23.9.52

ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ก็สุขได้ด้วยการให้ 108 วิธี

อ่านเจอหัวข้อนี้จากเว็บผู้จัดการ http://manager.co.th/ นานแล้วค่ะ อ่านแล้วชอบใจ เก็บเป็น favorites เอาไว้ ... เลยคิดว่าเอามาเก็บลงบล็อกไว้เลยแล้วกัน



ไม่พูดพล่ามทำเพลงแล้วนะคะ 108 วิธีก็ยาวแล้ว ไปดูกันเลยดีกว่าค่ะ ว่ามีวิธีการอะไรที่ทำให้ตัวเอง และคนอื่นมีความสุข ... เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่ช่วยทำให้โลกน่าอยู่ขึ้นค่า



มองและยิ้ม

1. มองทุกคนที่พบกันด้วยสายตาที่เป็นมิตร อย่าคิดว่าคนอื่นจะประสงค์ร้ายต่อเราทั้งหมด แต่ต้องระวังคนหลอกลวงไว้บ้าง

2. ยิ้มให้ทุกคนที่พบกัน ยิ้มด้วยสายตา ยิ้มด้วยใบหน้า ยิ้มด้วยจิตใจ ... อย่าทำหน้าบึ้งหน้างอ ถ้าวันไหนอารมณ์ไม่ดี ลองมองดหน้าตนเองในกระจกเงาบ้าง

3. ทำความรู้จักกับคนที่ไม่รู้จัก โดยพยายามยิ้มให้และกล่าวคำทักทาย

4. โบกมือส่งยิ้มให้เด็กๆ ในรถนักเรียนที่แล่นผ่านไป ยิ้มให้เด็กๆ ในรถข้างๆ หรือเด็กที่มองตาของท่านผ่านกระจกหลังของรถคันหน้าที่ติดไฟแดง

5. มองคนในแง่ดี มองคนในแง่บวก พิจารณาว่า เขาทำอะไรด้วยความหวังดีอย่างไรบ้าง ... อย่ามองคนในแง่ร้าย หรือมองในแง่ลบ อย่าเพิ่งคิดว่าเขาจะทำความชั่ว ความเลวเสียทั้งหมด น่าจะมีความดีอยู่บ้าง หรือเขาอาจทำไปเพราะความไม่รู้ ไม่เข้าใจ หรือ เข้าใจผิดก็ได้

6. มองว่าคนเราสามารถเป็นมิตรกันได้ แม้ว่าจะมีความคิดเห็นต่างกัน หรือมีความเชื่อต่างกัน ... มองว่าการกระทำบางอย่างอาจทำได้หลายวิธี ไม่จำเป็นว่ามีวิธีหนึ่งที่ถูกต้องแล้ว อีกวิธีหนึ่งจะผิด



ทักทาย

7. ทักทายกับคนอื่นเมื่อได้พบกัน ด้วยการกล่าวคำสวัสดี ยกมือไหว้ ยิ้ม หรือก้มหัว ตามความเหมาะสม ... พยายามเรียกชื่อของเขา เพราะทุกคนมีความภูมิใจในชื่อของตน ระวังอย่าเรียกชื่อผิดคน

8. สนทนาทักทายกับเพื่อนร่วมงาน ถามไถ่ทุกข์สุข คุยเรื่องที่เขาสนใจ อย่านั่งใกล้กับใครโดยไม่พูดกัน



ฟัง

9. ตั้งใจฟังคนอื่นพูด ให้เวลาเขาพูด อย่าเพิ่งขัดคอ ขัดใจ อย่าพูดสอดแทรกขัดจังหวะ อย่าทักท้วงให้เขาเสียหน้าต่อคนหมู่มาก

10. รับฟังสิ่งที่เขากำลังทำ หรือที่เขากำลังสนใจ แล้วหาทางสนับสนุนสิ่งที่ดี ... รับฟังความทุกข์ของเขาแล้วหาทางช่วยแก้ปัญหา บรรเทาความทุกข์ รับฟังความสำเร็จและความสุขของเขา แล้วร่วมยินดีด้วย



พูด

11. ใช้คำพูด 4 คำให้ติดปาก คือ ขอบคุณ ขอโทษ ดี ช่วย ... กล่าวขอบคุณเมื่อมีใครทำดีต่อตน ขอโทษเมื่อทำให้ผู้อื่นไม่พอใจ ดีเมื่อผู้อื่นทำความดี และ ช่วยเมื่อต้องการให้ผู้อื่นช่วยเหลือ

