18.1.53

พักร้อน ตะลอนภาคเหนือ : 3

ย้อนไปดูวันที่สอง ที่นี่ ค่ะ



... อรุณสวัสดิ์ สวัสดีจ้าดวงอาทิตย์ ...


เมื่อคืนได้เห็นดาวเต็มฟ้าบนดอยเสมอดาวแล้ว เช้าก็ต้องตื่นแต่มืดมาดู หมอก กับ ดวงอาทิตย์ ค่ะ ... หลังจากเจอเหตุการณ์เต้นท์ถล่มไปตอนตีสามกว่า ย้ายเครื่องนอนเข้าเต้นท์ใหม่แล้ว ก็หลับสลบไสลค่ะ ... กะว่าจะตื่นตอนตีห้ากว่า มาสะดุ้งตื่นตอนหกโมงนิดๆ ค่ะ


พอรูดซิปเต้นท์ก้าวออกไป ก็ปะทะกับลมแรงที่พัดเข้ามาจากทุกทิศทุกทาง หนาวมากกกกกกกกกกกกกกก ... ตั้งสติได้ ก็เดินงัวเงียขึ้นเนินไปจุดชมวิวค่ะ


ถึงจะไม่มีทะเลหมอกเต็มแน่นอย่างที่อยากเห็น ... แต่วิวที่อยู่ตรงหน้า ณ เวลานั้น ก็คุ้มค่าที่นั่งรถคดเคี้ยวขึ้นดอย คุ้มที่ออกมายืนโต้ลมหนาวแบบนี้


ซึมซับบรรยากาศ บันทึกลงในความทรงจำเรียบร้อย ก็ชวนกันลงมาเติมความอุ่นค่ะ ... ตั้งเตา ต้มน้ำร้อน ชงกาแฟ โอวัลติน และ โจ๊กกึ่งสำเร็จรูปค่ะ ... ท้องอิ่มแล้ว ก็ชวนกันแปลงร่าง ล้างหน้าแปรงฟัน งดอาบน้ำค่ะ เพราะน้ำเย็นเฉียบเกิน ถ้าอาบอาจจะช็อคได้ ... จัดการธุระส่วนตัวเรียบร้อย ก็ขึ้นรถเดินทางเข้าเมืองน่านค่ะ


ด้วยความที่งัวเงีย และใจจดจ่อกับเส้นทาง เลยลืมแวะไปดู ผาชู้ กับ เสาดินนาน้อย สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียงค่ะ ... ตรงดิ่งเข้าเมือง ก่อนจะถึงตัวเมืองก็จะเจอโรงแรมที่จองไว้สำหรับคืนนี้ค่ะ "ศศิดารา รีสอร์ท"


เข้าไปเช็คอิน แล้วเข้าห้องพัก อาบน้ำอุ่นให้สบายตัว เอนหลังเอาแรงสักหน่อย ... ห้องพักแบบสุพีเรีย ขนาดกะทัดรัด ราคา 1300 บาท รวมเตียงเสริมและอาหารเช้าค่ะ ... สิ่งอำนวยความสะดวกครบ เครื่องปรับอากาศ เครื่องทำน้ำอุ่น และมี wi-fi ให้ใช้ฟรี


พักพอสบายตัวแล้วก็ออกตะลุยเมืองค่ะ เพราะใกล้เที่ยง ท้องเริ่มหิว ... กางแผนที่ไปสุ่มเสี่ยงหาร้านอาหารกันต่อ หวังว่าวันนี้คงไม่ต้องแวะไปถามหาร้านอร่อยกับคุณตำรวจค่ะ


วนรถหาร้านอาหาร แต่ไปเจอะกับ "วัดมิ่งเมือง" เห็นป้ายบอกว่ามีศาลหลักเมืองอยู่ด้วย เลยวนเข้าไปสักการะสักหน่อย ... แต่พอวนรถเข้าไปก็ต้องร้องว้าวววววววววววววว


เพราะลายปูนปั้นที่ผนังพระอุโบสถ งดงามวิจิตรบรรจงมากค่ะ ... ศาลาจตุรมุขที่ประดิษฐานเสาหลักเมืองก็งดงาม ยอดเสาแกะสลักรูปพรหมพักตร์ สวยมาก


ชื่นชมกับความงามจนอิ่มใจแล้ว ก็ออกไปเติมท้องให้อิ่มค่ะ ร้านที่เลือกอยู่ไม่ไกลวัดค่ะ เดินไปนิดเดียวก็ถึง "ร้านเฮือนฮอม" ... เจอข้อมูลร้านนี้จากในเว็บ เลยลองแวะมาชิม


