ย้อนไปดูวันที่หกได้ ที่นี่ค่ะ
เริ่มต้นวันใหม่บนดอยตุง ด้วยข้าวต้มอุ่นๆ สักชามก็เข้าทีดีนะคะ ... อาหารเช้าที่ครัวตำหนักมีให้เลือกว่าจะเป็น อเมริกันเบรคฟาสท์ หรือ ข้าวต้ม ค่ะ ซึ่งข้าวต้มก็มีให้เลือกทั้ง หมู ไก่ ปลา ... ที่เห็นในชามนี้เป็นข้าวต้มหมูค่ะ
จัดการข้าวต้ม ชาร้อน และน้ำส้มหมดนะคะ แต่เกรงว่าข้าวต้มจะไม่อยู่ท้อง เลยแวะซื้อ แมคคาเดีย นัท ครีม สลัช อีกแก้วค่ะ ... แก้วนี้ปลอดกาแฟ กินแล้วอิ่มทน อิ่มนานแน่ๆ ค่ะ
ตุนเสบียงลงท้อง และตุนเสบียงระหว่างทางเรียบร้อย ก็ออกตะลอนกันต่อค่ะ ... เพราะเห็นป้ายแนะนำว่ามี กุหลาบพันปี ที่สวนรุกขชาติแม่ฟ้าหลวง เลยอยากรู้ว่าเป็นยังไง อยากรู้ก็ต้องไปดูค่ะ
ไปตามป้ายบอกทาง แต่ไปเจอทางขึ้น พระธาตุดอยตุง ก่อน เลยแวะไปไหว้พระธาตุก่อนดีกว่าค่ะ ... ทางขึ้นค่อนข้างชันและแคบ คนดีเลยจอดรถไว้ตรงลานด้านล่าง แล้วเดินขึ้นบันไดไปต่อ
เพราะต้องขึ้นบันไดยาว คุณพิไลเลยขอตัวรออยู่ข้างล่าง ปล่อยเรากับคนดีตะกลายบันไดขึ้นไปด้วยกัน ... บันไดร้อยกว่าขั้น เหนื่อยพอควรค่ะ ขึ้นไปถึงแล้วก็เดินตีระฆังที่เรียงเป็นแนวยาวเข้าไปด้านใน แล้วก็เข้าไปไหว้พระธาตุต่ะ
รีบไหว้ รีบถ่ายรูป และรีบลงบันไดกลับค่ะ เพราะกลัวคุณพิไลรอนาน ... ลงมาแล้วก็ขับรถไปอีกสักนิดก็ถึง สวนรุกขชาติแม่ฟ้าหลวง
เดินเข้าไปด้านในก็มองหา ดอกกุหลาบพันปี เป็นอันดับแรกค่ะ ปรากฎว่าหน้าตาไม่ยักกะเหมือนดอกกุหลาบที่คุ้นเคย และมีหลายพันธุ์ หลายสีค่ะ ... ที่นี่มีดอกไม้ ต้นไม้ หลากหลายชนิด คล้ายกับที่สวนแม่ฟ้าหลวงนะคะ แต่ดูว่าพันธุ์ไม้จะต่างชนิดกันพอสมควร และนักท่องเที่ยวไม่ค่อยเยอะค่ะ
เดินวนกันจนเริ่มเหนื่อย แต่ก็ยังไม่ทั่วทุกมุม แดดเริ่มแรง เลยชวนกันเคลื่อนขบวนดีกว่า ... ขึ้นรถ แล้วลงจากเขา มุ่งหน้าไปจุดหมายต่อไป มองหาร้านอาาหารระหว่างทางว่าจะกินที่ร้านไหนดี หมายตาร้านอาหารที่มีในหนังสือไกด์บุ๊ค แต่ว่าหาไม่เจอค่ะ เลยใช้ทฤษฏีส่วนตัวเลือกจากร้านที่มีรถจอดเยอะๆ สักหน่อย