12. พูดด้วยคำสุภาพ ไพเราะ อ่อนหวาน มีคำลงท้าย ครับ/ค่ะ ตามความเหมาะสม ... ไม่ใช้คำหยาบคาย ดุด่า เสียดสี ขู่ตะคอก หรือพูดเหน็บแนม อย่าจี้จุดอ่อนให้ช้ำใจ หาเรื่องที่สนุกสนาน ตลกขบขันมาเล่าสู่กันฟังบ้าง ถ้าพูดตลกไม่เป็นให้พยายามจดจำมุขตลกที่คนอื่นเล่าแล้วนำไปเล่าต่อ

13. พูดชมเชยบุคคลอื่นเป็นประจำ เพื่อสร้างกำลังใจ อย่าเอาแต่ตำหนิต่อว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อบุตร ภรรยา สามี และผู้ใต้บังคับบัญชา เช่น ชมว่ามีความพยายามสูงมาก ทำงานได้ดี เอาใจใส่บ้านดี ทำงานรอบคอบดี อย่าพูดแต่เรื่องของตนฝ่ายเดียว เพราะคู่สนทนาจะเบื่อหน่าย

14. พูดถึงคนอื่น และหัวหน้าผู้บังคับบัญชาในด้านดีกับคนที่เขารู้จัก อย่านินทาว่าร้ายผู้บังคับบัญชากับผู้อื่น เพราะอาจจะมีคนเก็บไปรายงานให้ท่านฟังภายหลัง

15. รู้จักขัดแย้งโดยไม่ให้เขาเสียน้ำใจ โดยใช้เทคนิค "ใช่...แต่..." เช่น "ที่คุณว่ามานั้นก็ถูกต้อง แต่อาจจะมีอีกวิธีหนึ่ง..." หรือ "ที่คุณคิดนั้นก็ใช่ แต่คนอื่นเขาอาจคิดอีกอย่างหนึ่งก็ได้กระมัง" หรือ "ของบางอย่างอาจจะมิใช่สีดำหรือสีขาว แต่อาจเป็นสีเทาที่จะว่าขาวก็ได้ ดำได้" หรือ "วิธีที่ถูกต้องอาจมีมากกว่าหนึ่งวิธีก็ได้"

16. พูดคุยกับคนที่ขาดเพื่อน คุยกับคนที่เข้ากับคนอื่นไม่ได้ เพราะเขาเป็นคนที่น่าสงสาร และต้องการความช่วยเหลือ

17. พูดด้วยเสียงดังพอสมควร ไม่พูดแผ่วเบา หรือ ตะโกนให้ดังเกินไป การพูดด้วยการขึ้นเสียง ก่อให้เกิดความโมโห และนำไปสู่การทะเลาะวิวาท

18. พูดคุยในสิ่งที่เขาสนใจ สิ่งที่เขามีความเชี่ยวชาญ หัวข้อข่าวที่เขาสนใจ ระวังไม่คุยคุ้ยเขี่ยสิ่งที่เขาอับอาย หรือต้องการปกปิดไม่ให้ใครรู้

19. หาข่าวเรื่องดีๆ หรือ เรื่องคนที่กระทำความดีมาคุยกันบ้าง เพื่อให้จิตใจเบิกบานอย่าคุยแต่ข่าวร้าย ข่าวลือ หลอกลวง หรือข่าวที่ทำให้จิตใจเศร้าหมอง

20. ไม่พูดหาเรื่องจับผิดคนอื่น ถ้าจะพูดถึงความดีของตนก็ว่าไป แต่ไม่ควรนินทาว่าร้ายคนอื่น หรือคุยว่าคนอื่นสู้ตนเองไม่ได้

21. หาทางพูดคุยกับคนที่ไม่เคยรู้จัก โดยการแนะนำตัวเอง หรือ หาผู้อื่นแนะนำ

22. โทรศัพท์หรือเขียนจดหมายไปหาเพื่อน หรือคนรู้จักที่ไม่ได้ติดต่อกันนานเกินหนึ่งปี รวมทั้งเมื่อได้รับข่าวที่น่ายินดี หรือ ข่าวที่น่าเสียใจ

