ก่อนจะปลาบปลื้ม ชื่นชมกับของฝากที่คนดีติดไม้ติดมือกลับมา ก็ต้องมีเหตุให้บ่นอุบอิบก่อน ... มีเรื่องให้ขุ่นเคืองหน้าคว่ำ ก่อนจะได้ยิ้มหน้าบาน
ตลอด 3 วันที่คนดีหายไปทำงานที่เชียงใหม่ มีเสียงตามสายมาหาตลอด ได้ยินแล้วชื่นใจ สบายใจ หายห่วง ... ทริปนี้ไม่หายจ้อย ไม่หลงลืมกัน แถมยังกล้าบอกคิดถึงเสียงดังฟังชัดซะด้วย เยี่ยมจริงๆ ... แต่เมื่อคืนคนดีก็พลาดเอาไม้สุดท้าย แหมมมมมมมม
ขาไปนั่งรถไปพร้อมกับลูกค้า 3 คน แต่ขากลับนั่งเครื่องน้องนกกลับมาพร้อมกับลูกค้า 1 คน ... เราไปเดินตามหาชุดไว้ทุกข์แบบเรียบร้อย ก็โทรคุยกันตลอด คนดีบอกว่ามือถือแบตจะหมดเครื่องนึง ส่วนอีกเครื่องยังไม่ได้เติมเงินโทรออกไม่ได้ ... โอเค ไม่เป็นไร เดี๋ยวโทรหาเอง ตอนคุยกันก็ราวๆ ทุ่มนิดๆ คนดีถึงแอร์พอร์ทเรียบร้อยแล้ว
รู้ว่าไฟลท์ออกราวๆ สองทุ่มนิดๆ ถึงกรุงเทพฯ ก็ราวๆ สามทุ่ม ... ซื้อของเสร็จกลับถึงบ้านก็สองทุ่มกว่าไปแล้ว เลยไม่โทรหาคนดีเพราะคิดว่าน่าจะเตรียมตัวขึ้นเครื่อง คนดีก็ไม่ได้โทรมา ... นั่งทำอะไรไปเรื่อยๆ พอเหลือบดูเวลาเห็นสี่ทุ่มแล้ว เลยกดไปหา แต่เครื่องปิดติดต่อไม่ได้ทั้ง 2 เครื่อง
ทิ้งเวลาสักพัก แล้วก็โทรเข้าไปอีก ก็ยังติดต่อไม่ได้ ผิดเวลาไปเยอะแล้ว ชักห่วง ... จนใกล้จะห้าทุ่ม ก็มี sms เด้งกลับมาว่าติดต่อได้แล้ว รีบจิ้มกลับไปทันที ได้ยินเสียงคนดีก็โล่งใจ แล้วตามมาด้วยความหงุดหงิด ... "เครื่องดีเลย์ ออกสามทุ่มกว่า" "แล้วทำไมไม่โทรมาบอกหล่ะค่ะ" "ก็แบตมันจะหมดนี่" "เอ้า แล้วตู้สาธารณะหล่ะ ไม่มีเลยเหรอ"
"ก็จะให้โทรยังไง ก็เค้าเรียก final call แล้วอ่ะ" เอ๊ะ แล้วมันเกี่ยวกันยังไง เลยต้องซักไซ้ไล่เลียงกันยาว ... สรุปได้ความว่าคนดีไปถึงสนามบิน พอเช็คอินก็รู้ว่าไฟลท์ดีเลย์ แต่ลืมโทรมาบอกเรา แล้วคงเดินเล่นอยู่ข้างนอกรอเวลา แต่กลายเป็นว่าเครื่องมาเร็วกว่าที่แจ้งไว้ เลยโดนเรียก final call ... ฟังความชัดเจนกระจ่างใจ ก็ได้เวลาชี้แจงให้รู้ว่า คนที่นั่งรออยู่โดยที่ไม่รู้ข่าว ติดต่อไม่ได้ ห่วงขนาดไหน แล้วขึ้นเครื่องกลับมาแบบนี้ ยิ่งห่วงไปกันใหญ่ ... ลองคิดดูซิ ว่าถ้าเป็นคนนั่งรอ จะห่วงมั้ย