รสชาติอาหารส่วนใหญ่ ก็อยู่ในมาตรฐานที่ควรจะเป็น แต่นับว่ารสค่อนข้างอ่อนไปสำหรับมาตรฐานของเราค่ะ ... มีก๋วยเตี๋ยวลุยสวนที่เข้าท่าเข้าทาง เพราะน้ำจิ้มรสเด็ด ... แต่หมูสับทอดปลาเค็มนี่ไม่ผ่านเลยค่ะ คนดีที่เป็นคนสั่ง ชิมคำแรกถึงกับส่ายหัว ... ค่าเสียหายมื้อนี้อยู่ที่ 330 บาทค่ะ


อิ่มแบบไม่อร่อยเต็มที่ ก็มีแรงเที่ยวกันต่อค่ะ ... ขับรถไปอีกนิดก็ถึง "ข่วงเมือง" เป็นเหมือนลานอเนกประสงค์ที่ เหมือนอย่างสนามหลวงนี่หล่ะค่ะ ... ตรงนี้มีหลายจุดให้เที่ยวชมค่ะ เราเลยเอารถไปจอดไว้ตรงศูนย์บริการนักท่องเที่ยว เห็นว่ามี รถรางชมเมืองน่าน เลยแวะไปถามข้อมูลสักหน่อย


ปรากฎว่ารถรางมีรอบเย็น เลยชวนกันเดินสำรวจเดินเที่ยวใกล้ๆ ก่อนค่ะ ... เริ่มต้นที่ฝั่งตรงข้ามของศูนย์ "วัดภูมินทร์"


จุดเด่นของวัดนี้คือ พระอุโบสถทรงจตุรมุข ใจกลางพระอุโบสถประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัยขนาดใหญ่ 4 องค์ หันพระพักตร์ออกด้านประตูทั้ง 4 ทิศ ... ไม่ว่าจะขึ้นบันไดจากทิศใด ก็จะพบพระพักตร์พระพุทธรูปทุกด้าน


แล้วยังมีภาพจิตรกรรมฝาผนัง เล่าถึง ชาดก ตำนานพื้นบ้าน และความเป็นอยู่ของชาวน่านในอดีต ... ที่โด่งดัง ก็คือภาพ "ปู่ม่าน ย่าม่าน" ที่เป็นเหมือนภาพสัญลักษณ์ของ จ.น่าน ค่ะ


มาถึงน่านก็ต้องไปดูสัญลักษณ์อีกจุดของที่นี่ค่ะ นั่นก็คือ งาช้างดำ ที่อยู่ใน พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ น่าน ... แต่เดิมเรียกว่า "หอคำ" เป็นที่ประทับของเจ้าผู้ครองนครน่าน


น่าเสียดายที่กรมศิลปากรเพิ่งประกาศวันหยุดใหม่ ให้หยุดวันจันทร์-อังคาร แทนเสาร์-อาทิตย์ ... เราไปวันจันทร์พอดี เลยอดเข้าไปดู งาช้างดำ วัตถุมงคลคู่บ้านคู่เมืองน่าน สงสัยต้องกลับมาใหม่ค่ะ


ไม่ได้เข้าพิพิธภัณฑ์ ก็ข้ามถนนไปฝั่งตรงข้าม ไปที่ "วัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร" ... เป็นวัดหลวงที่เจ้าผู้ครองนครน่านใช้ประกอบพิธีสำคัญต่างๆ ทางพุทธศาสนา


ที่ฐานองค์พระเจดีย์ มีรูปปั้นช้างครึ่งตัว ด้านละ 5 เชือก และที่มุมทั้งสี่อีก 4 เชือก ดูคล้ายเอาหลังหนุน หรือค้ำ องค์เจดีย์ไว้


จริงๆ ในละแวกใกล้ๆ ยังมีอีกหลายวัดที่น่าสนใจนะคะ แต่แดดร้อนเหลือเกิน เดินชมแล้วเพลียแดดค่ะ ... เราเลยชวนกันไปขึ้นรถ มุ่งหน้าตรงไปวัดสำคัญประจำจังหวัดที่อยู่ห่างออกไปหน่อย "วัดพระธาตุแช่แห้ง"


เป็นพระธาตุประจำปีเถาะค่ะ ที่นี่ก็จะมีรูปกระต่ายอยู่ที่หน้าพระธาตุค่ะ มีทั้งที่เป็นรูปปั้น และเป็นตุ๊กตาที่มีคนเอามาบูชาค่ะ