23. ละเว้นการพูดคำที่ไม่ดี และไม่โกรธ โมโห อย่างน้อยหนึ่งวันต่อสัปดาห์

24. เขียนจดหมาย หรือไปเยี่ยมคนที่กำลังกลุ้มใจเสียใจ หรือประสบปัญหาชีวิต

25. เขียนจดหมาย หรือส่งบัตรแสดงความขอบคุณผู้ที่มีน้ำใจไมตรี ผู้ที่ทำคุณกับเรา

26. เขียนจดหมาย หรือส่งบัตรแสดงความยินดีในวันคล้ายวันเกิด หรือเมื่อมีคนที่รู้จักได้ข่าวดี เช่นได้เลื่อนตำแหน่ง ได้รับการยกย่อง ได้รางวัล

27. เขียนจดหมาย หรือส่งบัตรแสดงความเสียใจ เมื่อคนรู้จักได้รับความเสียใจ เช่น เมื่อเจ็บป่วย หรือญาติมิตรเสียชีวิต

28. เขียนคำชมเชยหรือมอบรางวัลแก่คนที่ให้บริการดีเป็นพิเศษ พนักงานบริการ แม่ครัว หรือยาม โดยส่งผ่านไปทางผู้จัดการ เพื่อเขาจะได้นำไปประกาศชมเชยหรือให้รางวัลต่อ

29. เขียนจดหมายชมเชยการกระทำความดีเป็นพิเศษที่ได้พบเห็นในที่สาธารณะ ผ่านทางหนังสือพิมพ์ เพื่อเป็นตัวอย่างของบุคคลอื่น แล้วส่งไปลงข่าวหนังสือพิมพ์หรือวิทยุ เช่นวิทยุร่วมด้วยช่วยกัน หรือ จส.100

30. เขียนป้ายเตือนอันตรายติดไว้ในที่เหมาะสม เพื่อมิให้ผู้อื่นเป็นอันตราย เช่น ระวังพื้นลื่น ระวังผึ้งต่อย ระวังหมาดุ ระวังไฟดูด

31. ดูชื่อเพื่อนเก่าในหนังสือรุ่น หรือรูปญาติในรูปเก่าๆ แล้วเขียนจดหมาย ต่อโทรศัพท์ถึง หรือส่งบัตรอวยพรปีใหม่



ปิด

32. ปิดเสียงโทรศัพท์มือถือ ขณะที่ไม่ควรพูดโทรศัพท์ เช่น อยู่ในห้องประชุม รับแขก อยู่กับผู้ใหญ่ อยู่ในพิธีการ หรืองานศพ

33. ปิดหรือหรี่เสียงดังจากวิทยุ โทรทัศน์ ที่อาจไปรบกวนเพื่อนบ้านข้างเคียง เขาอาจไม่ชอบเพลงชนิดที่เราชอบฟังก็ได้



ทำ

34. เลื่อนจานอาหารไปให้คนอื่นที่เอื้อมไม่ถึง โดยไม่ต้องรอให้เขาขอร้อง

35. หาทางปลอบใจคนที่กำลังมีความทุกข์ เช่น มีคนในครอบครัวเสียชีวิต

36. ทำความประหลาดใจให้แก่บางคน ด้วยการใช้ความพยายามเป็นพิเศษในการหาสิ่งของที่เขาต้องการมาก แต่เขาไม่สามารถหาได้ด้วยวิธีปกติธรรมดา แล้วจัดส่งไปให้ เช่นผลไม้นอกฤดูกาล ของที่ต้องการอย่างรีบด่วน ของที่ต้องสั่งทำพิเศษ หรือของที่หายากไม่มีจำหน่ายในท้องตลาด

37. พยายามทำให้ศัตรูกลายเป็นมิตร ด้วยการให้ของขวัญ การพูดคุย การเป็นเพื่อน การเห็นอกเห็นใจ การไม่เอาเปรียบ และการยอมลดราวาศอกกันบ้าง

38. ทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด ทำให้ผู้รับบริการเกิดความพอใจด้วยความเต็มใจ

39. ทำความประทับใจด้วยบริการที่เป็นพิเศษกว่าธรรมดา



ช่วยเหลือคนที่รู้จัก

40. สร้างความสัมพันธ์ในครอบครัว เล่นกับลูก ช่วยน้อง หรือลูกทำการบ้าน ... พยายามลดงานประจำในวันหยุด เพื่อจะได้มีเวลาสำหรับสร้างความอบอุ่นในครอบครัว พาลูกหลานครอบครัวไปเที่ยวด้วยกันอย่างน้อยปีละครั้ง

41. ช่วยรับคนที่รู้จักกันขึ้นรถเมื่อจะไปทางเดียวกัน หรือจะกลับทางเดียวกัน ชวนคนข้างบ้านที่ไม่มีรถ นั่งรถไปซื้อของที่ตลาดพร้อมกัน

