ผ่านร้อน ผ่านฝน ผ่านหนาว มา 30 ปีนิดๆ อยู่มาได้สบายๆ ชิลด์ ชิลด์ ... อกหักรักคุดกับปั๊บปี้เลิฟไปหน จากนั้นก็ลั้ลลารื่นเริงสบายใจดี แต่จู่ๆ ก็เพิ่งจะเข้าใจความรู้สึกคนอกหัก
ทีแรกเสาร์-อาทิตย์นี้มีนัดกับบุพการี จะไปพัทยา ไปทำความสะอาดคอนโด และตะลอนกินของอร่อย ... จู่ๆ หม่ามี้ก็เปลี่ยนแผนกระทันหัน เก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าไปไหว้พระกับเพื่อนๆ ที่เคยทำงานด้วยกัน ตะลอนไหว้พระภาคเหนือ ... วงที่นัดกันไว้เลยสลายตัวค่ะ เราเลยหอบเสื้อผ้าไปข้างบ้านคนดี
เพราะคนดีบอกว่า วันเสาร์โซ้ยอี้จะทำข้าวคลุกกะปิของโปรดเรา ให้มาหม่ำด้วย ... ไหนๆ ก็คิวว่างแล้ว ไปค้างซะตั้งแต่วันศุกร์เลยแล้วกัน แต่มีข้อแม้ว่า คนดีต้องเสนอร้านอาหารอร่อยๆ สำหรับมื้อเย็นวันศุกร์มาให้พิจารณา ถ้าถูกตาต้องใจ จะเก็บเสื้อผ้าไปค้างด้วย
คนดีเสนอทางเลือกทั้งอาหารญี่ปุ่น จีน ฝรั่ง ตัวเลือกน่าสนใจหลายอัน แต่สรุปลงตัวที่ อาหารฝรั่ง ... เพราะร้านที่เสนอมาเคยไปแล้วครั้งนึง ติดใจทั้งอาหาร และบรรยากาศ แต่ไม่ได้ไปอีกเลย ... อยากกิ๊น อยากกิน แค่นึกว่าจะได้ไปก็ตื่นเต้นดีใจ
ปกติจะจัดการหาเบอร์โทรศัพท์ และโทรจองโต๊ะเอง แต่คราวนี้ขอให้คนดีจัดการ เพราะอยากรู้สึกพิเศษค่ะ ... รู้ทั้งรู้ว่าคนดีงานยุ่ง แต่ขอแค่เจียดเวลาจากงานสักแวบโทรไปจองโต๊ะให้หน่อยเถอะนะคะ เพราะถ้าโทรจองเองเหมือนทุกที มันรู้สึกเหมือนเป็นคนบงการ จัดการทุกอย่าง ทำอ่ะทำได้ แต่มันไม่พิเศษไง
ตามสไตล์คนดีที่ยุ่งวุ่นวายมาก ได้เบอร์โทรจากเราไปแล้วก็ทำเฉย จนพอเราท้วง ก็ส่งข้อความผ่านเอ็มมาว่าให้เราจองเองได้มั้ย ... เลยต้องอธิบายกันสักหน่อยว่า จองเองมาสารพัด ทั้งตั๋วหนัง ตั๋วละครเวที ตั๋วเครื่องบิน ห้องพัก และอีกสารพัดแล้ว นานๆ ขอให้จองให้สักครั้งเพราะอยากรู้สึกพิเศษ อยากรู้สึกว่าคนดีตั้งใจทำ ตั้งใจเตรียม ตั้งใจเลือกไว้ให้ จะได้มั้ย เข้าใจมั้ย
คนดีเข้าใจ และยอมโทรจองโต๊ะให้โดยดี ... โทรจองเสร็จ ส่งข่าวบอกว่าเบอร์ที่เราให้ไปอ่ะ เค้าเปลี่ยนแล้วนะ ... อ๋อ เหรอ อืมมมม แต่จองเรียบร้อยใช่มั้ย
18.30 ของวันศุกร์ เป็นเวลาที่เฝ้ารอ คิดเมนูที่อยากกินไว้ล่วงหน้า แล้วตื่นเต้นดีใจตั้งแต่ค่ำวันพฤหัส เพราะอยากไปมากกกกก และอยากกินมากกกกกก ... เลิกงานปุ๊บรีบเก็บของออกจากออฟฟิศอย่างรวดเร็ว
ฝ่าการจราจรไปแบบเรื่อยๆ รถไม่ติดมาก แต่ก็หนาแน่น ... หาที่จอดรถได้เรียบร้อย ก็จูงมือกันเดินไปถึงร้าน เวลายังเหลือ เดินไปถึงคงตรงเวลานัดพอดี
แต่ ............................................................................................................................................
