ที่มาของทริปนี้เกิดขึ้นเพราะความอยากค่ะ ที่สำคัญ คือ "อยากกิน" ค่ะ และโจทย์หลักคือ "ก๋วยเตี๋ยวปากหม้อ" ค่ะ
เรากับคนดี เคยได้ยิน เคยดู เคยเห็น "ก๋วยเตี๋ยวปากหม้อ" ผ่านทางคำบอกเล่าของเพื่อน หนังสือพิมพ์ และ รายการทีวี ... ได้แต่เก็บไว้ในใจแต่ยังไม่มีโอกาสตามหา ตอนไปเที่ยวแก่งหินเพิง เที่ยววังน้ำเขียว ก็ผ่านเส้นทางแถวนี้ แต่ไม่มีใครรู้พิกัดที่ชัดเจน เลยไม่ได้ชิมสักทีค่ะ
จนมาคุยกับพ่อ พ่อบอกว่าแถวบ้านเพื่อนพ่อที่พนมสารคารก็มี ไว้จะพาไปชิม เรากับคนดีได้ยินแล้วกระหยิ่มยิ้มย่อง ... จนคุณกี้แวะไปชิมแล้วมาเขียนบล็อก ก็มากระตุ้นต่อมความอยากกินของคนดีให้พลุ่งพล่านขึ้น ... จนไปลองคุยกับพ่ออีกที เลยเกิดการนัดแนะจองคิวกันล่วงหน้าทันทีค่ะ
ทริปนี้เป็นทริปพา สว. (สูงวัย) เที่ยวค่ะ เพราะผู้โดยสารด้านหลัง คือ หม่ามี้ พ่อ และ เพื่อนพ่อ ... เช้าวันเสาร์ ราวๆ 10 โมง สมาชิกก็รวมตัวกันพร้อม โดดขึ้นรถ มุ่งหน้าไปทางมอเตอร์เวย์ค่ะ
จุดหมายแรกที่แวะคือ ร้านก๋วยจั๊บเจ้าดัง แต่ไม่ได้แวะทานก๋วยจั๊บนะคะ พ่อแวะลงไปซื้อน้ำตาลสด กับ กล้วอบน้ำผึ้งทอด ค่ะ ... ชื่อทริปก็บอกแล้ว ว่า กิน กิน กิน ก็ต้องเปิดด้วยของกินค่ะ
แล้วมุ่งหน้าไปไหว้หลวงพ่อโสธร ... พอดีวันนี้แต่งตัวไม่เรียบร้อย กางเกงสั้นเหนือเข่า เลยปล่อยให้ สว.ทั้ง 3 เข้าไปในโบสถ์ใหม่ ... ส่วนเรากับคนดีไปที่โบสถ์เก่า เราไหว้พระด้านนอก แล้วให้คนดีเป็นตัวแทนไปปิดทองด้านใน ... ไหว้พระเป็นศิริมงคลแล้วก็เดินทางกันต่อค่ะ
จุดหมายปลายทางอยู่ที่ อ.พนมสารคาม ค่ะ เพราะบ้านเพื่อนสนิทของพ่ออยู่ที่นั่นค่ะ ... ไม่ได้เป็นบ้านธรรมดา แต่เป็นร้านข้าวมันไก่ค่ะ หาไม่ยากค่ะ อยู่เลยจากแยกพนมสารคามมาหน่อยเดียว เลี้ยวซ้ายเข้าไปนิด ตรงไปอีกหน่อย ก็ถึงค่า
พ่อ หม่ามี้ และ อา อา พอเจอกันก็ทักทายกันเฮฮา ยกเสบียงที่ขนมาเปิดมื้อกลางวันหม่ำกันทันที ... ส่วนเรากับคนดี ที่เป้าหมายอยู่ที่ "ก๋วยเตี๋ยวปากหม้อ" เพราะฉะนั้น ขอตัวยังไม่รวมวงนี้ แต่เดินข้ามถนนไปฝั่งตรงข้ามค่ะ
