสร็จก็ขับกลับเข้าวัดมาได้เลย
หลังจากรถซ่อมเรียบร้อย ก็กลับมาจอดที่เดิมค่ะ มาอยู่ตรงหน้ารถพี่เค้าพอดี เหมือนเดิม ... แต่ยังไม่เจอตัวพี่เค้า เลยยังไม่ได้บอกว่ารถอาการปกติแล้ว กะว่าถ้าไม่เจอกันเลย ก็จะติดโน้ตขอบคุณไว้ที่หน้ากระจกรถพี่เค้า
จนเย็นวันที่ 13 ระหว่างรอสรงน้ำพระอาจารย์ คนดีก็หันไปเห็นพี่เค้ายืนอยู่พอดี เลยหันมาถามเราว่าควรจะเดินไปบอกมั้ย ... เรารีบพยักหน้าหนักแน่นทันที
คนดีเดินเข้าไปคุย แล้วก็หายไปนานนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน ... ดูท่าว่าจะคุยกันถูกคอค่ะ
สักพักใหญ่ๆ ก็มาตามเรา เลยได้มีโอกาสทักทายกับพี่เค้าด้วย ... แต่แหม ขัดใจอยู่หน่อยนึง เพราะคนดีแนะนำเราว่า "นี่เพื่อนนกค่ะ" ... จากนั้นคนดีก็ยืนคุยกับพี่เค้าอีกพักใหญ่ แหม ดูท่าจะถูกชะตา ถูกเส้นกันไม่ใช่น้อย
พอวันจะเดินทางกลับ เราก็เตือนคนดีให้เขียนโน้ตบอก แต่ย้ำเพื่อความแน่ใจว่า จำได้แน่นะว่ารถคันไหนเป็นรถของพี่เค้า ไม่ใช่จำผิดคันหล่ะ ... เลยบอกคนดีว่าเห็นพี่เค้านั่งอยู่หน้าโรงฉัน เดินไปลาเจ้าตัวเค้าเลยดีกว่า
คนดีหายไปพักนึงก็กลับมา เลยถามว่าเป็นไงบ้าง ใช่รถพี่เค้ารึเปล่า จะเขียนโน้ตทิ้งไว้มั้ย ... คนดีบอกว่า "ไม่ต้องแล้วหล่ะ พี่เค้าขอเบอร์เราไปเรียบร้อยแล้ว" ว้าว ว้าว ว้าว ว้าว นี่ถ้าเป็นสาวงามหล่ะก็คงต้องคิดหนักกันเลยทีเดียว
หึ หึ เดิมมีหมูหนิงเพื่อนรัก รักกันจิ๊จ๊ะหวานจ่อย ... ตอนนี้หมูหนิงมีคู่แข่งซะแล้วหล่ะ
3 ความคิดเห็น:
เหอ ๆ ๆ ยังไงหล่ะเนี่ย ^_^ สวยก็เงี้ยะแหละ
big_birdy
ไปปฏิบัติธรรม ทำไมออกไปข้างนอกได้ด้วยอ่า
...
ไปเล่าให้พี่อ้อฟัง
เรื่องที่นกคุงแนะนำคุณตั๊กว่า "นี่เพื่อนนกค่ะ"
พี่อ้อสงสัย นั่นสิ ทำไมคุณนกแนะนำไปแบบนั้น
ต้าตอบพี่อ้อไม่ได้เหมือนกัน แต่คิดเอาเองว่า
สงสัยนกคุงจะกั๊ก เพราะแอบหลงรักพี่ทอม
^ ^
แสดงความคิดเห็น