บ่ายสามแล้ว ทั้งเหนื่อยและเพลียแดดที่แรงเหลือเกิน ถึงจะมีลมเย็นๆ พัดมาเรื่อยๆ แต่แดดก็แรงจัด ... เลยชวนกันไปหาที่นั่งพัก หาเครื่องดื่มเย็นๆ วนกลับไปที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวอีกค่ะ ที่นี่มีทั้งศูนย์ข้อมูล และมีร้านกาแฟ ... ไปนั่งจิบเครื่องดื่มเย็นๆ หาข้อมูลเที่ยวเพิ่ม และจองที่พักของคืนต่อๆ ไป รวมถึงจองที่พักของทริปหัวหิน ตอนเดือนมีนาด้วยเลย ... ปักหลักยาว รอเวลานั่งรถรางชมเมืองน่านค่ะ


16.30 น. ได้เวลาขึ้นรถชมเมืองค่ะ ค่าบริการคนละ 30 บาท วันนั้นมีกันอยู่ 7 คน เจ้าหน้าที่ก็พาลัดเลาะไปชมรอบเมือง ... มีพี่ไกด์ใจดีที่คอยให้ข้อมูลต่างๆ แดดร่มลมตก บรรยากาศดี นั่งวนไปชมชีวิตความเป็นอยู่ที่สงบ สบายของคนน่าน เห็นแล้วชื่นตาชื่นใจค่ะ ... ใครที่แวะเที่ยวน่าน แนะนำให้มานั่งรถรางชมเมืองค่ะ


วนจนทั่วเมือง ใช้เวลาราวๆ 45-50 นาที ก็กลับมาส่งที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเหมือนเดิมค่ะ ... พี่ไกด์แนะนำว่าตอนค่ำให้กลับมาดูไฟตรงข่วงเมืองอีกครั้ง เพราะวัดภูมินทร์ กับ วัดช้างค้ำ จะเปิดไฟสวยงาม ให้บรรยากาศที่ต่างจากตอนกลางวันค่ะ


เราเลยชวนกันไปหม่ำมื้อเย็นกันก่อน ตอนแรกจะเลือกร้านที่มีป้ายแนะนำอยู่ตรงศูนย์ข้อมูลฯ แต่เจ้าหน้าที่แนะนำอีกร้านนึงมาให้ ... คนแนะนำยืนยันหนักแน่นให้ไปลอง เราก็ตามไปลองค่ะ


"ร้านกอร์เม่ต์" อยู่ติดริมแม่น้ำน่านค่ะ ติดแบบมีทางเดินริมน้ำคั่นไว้นิดนึงนะคะ แต่ก็นับว่าบรรยากาศดีค่ะ ... ดูอบอุ่น เหมือนมานั่งกินข้าวบ้านเพื่อน บรรยากาศผ่าน ต้องดูรสชาติอาหารกันต่อค่ะ


อาหารส่วนใหญ่รสชาติใช้ได้ค่ะ ยำก็จัดจ้าน ทานได้เพลินๆ ค่ะ ... เราไปนั่งเป็นโต๊ะแรกๆ ดูไม่ค่อยมั่นใจว่าจะรสชาติดีจริงรึเปล่า แต่พอค่ำลงก็มีลูกค้าเพิ่มมาเรื่อยๆ ค่อยยังชั่ว ... อิ่มแล้วก็ชำระค่าเสียหาย จ่ายไปที่ 620 บาท ค่ะ


ชวนกันวนกลับมาตรงข่วงเมือง มาชมวัด ชมไฟตอนค่ำค่ะ ... สวยแปลกตา ได้อีกบรรยากาศจริงๆ ค่ะ อิ่มอกอิ่มใจ กลับเข้าที่พักไปชาร์จแบตไว้สำหรับวันรุ่งขึ้นได้แล้วค่ะ


ติดตามวันที่สี่ ที่นี่ค่ะ

3 ความคิดเห็น:

l0veisl0ve กล่าวว่า...

เป็นทริปที่น่าสนใจมากเลยค่ะ

เลยได้เก็บข้อมูลไว้เจริญรอยตามบ้าง

ปล. ถ้าผึ้งไปด้วยต้องชอบแน่ๆ เพราะทริปนี้อาบน้ำกันน้อยดีค่ะ ^^

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

- รูปแรกสวยมากเลยคะ
- เอิ่ม เอิ่ม ทรงผมคุณนกตอนตื่นนอนเนี่ย เซ็ตมาอย่างดี
หรือว่าหนาวจนมันตั้งอ่ะค๊า ^ ^

Tar la la

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

คุณต้าร์..มันหนาวจนหัวตั้ง 555

งานนี้สำหรับที่นี่น่าจะต้องกลับไปเก็บอีกรอบหล่ะ ยังไม่จุใจเท่าไหร่

big_birdy

แสดงความคิดเห็น