เป้าหมายอยู่ที่ "ร้านปากหม้อคุณเสาวณีย์" ค่ะ ... อา อา และ พ่อ บอกว่า ในละแวกนี้มีร้านก๋วยเตี๋ยวปากหม้ออยู่หลายร้านค่ะ แต่ร้านนี้เป็นร้านแรก ที่อยู่มานาน และมีป้ายการันตีจากคุณหมึกแดงค่ะ
เริ่มต้นที่น้ำซุปก่อนค่ะ ว่าจะใส่อะไรบ้าง ตีนไก่ กระดูก ลูกชิ้น เลือด ... ตีนไก่ กระดูก 3 ชิ้น 10 บาท ลูกชิ้น เลือด 2 ชิ้น 5 บาท ... เราเลือกลูกชิ้นอย่างเดียว 4 ลูก ก็ 10 บาท ส่วนคนดีเลือก ตีนไก่ กับ ลูกชิ้น ก็ 15 บาทค่ะ
ได้น้ำซุปแล้วก็ปรุงตามใจชอบค่ะ เราไม่ปรุงอะไรเลย เพราะน้ำซุปรสกลมกล่อมดีแล้ว เติมกระเทียมเจียว กับ ผักโรย นิดหน่อยพอ ... ส่วนคนดีปรุงรสจัดจ้านขึ้นมาหน่อย
น้ำซุปพร้อมก็รอปากหม้อค่ะ ... มี 6 ไส้ - กุ่ยช่าย ถั่วงอก หน่อไม้ เต้าหู้ ถั่วฝักยาว และ ไส้หวาน ... ร้านนี้ปากหม้อตัวละ 1 บาท ทำให้ชุดละ 5 ตัวค่ะ ... พอดีมีลูกค้ารายอื่นอยู่ เลยต้องรอคิวนิดหน่อยค่ะ คุณป้าจะทำปากหม้อให้ทีละคน ทีละชุด วนไปเรื่อยๆ ค่ะ
เราเลือกไส้หวาน กับ เต้าหู้ค่ะ จัดการไป 2 ชุด 10 ตัว ค่าเสียหายรวมน้ำซุบ 20 บาท ... คนดีเลือก กุ่ยช่าย หน่อไม้ เต้าหู้ ไส้หวาน จัดการไป 3 ชุด 15 ตัว ค่าเสียหายรวมน้ำซุป 30 บาท
อิ่มกำลังสบายก็ข้ามถนนกลับมาร่วมวงกับ สว. ค่ะ ... เพื่อนสนิทมาเจอกัน ก็เม้าท์กันไป กินกันไป แล้วเจ้าบ้านขายอาหาร ก็ยกอาหารในร้านมาให้กินเพลินๆ ค่ะ
ทั้งไก่ต้ม ไก่ทอด หมูกรอบ ... ตักมาเพียบ จิ้มกินเปล่าๆ หรือ จะกินกับข้าวมันก็ได้ค่ะ กินได้เต็มที่ไม่อั้น ... เราสองคนที่ตุนก๋วยเตี๋ยวปากหม้อมาแล้ว ก็อดใจไม่ไหวขอชิมนิดๆ หน่อยๆ ก็มันอร่อยอ่ะค่ะ
อิ่มแล้วนั่งฟัง สว. คุยกัน ก็ชักจะตาปรือ ... อา อา เลยแนะนำว่าให้ขับรถไปเที่ยวดีกว่า อย่านั่งจุมปุ๊กอยู่กับผู้ใหญ่ที่เริ่มตั้งวงก๊งเลย จะได้ไม่เบื่อ ... จุดหมายที่แนะนำมาคือ ศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อน
เป็นศูนย์ศึกษาฯ เนื่องจากพระราชดำริ เพื่อแนะนำและให้ความรู้ทางการเกษตร เปิดให้ท่องเที่ยว และศึกษาจากผลงานภายในศูนย์ค่ะ ... พื้นที่กว้างมากค่ะ ขับรถเข้าไปวนๆ เที่ยวชมตามจุดต่างๆ ได้สบายค่ะ ... ที่เราสองคนสนุกสนานกันมากคือ หยุดถ่ายรูปตามจุดต่างๆ ค่ะ เพราะถึงแดดจะแรง แต่ต้นไม้แน่นครึ้ม ร่มรื่นค่า
