13.11.53

ทริปเราสามสี่คน @ เกาะสีชัง

ทริปนี้เกิดจากการคุยกันของคนที่ไม่เคยไปเกาะสีชัง กับ คนที่เคยไปเกาะสีชังแล้ว และอยากไปเก็บตกเพิ่มเติม ... การนัดตะลุยเกาะสีชังจึงเกิดขึ้น


จัดแจงส่งคำชวนผ่าน fb ไปยังเพื่อน พี่ น้อง ที่คุ้นเคยกันหลายคน ... แต่มีตอบกลับคอนเฟิร์มร่วมทริปกันเพียง 4 ชีวิตเท่านั้น มีแค่นี้ก็ไปแค่นี้ค่า


นัดเจอกัน 9 โมง แต่คนดีสาย เลยสายทั้งขบวน กว่าจะออกเดินทางได้ก็ 10 โมง ... ตรงดิ่งยิงยาวไปท่าเรือเกาะลอย เลยนิด หลงหน่อย ได้ลงเรือเที่ยวบ่ายโมง ขึ้นเกาะสีชังก็ราวๆ บ่ายสอง


ขึ้นเกาะได้ก็ตะลอนทัวร์กันเลยค่ะ จ้างรถสกายแล็ปพาเที่ยว ... จุดหมายแรกที่ไปคือ ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ ถึงแล้วแต่ไม่มีแรงไต่บันไดขึ้นไปไหว้สักการะ เพราะหิวมือไม้สั่น ขอเติมพลังก่อน ไม่งั้นไม่มีแรงเดินขึ้นบันไดแน่ๆ


หมึกย่าง ไก่ย่าง ตับย่าง และ ผัดซีอิ๊ว ... แบ่งปันกันรองท้องเบาๆ ให้พอมีแรง พอท้องอิ่ม ก็เริ่มเดินขึ้นบันไดกันได้ค่ะ


ไหว้สักการะเรียบร้อย แวะทำบุญช่วยมูลนิธิสงเคราะห์คนชราที่อยู่ตรงนั้นสักหน่อย ... แล้วก็เรียกสกายแล็ปมารับไปจุดหมายต่อไป


สกายแล็ปพามาส่งที่ ช่องอิศริยาภรณ์ หรือ ช่องเขาขาด ค่ะ ... แต่แดดแรง แดดเปรี้ยง เดินตามทางไปสุดปลายทางไม่ไหวค่ะ หยุดถ่ายรูปกันแค่ครึ่งทางก็ต้องล่าทัพ


บอกให้พี่สกายแล็ปที่จอดรออยู่พาไปส่งที่ร้านอาหาร ที่หาข้อมูลเจอจากในอินเทอเน็ทนี่หล่ะค่ะ ... เห็นว่าร้านอยู่ใกล้กับจุดหมายต่อไปพอดี เลยยืนยันหนักแน่นว่ามาร้านนี้แหละ ร้านชื่อ "เล็กท่าวัง" ค่ะ


มีโต๊ะอยู่พอสมควร แต่ร้านโล่ง ไม่มีลูกค้า คิดว่าเพราะเลยเวลามื้อเที่ยงมานาน แต่ก็อีกนานกว่าจะถึงมื้อเย็น ... เลือกทำเลนั่ง แล้วสั่งอาหารเลย


หมึกผัดไข่เค็ม ต้มยำกุ้งน้ำข้น ปลากระพงลุยสวน ส้มตำปูม้า ... ใช้ไม่ได้สักจานค่ะ กินไปอารมณ์เสียไป หมึกผัดไข่เค็มมันไป ต้มยำน้ำข้น แต่น้ำซุปแยกตัว ปลากระพงเกือบดี ถ้าเครื่องที่ราดหน้ามาจะซอยชิ้นเล็กกว่านี้ บางกว่านี้ และรสชาติกลมกล่อมกว่านี้ ส้มตำเส้นมะละกอช้ำ ไม่แซ่บ ไม่นัวเลย ... โหย กินไปก็นึกถึงคนที่มาแนะนำร้านนี้ ว่าลิ้นจระเข้รึเปล่า แต่เอ๊ะ หรือว่าลิ้นเรานั้นมาตรฐานสูงเกินไป