พอเดินไปถึงที่หมายแล้ว กลับพบว่า ... ร้านย้ายไปอยู่อีกที่นึงแล้ว
พอได้ยินพนักงานร้านใกล้เคียงบอกข่าว เราก็ช็อค นิ่ง อึ้ง ตะลึง งุนงง ... ในหัวโล่งงงงงงงงงงงงงง ว่างงงงงงงงงงง คิดอะไรไม่ออก เซลล์สมองเสียหายชั่วคราว ก่อนจะชวนคนดีเดินผละออกมา
คนดีบอกว่า หน้าเรา เหวออออออออออออออออออออ อย่างเห็นได้ชัด เหวอแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ... หน้างงมาก
งง จริงๆ ค่ะ สมองโล่ง คิดอะไรไม่ออก ครั้นจะกลับตัวไปจุดหมายที่ร้านย้ายไปก็คงไม่ทันเวลานัดแน่ๆ ... พอรู้ว่าร้านย้ายไปแล้ว จากที่หิวมากกกกก ตื้อขึ้นมาเลยค่ะ อึ้ง มึน งง
คนดีถามว่าจะเปลี่ยนไปกินร้านไหนดี ก็นึกอะไรไม่ออก ทั้งที่ละแวกนั้นมีร้านอาหารหลายร้าน ... แต่มึนค่ะ เพราะตั้งใจมากินร้านนี้จริงๆ ไม่ได้เหลียวแลร้านอื่นเป็นทางเลือกไว้เลย พออดแบบนี้ ก็ไปไม่ถูก ไปไม่เป็นกันเลยทีเดียว
คนดีเสนอชื่อมาให้หลายร้าน แต่ก็ยังไม่ใช่ เพราะไม่ได้นึกอยากกิน ... จนมาลงตัวที่ร้านนึง อาหารใกล้กัน แต่บรรยากาศคนละแบบ เคยกินแล้ว ถูกใจใช้ได้ เอาหล่ะ ร้านนี้ก็ได้ พอจะแทนกันได้
แต่ แต่ แต่ .........................................................................................................................................
พอไปกินแล้ว อาหารไม่อร่อยเหมือนเคย ... เพราะฉะนั้นแทนที่กินแล้วจะหายมึน งง กลับยิ่งแย่หนัก เพราะอดกินของอร่อยแบบไม่น่าเชื่อแล้ว ยังต้องมากินของที่เคยอร่อย แต่ตอนนี้ไม่อร่อยเหมือนเคยด้วย ... โอ้โห รู้สึก "อกหัก" อย่างแรงค่ะ
มันอึกๆ จุกๆ อยู่ข้างใน หัวโล่งๆ คิดอะไรไม่ออก ตื้อๆ มึนๆ งงๆ ทั้งเสียดาย และเสียใจ ... คนดีได้ยินแล้วขำ ว่าอกหักเพราะอดกินของอร่อยเนี่ยนะ ... อืมมมมมมม อกหักจริงๆ
คนดีบอกว่าตอนโทรไปจองโต๊ะ มีระบบอัตโนมัติแจ้งว่าให้ติดต่อเบอร์ใหม่ เห็นว่าเบอร์ก็คล้ายกันเลยไม่ได้ถามอะไร ทางร้านเองก็ไม่ได้บอกว่าย้ายไปที่ใหม่แล้ว ... เราเองได้แต่รำพึงว่า ปากหนักกันทั้งคนดี และทางร้าน เราเลยอด ... แล้วก็สะท้อนมาว่า ถ้าโทรจองเองคงได้กินแล้ว เพราะคงสงสัย และถามไปว่าทำไมถึงเปลี่ยนเบอร์ ... เฮ้อออออออออออออออออออออ จัดการเองอย่างที่เคยซะก็แล้ว
จนกลับถึงบ้านคนดี ก็ยังเศร้า แซด รำพึงเป็นระยะ ว่าอกหัก อกหัก อกหัก ... เศร้าจนน้ำตาหยดเลยค่ะ ร้องไห้กระอืด กระอือ อยู่พักนึง คนดีเสนอช็อคโกแลตของชอบมาให้ยังไม่นึกอยากกินเลย เส้า เศร้า ... คนดีทั้งสงสาร ทั้งขำ