เที่ยว เล่น ถ่ายรูปกันจนบ่ายสามโมง ก็กลับไปที่ร้านอาค่ะ เพราะ สว. จะยกขบวนไปกันต่อ ... เนื่องจาก อา อา เป็นคนพื้นที่ และ พ่อก็เคยมาทำงานอยู่ที่นึ่พักใหญ่ เพื่อนเยอะ เลยต้องตระเวณทักทายเพื่อนค่ะ
พอเจอเพื่อนอีก 3-4 ราย ก็เกิดการยกขบวนไปหม่ำ อีกแล้วค่ะ ... จุดหมายคือ สมาคมชาวบ้านสร้าง เห็นหน้าตาร้านแล้วงงๆ เพราะเพิ่งตื่น แต่คนพื้นที่การันตีว่าอร่อย ก็ต้องลองค่ะ
เมนูโดดเด่นของมื้อนี้ คือ กุ้งเผา ค่ะ อย่างที่เห็นในรูปนั่นหล่ะค่ะ กุ้งแม่น้ำตัวโตกำลังดี มันเยิ้ม โอ๊ย แค่คิดถึงก็น้ำลายจะหยด ... ถัดมาเป็น เมี่ยงปลากรอบ เป็นเมี่ยงแบบสำเร็จค่ะ คือเครื่องทั้งหลายถูกปรุงรส คลุกเคล้ามาเรียบร้อยแล้ว แค่ตักใส่ใบชะพลูเท่านั้น ก็อร่อยแล้วค่ะ ... ทอดมันปลากราย เนื้อหนึบ เคี้ยวอร่อยค่ะ ... ส่วนจานที่เหลือที่เห็นมะม่วงซอยเพียบนั้นคือ ยำสามกรอบ ค่ะ ปลาหมึกทอด กระเพาะปลาทอด ปลาดูกฟู ซ่อนตัวอยู่ใต้มะม่วงซอยค่ะ พอคลุกเคล้าเข้ากันแล้ว อร่อยเด็ดค่ะ กินเพลินนนนนนนน
นอกจากนี้ยังมีอีกหลายจานที่ไม่ได้ถ่ายรูปมา ... ปลาไหลผัดเผ็ด ลูกชิ้นปลากรายลวก กุ้งทอด พล่ากุ้ง ... ทุกจานรสชาติใช้ได้ค่ะ ส่วนค่าเสียหายเท่าไหร่ ไม่ทราบเลยค่ะ เพราะมื้อนี้มีเพื่อนๆ พ่อ เป็นเจ้ามือค่า
กิน กิน กิน ไม่ได้หยุดพัก ท้องเต่ง จนสะกดคำว่าหิวไม่เป็นเลยค่ะ ... ตะลอนกินจนทุ่มกว่าถึงได้เข้าที่พัก ลานนารีสอร์ท ที่พักที่เพื่อนพ่อจัดการจองไว้ให้อีกเช่นเคย
ห้องพักกว้างขวาง สะอาดสะอ้าน อุปกรณ์อำนวยความสะดวกพร้อม ... ทีวี แอร์ เครื่องทำน้ำอุ่น ตู้เย็น พร้อมน้ำดื่ม 2 ขวด มีผ้าเช็ดตัวอยู่ในถุงพลาสติคอย่างดี ... ราคาคืนละ 500 บาท คุ้มค่ะ
เช็คอิน เก็บของเสร็จเรียบร้อย ... ห้อง สว. ข้างๆ ถามมาว่าจะออกไปตะลอนรอบค่ำด้วยกันอีกรึเปล่า เราสองคนขอผ่าน ขอนอนเอกเขนกดูคอนเสิร์ทเอเอฟดีกว่า ... พ่อ หม่ามี้ และอา เลยขับรถตะลอนออกไป กินมื้อค่ำ ฟังเพลง กันตามลำพัง
มากับ สว. แต่เราสองคนขอยอมแพ้นอนสิ้นสภาพอยู่ในห้อง ... เพราะตะลอนกินจนพุงตึงมาก แล้วเจอแดดเปรี้ยง ดูดพลังไปเยอะ ขอชาร์จแบตไว้รอลุยวันพรุ่งนี้ต่อดีกว่าค่ะ