ก๋วยเตี๋ยวลำดวน ... มีทั้งก๋วยเตี๋ยวเนื้อ ก๋วยเตี๋ยวหมู ส้มตำ ขนมจีบ ซาลาเปา แต่เราเลือกก๋วยเตี๋ยวน้ำตากกันคนละชามค่ะ เพราะเบื่ออาหารเหนือ และอยากกินก๋วยเตี๋ยว ซดน้ำซุปร้อนๆ ง่ายๆ เบาท้องค่ะ
รสชาติก๋วยเตี๋ยวร้านนี้หวานโดดค่ะ แล้วยังหวานทน หวานนาน เพราะแม้จะปรุงรสอื่นเพิ่ม และกินไปครึ่งชามแล้ว ก็ยังหวานอยู่จนต้องปรุงอีกรอบ ... รสชาติไม่ค่อยถูกปากพวกเราเท่าไหร่ แต่เป็นร้านที่มีลูกค้าเข้าเรื่อยๆ นะคะ ... อิ่มแบบไม่ปลื้มมื้อนี้อยู่ที่ 75 บาท ค่ะ อิ่มแล้วก็ตะลุยเดินทางกันต่อ
อีกหนึ่งจุดหมายของเชียงรายที่อยากมาก็คือ วัดร่องขุ่น ค่ะ อยากมาชมว่างามแค่ไหน ... แล้วพอมาถึงได้เห็นกับตา ก็ไม่ผิดหวังค่า วัดอยู่ห่างจากถนนพหลโยธินเข้าไปในซอยนิดเดียวเท่านั้น จากริมถนนก็มองเห็นได้ง่ายค่ะ ไปวันธรรมดาแต่ก็มีนักท่องเที่ยวพอสมควรนะคะ
ปูนปั้นที่นี่วิจิตรบรรจงมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก แล้วเป็นสีขาวสะอาดสบายตา มองเพลิน ... แม้กระทั่งปลาในบ่อก็ยังมีแต่ปลาสีขาวค่ะ ... ด้านในพระอุโบสถกำลังมีการวาดลวยลายจิตรกรรมฝาผนัง ด้านที่เสร็จแล้วก็งดงาม ถ้าอยากเห็นต้องไปดูด้วยตาตัวเองค่ะ เพราะงดถ่ายรูปด้านในค่ะ
ห้องน้ำที่นี่ก็ขึ้นชื่อว่าสวยมาก แต่ตอนที่ไปกำลังปิดปรับปรุง เลยอดชมว่าข้างในจะสวยงามขนาดไหน ... ส่วนที่เห็นแล้วชอบใจ ก็ป้ายห้ามคนเมาสุราเข้าวัดค่ะ สวย เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนที่ไหนๆ ... เดินชมวัดเสร็จแล้วก็แวะไปดูร้านจำหน่ายภาพพิมพ์ผลงานของ อ.เฉลิมชัยค่ะ ด้านในงดถ่ายภาพ แต่มีภาพพิมพ์ผลงานของอ.ให้เลือกซื้อได้ตามชอบ ได้ภาพสวยและได้ช่วยกันสร้างวัดค่ะ ... ตรงด้านหน้าร้านมีแท่น และตราประทับวางอยู่ สงสัยเลยเดินเข้าไปดู เห็นว่ามีโปสการ์ดที่ระลึกจากทางวัดให้หยิบได้ฟรีค่ะ หรือจะช่วยหยอดบริจาคตามศรัทธาก็ได้ค่ะ หยิบการ์ดแล้วก็ประทับตราของทางวัดเป็นที่ระลึกมาได้ด้วย