สักพักคนดีกลับมาถึง ก็เดินหน้าเหี่ยวเข้ามา เพราะรู้ว่าพลาดไปแล้ว วางของเรียบร้อยก็เข้ามากอด พร้อมคำพูด "เค้าขอโทษ" ... ยกโทษให้ แต่ขอเอ็ดอีกหน่อยนึง
เข้าห้องเก็บของเสร็จ คนดีก็หยิบของฝากออกมาให้ ... ตั้งแต่วันแรกที่ไปถึง ได้คุยกัน ก็ลองถามดูว่าจะมีของฝากมั้ย คนดีเองก็ไม่แน่ใจว่าจะมีรึเปล่า ... แต่สักพักก็โทรมาบอกว่าได้ของฝากแล้วให้รอดู
นี่หล่ะค่ะ ของฝากจากเชียงใหม่ ที่คนดีคัดมาให้ ... ปกพาสปอร์ท กับ ที่เก็บนามบัตร สีม่วงถูกใจ - สร้อยข้อมือเชือก ที่คนดีซื้อมาเหมือนกันแต่คนละสี - แหวนดอกไม้ - ที่ชอบใจมากที่สุดก็ต้อง สร้อยผีเสื้อ เพราะอยากได้สร้อยเส้นสั้นๆ มีจี้เล็กๆ ชิ้นนี้ตรงใจมาก เป็นผีเสื้อตัวน้อยแบบนี้ยิ่งชอบมาก เพราะชอบผีเสื้อ
คนดีบอกว่าทุกชิ้นมาจากถนนคนเดิน ตอนแรกก็ไม่รู้ว่าจะซื้ออะไรมาฝากดี แต่พอเห็นสร้อยแล้วรู้ทันทีว่าใช่ ชิ้นนี้แหละเหมาะกับเราแน่ๆ ... ส่วนชิ้นอื่นๆ ก็ทยอยตามมา
ไม่ได้มีของฝากเราแค่คนเดียว คนดียังซื้อของเล็กๆ น้อยๆ ให้ตัวเองด้วย ... แหวนวงเล็กๆ บนมือใหญ่ๆ ของเราสองคน ถึงจะไม่เหมือนกันเป๊ะ แต่ก็จัดอยู่ในหมวดหมู่เดียวกัน ใช้คล้ายๆ กัน ตามคอนเซปท์ทีมเดียวกัน
คนดีขา ... ขอบคุณนะคะสำหรับของฝากทุกชิ้นที่ซื้อมาให้ ชอบทุกชิ้นเลยค่ะ
7 ความคิดเห็น:
นกยักษ์บีบมือคุณตั๊กซะนิ้วหงิกเลย (รูปเล็ก)
ก๊ากกกกกกกกกกกกกกก
ของฝากน่ารักมากค่ะ ชอบใจทุกชิ้นเลย
ไว้เอาไปให้ผึ้งดูดีก่า
ปล. ทำไมในรูปมือคุงนกถึงได้ "ดำ" จังคะ^^
ได้ของฝากถูกใจอย่างนี้
คุณตั๊กยิ้มอย่างนี้แน่ๆเลยค่ะ พิมนึกภาพออก
^_____________________^
แหะๆ
^^
คราวหน้าถ้านกยักษ์ขึ้นเหนืออีกเนี่ย คุณตั๊กอย่าลืมติดโลชั่นไปให้สักหน่อยนะคะ ท่าทางอากาศหนาวจะรีดความชุ่มชื่นจากผิวไปหมดละนั้นน่ะ
มือเหี่ยวเชียวนกยักษ์
ก๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
+++ ^___________________________^ +++
ps. แอบอิจฉาของฝากอันที่เป็นเชือกข้อมือ อยากไปเดินเลือกของที่ถนนคนเดินบ้าง หุหุ แต่ปีนี้คงอด
ของฝากน่ารักจังเลยคะ ชอบแหวนคะ
ง้า ตอนแรกแอบนึกว่าเป็นไส้อั่ว กะน้ำพริก555+
ของฝากน่ารักจัง
แสดงความคิดเห็น