หลังจากสวดพระอภิธรรมศพ และบรรจุศพคุณลุงเขยไว้ 100 วันเพื่อรอพระราชทานเพลิงศพ ... 100 วันผ่านไปอย่างรวดเร็ว ครบกำหนดแล้วค่ะ
บ่ายวันศุกร์มีพิธีเคลื่อนศพจากที่บรรจุ มาสวดพระอภิธรรมวันสุดท้าย ... เราลางานครึ่งวันกลับมารับหม่ามี้ที่บ้านแล้วออกไปวัดพร้อมกัน ส่วนคนดีเสร็จจากธุระก็ตามไปเจอที่งาน ... ฟังสวดเสร็จเรียบร้อยก็ขอตัวตามไปสมทบกับก๊วนแดนซ์
เช้าวันเสาร์หม่ามี้ พ่อ และเจ้าน้องชายออกไปงานแต่เช้า เพราะเจ้าน้องชายจะบวชหน้าไฟให้คุณลุง ... ต่อด้วยเลี้ยงเพล และทำบุญ ... ตอนบ่ายเป็นงานพระราชทานเพลิงศพ
เรากับคนดีตามไปสมทบตอนบ่าย อากาศร้อนอบอ้าว แดดเปรี้ยง ... คนดีใส่เสื้อแขนยาวสีดำกับกางเกงยีนส์ พอมาเจอคุณเจ้าหน้าที่จากสำนักพระราชวังเตรียมงานอยู่ ก็ตกใจว่างานเป็นทางการมาก ... ส่วนเราใส่เดรสสีดำ แขนสี่ส่วน ชายกระโปรงคลุมเข่า พร้อมถุงน่องสีดำ และ รองเท้าส้นสูง เรียบร้อยสุดๆ ทั้งร้อนและเมื่อย
คนดีไม่ค่อยสบาย และไม่ได้เป็นญาติ เลยนั่งหลบอยู่มุมนึงคอยดูกระเป๋าให้เรา ... ส่วนเราคอยยืนสังเกตการณ์ว่าจะให้ช่วยทำอะไรบ้าง สุดท้ายได้รับมอบหมายหน้าที่แจกของที่ระลึก
งานเริ่มราวๆ บ่ายสองโมง เจ้าหน้าที่จากสำนักพระราชวังมาจัดขบวนเคลื่อนโกศ และเวียนรอบเมรุ ... มีเจ้าหน้าที่บรรเลงเพลง จากนั้นก็ตั้งแถวรอรับไฟพระราชทาน
คุณลุงรับราชการทหาร เลยมีแขกผู้ใหญ่ทั้งนักการเมือง และนายทหารระดับสูงมางานหลายท่าน เป็นการให้เกียรติและไว้อาลัย ... เห็นแล้วก็รู้สึกว่า งานศพ เป็นงานสุดท้ายที่เราจะไปรวมแสดงความไว้อาลัยให้คนคนนั้นจริงๆ
พอถึงเวลาตามกำหนด แขกก็เริ่มวางดอกไม้จันทร์ และพระราชทานเพลิงศพ ... หม่ามี้ร้องไห้ น้ำตาท่วมอีกแล้ว เพราะครั้งนี้ต้องลากันจริงๆ
ไม่ชอบไปงานศพเลยค่ะ โดยเฉพาะวันเผา เพราะเป็นวันสุดท้ายจริงๆ ร่างที่เคยมีจะกลายเป็นเถ้าธุลี เศร้าค่ะ ... เสียงปี่ที่บรรเลง ภาพควันที่ลอยจากปล่องเมรุ เฮ้อ เห็นแล้วใจเหี่ยวค่ะ
ขอให้คุณลุงไปสู่สุขคตินะคะ ... ลาก่อนค่ะ