ก่อนจะเดินกลับออกจากวัด ก็เจอตู้กระจกใบใหญ่ของแน่นนนนนนนนนนนนนน ... ตู้ Lost & Found รวบรวมบรรดาของที่นักท่องเที่ยว ญาติโยมทั้งหลายมาลืมไว้ที่วัดค่ะ มีของสารพัดค่ะ เสื้อ หมวก ร่ม กล้องถ่ายรูป โทรศัพท์มือถือ ขวดนม รีเทนเนอร์จัดฟัน และอีกสารพัดค่ะ ... เห็นแล้วสงสัยว่าจะต้องขยายตู้เพิ่มอีกใบรึเปล่าค่ะ
ก่อนจะออกเดินทางกันต่อ ก็แวะซื้อของฝากตรงร้านค้าหน้าวัดสักหน่อย ... ถ้าใครแวะมาเที่ยวที่นี่ อย่าพลาดชิม ไอติมพรสวรรค์นะคะ เป็นไอติมกะทิรสชาติเข้มข้นค่ะ อร๊อย อร่อย
ใช้เวลาเพลินไปหน่อย ขึ้นรถได้คนดีก็เหยียบยาวววววววววว ค่ะ ผ่านทางพะเยา-ลำปาง เพราะคืนนี้เราจะไปพักรถ ค้างกันที่ตากค่ะ ... ผ่านแค่ 2 จังหวัด แต่ถนนช่วงลำปางยาวมาก จนได้ชมวิวอาทิคย์ตกบนถนนค่ะ หลังจากดูอาทิตย์ดวงโต ลับเหลี่ยมเขามาหลายวัน วันนี้ก็ดูแบบลับยอดไม้ ไหล่ถนนบ้าง ได้บรรยากาศอีกแบบค่ะ
คนดีเหยียบยิงยาวแบบไม่หยุดแวะเที่ยวตรงไหนอีก นอกจากหยุดพักรถ แวะเข้าห้องน้ำ แค่ครั้งเดียว ยังใช้เวลาจากเชียงราย ถึงตาก ราวๆ 5 ชั่วโมงค่ะ ... สงสารคุณพิไลที่ต้องนั่งรถซะเหนื่อย
กว่าจะถึง โรงแรมสวนสิน ที่จองไว้ก็ราวๆ 2 ทุ่ม ... หอบของชึ้นห้องพักแบบ 3 เตียง มีแอร์ ตู้เย็น ทีวี เครื่องทำน้ำอุ่นพร้อมค่ะ สะดวกสบายในราคา 470 บาทเท่านั้นค่ะ ... สภาพอาจจะไม่ได้หรูหรามากนัก แต่ก็นอนพักได้สบายค่ะ
คุณพิไลเหนื่อย เพลีย และไม่ค่อยสบายท้อง เลยงดข้าวเย็น ขอพักเลย ... แต่เราหิวค่ะ เห็นด้านหน้าโรงแรมมีร้านอาหาร หน้าตาเข้าที แล้วสามารถโทรสั่งมาที่ห้องได้ด้วย เลยใช้บริการซะเลย ข้าวราดกะเพราหมูสับไข่ดาว ยำวุ้นเส้น เป๊บซี่ น้ำแข็ง 170 ถ้วนค่ะ
ท้องอิ่ม นั่งพักให้สบายตัว ก่อนจะอาบน้ำ เข้านอน ชารจ์พลังเตรียมเดินทางกลับวันพรุ่งนี้ค่ะ ... วันนี้เที่ยวน้อย นั่งรถเยอะ เลยต้องการพักยาววววค่า
โปรดรอติดตามวันสุดท้าย
2 ความคิดเห็น:
รูปที่สี่นั่น..
อะไรเอ่ย ไม่เข้าพวก .. ติ๊กต่อก ติ๊กต่อก
เคยไปวัดร่องขุน แล้วโชคดี เจออาจารย์เฉลิมชัยด้วยคะ
เลยมีโอกาสถ่ายรูปกะตัวเป็น ๆ ^ ^
คุณต้า นั่นหน่ะเข้าพวกที่สุดแล้วหล่ะ เป็นคนเข้ากับธรรมชาติได้อย่างกลมกลืนมาก ๆ เลยนะนั่น 555
big_birdy
แสดงความคิดเห็น