ก็มันผิดหวังอย่างรุนแรงนี่นา ... คนดีบอกว่าไว้จะพาไปกินให้ได้นะ ขอผลัดไว้ก่อน ติดไว้ก่อน
อืมมมมมม ก็ได้ แต่ถ้าครั้งหน้าพลาดอีกนะ ... อาละวาดแน่ๆ ... เรื่องกินเรื่องใหญ่ แล้วเรื่องกินของอร่อยเนี่ย เรื่องใหญ่มากกกกก โดยเฉพาะของอร่อยที่ไม่ได้กินน้านนานเนี่ย จัดเป็นเรื่องใหญ่พิเศษสุดเลยค่ะ
6 ความคิดเห็น:
เรื่องกินเรื่องใหญ่จริง ๆ สำหรับสาวคนนี้ ทั้งสงสารและขำไปพร้อม ๆ กัน
big_birdy
อ่านเรื่องนี้แล้วไม่เก็ท ไม่เหมือนเคย
จำไม่ได้เท่าไหร่แล้ว เรื่องต้องดั้นด้น ไปกิน นู่น นี่ นั่น
ทำอาหารทานเอง ทุกมื้อ ทุกวัน มาเป็นเวลาหลายปี
เรื่องที่เคยสำคัญในชีวิตของคนเรา คนเดิมก็จริง พอสภาพแวดล้อมเปลี่ยน ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป ตอนนี้ กลายเป็น ฉันจะทำไอ่นี่ยังไงให้อร่อย ให้เหมือนที่เคยกินที่เมืองไทย ก็ทำได้ระดับหนึ่ง แต่ไม่เหมือนเพราะเครื่องปรุงไม่เหมือน
คิดถึงเมืองไทยทุกวัน ประเทศที่ไม่ต้องทำอาหารกินเอง
อยากกลับไปสภาพแวดล้อมนั้นเร็ว ๆ จัง
อ่านแล้วทั้งสงสาร ทั้งขำค่ะ
คือ ถ้าเป็นคุงตั๊กตอนนั้นคงน้ำตาร่วงได้เหมือนกัน เพราะเวลาอยากหม่ำอะไรแล้ว จัดการจองโน่นนี่นั่นแล้ว ยังพลาดเนี่ย เศร้ามาก
แต่ถ้ามองอย่างเป็นคนนอก ก็ขำค่ะ แบบว่า เออหนอ เป็นได้ขนาดนี้หนอ
ปล. เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งว่าจองเองก็ได้ แต่ไม่พิเศษค่ะ...เนอะ ^^
โห...นึกว่าอกหักไร
ตกใจหมดดดดดดดดดดดด นึกว่านกนอกใจ เฮ้อ
แล้วไป อย่าริทำให้ยัยตั๊กเสียใจนะยะ
กวาง
เอ่อ ถึงขั้นน้ำตาตกกันเลยทีเดียวหรือนี่
แล้วคุณตั๊กคิดดูสิค่ะว่า คนไกลบ้านอย่างเค้าเนี่ย
เวลาอยากกินอาหารเจ้าอร่อยที่คุ้นเคย
หรือจะเจ้าใหม่ ๆ ที่เพื่อนในบล็อกนำเสนอ
มันจะเศร้า+รันทดใจขนาดไหน
เข้าใจหัวอกคนไกลบ้านอย่างเค้าแล้วล่ะซี๊
Tar la la
เคยอกหัก เมื่อของที่หมายมั่นปั้นมือว่าอยากจะได้
กลับไม่ได้ อึ้ง ๆ เศร้า ๆ ไม่อยากคุยกับใคร
เจ็บที่ใจ รู้สึกหวิว ๆ ซึม ๆ
นี่แหละ ไม่เคยอกหักจากผู้ชายที่ไหน
แต่อกหักเพราะคาดหวังไว้มาก แล้วผิดหวังอย่างแรง
แต่ยังไม่เคยถึงกับน้ำตาตกเหมือนพี่ตั๊กนะ
อันนี้ก็ขำอ่ะ 5555
พี่นกเกือบตายไปแล้วสิ กร๊ากกกกก....
BeMuay
แสดงความคิดเห็น