มุ่งหน้าไปจุดหมายต่อไปแบบ ไม่อิ่ม และไม่อร่อย ... เดินไปนิดเดียวก็ถึง พระจุฑาธุชราชฐาน พระราชวังบนเกาะแห่งเดียวในประเทศไทย ที่ประทับของรัชกาลที่ 5 ... คราวนี้ไม่มีมัคคุเทศก์น้อยช่วยนำทาง เลยต้องสุ่มเสี่ยงลองเดินกันเองค่ะ


ขอแผ่นพับที่มีแผนผังที่ตั้งของเรือนต่างๆ มาเดินสำรวจเส้นทางกันเอง ... บีหมวยระบุเป้ามาหมายชัดเจนว่าอยากเดินชมรอบใหญ่ ซึ่งใช้เวลาราวๆ 1-1.30 ชม.


เดิน เดิน เดิน และเดิน เหมือนมาเดินออกกำลังกาย มากกว่าเดินเล่นชมความงาม เพราะเรามาถึงกันค่อนข้างเย็น เรือนต่างๆ ที่เปิดแสดงนิทรรศการ ปิดไปหมดแล้ว ... เลยเดินอ่านชื่อพระตำหนัก บ่อน้ำ บันได และทางสัญจรต่างๆ ที่เป็นชื่อพระราชทานที่คล้องจองกันอย่างไพเราะ และน่ามหัศจรรย์


เดินไปจนถึงที่หมายในใจบีหมวย จุดชมวิวเนินเขาน้อย ค่ะ ... บันได้ทางขึ้นมีกอหญ้ารก แต่พอเดินขึ้นไปด้านบน วิวที่เห็น สวยคุ้มเหนื่อยค่ะ


จากจุดนี้เราก็ไปต่อกันที่จุดฮิต ใครมาเกาะสีชังไม่มาตรงนี้ ถือว่ามาไม่ถึงค่ะ ... นั่นคือ สะพานอัษฎางค์


เราก็ไปถ่ายรูปเดี่ยว รูปคู่ รูปหมู่ เป็นที่ระลึกสักหน่อย ... นั่งพัก เดินชมวิว รับลมเย็นๆ เพลิ๊นนนนน เพลินนนน


เพลินจนพี่คนขับสกายแล็ปต้องโทรมาตามค่ะ เพราะเรือโดยสารเที่ยวสุดท้ายที่ออกจากเกาะสีชัง คือรอบ 18.00 น. แล้วเวลาขณะนั้นก็ 17.45 น. แล้วค่า ... รีบขึ้นสกายแล็ป ซิ่งปรู๊ดเดียวก็ถึงค่ะ เพราะอยู่ไม่ไกล


จริงๆ มีที่พักค้างคืนได้บนเกาะ แต่ไม่ได้อยู่ในแผนของเราค่ะ ไม่ได้เตรียมตัวมาค้าง แต่เราเตรียมตัวมากินของอร่อย ... เลยต้องย้อนกลับขึ้นฝั่ง แล้วตรงดิ่งไปบางแสน เป้าหมายในใจทุกคนคือ ปูนึ่งและยำเจ้าอร่อยที่บางแสน


แต่ว่ามีงานแข่งรถพอดี ปิดเส้นทางเพื่อทำการแข่งขัน แล้วร้านโปรดของพวกเราก็ติดอยู่ในเส้นทางด้วย ... อด อดค่ะ อด เศร้า


เลยตรงดิ่งยิงยาวเข้ากรุงเทพฯ คนดีรีบแวะเข้าบ้านไปทำธุระแป๊บนึง ... แล้วเราก็ไปปิดท้ายทริปนี้กันที่ร้านข้าวต้มวัดบวร ต่อด้วย มนต์นมสด ... อิ่มม อร่อย กับร้านเดิมๆ ที่คุ้นเคย ก่อนจะแยกย้ายกลับบ้านกันได้


เกาะสีชัง มีอะไรน่าสนใจ แต่ไม่น่าประทับใจ ตรงที่ไม่เจอร้านอร่อยนี่หล่ะค่ะ ... ทริปหน้าเปลี่ยนเป็นเกาะเสม็ด หรือ เกาะล้าน ดีกว่า

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น