42. ทักทาย แนะนำตัวทำความรู้จักกับเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะผู้ที่ย้ายมาใหม่ เช่นแนะนำเรื่องรถขยะ เรื่องการเก็บค่าไฟฟ้า ประปา

43. ส่งอาหารหรือผลไม้ไปให้เพื่อนบ้านเป็นครั้งคราว

44. ให้คนสวนกวาดใบไม้หน้าบ้านของเพื่อนบ้านด้วย

45. ชวนเพื่อนบ้านและลูกของเพื่อนบ้านไปเที่ยวด้วยกันในวันหยุด

46. รับฝากดูแลเด็กเล็กข้างบ้าน เมื่อพ่อแม่ของเด็กไม่อยู่ ชวนลูกเพื่อนบ้านที่พ่อแม่กลับบ้านดึกมาดูแลก่อนพ่อแม่กลับ ชวนมาเล่นที่บ้าน เล่านิทาน ให้อ่านหนังสือการ์ตู ทำการบ้าน (แจ้งพ่อแม่เด็กให้ทราบก่อนเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด)

47. ให้ความสนใจกลุ่มเยาวชนในหมู่บ้าน ถ้าขาดกิจกรรมที่เล่นที่พักผ่อน ควรรวมกลุ่มเพื่อนบ้านหารือกันช่วยเหลือ หรือ ติดต่อกลุ่มที่สามารถช่วยได้

48. ไปเยี่ยมคนแก่ที่อยู่ใกล้บ้านเดือนละครั้ง

49. จ่ายเงินค่าอาหารหรือเครื่องดื่มให้เพื่อนร่วมงานเป็นครั้งคราว อย่าให้เขาเลี้ยงฝ่ายเดียว

50. ช่วยคนขาดแคลน ถ้ารู้ว่าคนรู้จักคนหนึ่งขาดแคลนเงินมาก ลองใส่ธนบัตรใบละร้อย หรือ ห้าร้อยส่งไปให้เขาโดยไม่ต้องบอกว่าส่งมาจากใคร

51. ตัดหนังสือพิมพ์ส่งไปให้คนรู้จัก เพราะว่ามีข่าวของเขาหรือมีเรื่องที่เขาน่าจะสนใจ

52. ส่งอาหารเครื่องดื่ม หรือขนมไปให้เจ้าหน้าที่บริการประชาชน เช่น ตำรวจสายตรวจ พนักงานดับเพลิง บุรุษไปรษณีย์ ยาม พนักงานเก็บขยะ

53. ซื้อตั๋วดูภาพยนตร์ / ดนตรี / กีฬา หรือหนังสือการ์ตูนให้เด็กข้างบ้าน

54. เมื่อเห็นว่าของบางอย่างเหมาะสมสำหรับบางคนที่รู้จัก ควรซื้อหรือหาไปฝากเขา

55. ส่งหนังสือ วารสารที่อ่านแล้วไปให้คนที่เราคิดว่าเขาต้องการ หรือ บริจาคให้ห้องสมุด

56. จ่ายเงินค่าสมัครสมาชิกวารสารที่เหมาะสมส่งไปให้โรงเรียนเก่า

57. หาของฝากหรือของขวัญปีใหม่ไปให้คนที่ติดต่อประจำ เช่น แม่ค้าขายผลไม้ แม่ครัวร้านอาหาร ช่างตัดผม

58. หาของขวัญของฝากให้ลูกน้องหรือเพื่อนร่วมงาน เช่น บัตรทานอาหารฟรี บัตรลดราคา บัตรเติมน้ำมันฟรี บัตรดูละครการแสดง

59. มอบจักรยาน ลูกฟุตบอล แทนพวงหรีดในงานศพ เพื่อเจ้าภาพจะได้นำไปมอบให้เด็กในโรงเรียนชนบท หรือมอบผ้าไตรแทนพวงหรีดในงานศพ เพื่อเจ้าภาพจะได้นำไปถวายพระ

60. ชดใช้หนี้ให้ลูกน้องหรือเพื่อนร่วมงานที่มีหนี้สินล้นพ้นตัว หรือให้ยืมเงินไม่เสียดอกเบี้ย โดยหวังจะให้เขามีกำลังใจในการสู้ชีวิตและทำงานที่เป็นประโยชน์ต่อไป



ช่วยเหลือคนที่ไม่รู้จัก

61. ช่วยทุกคนที่ประสบความยากลำบาก มีปัญหา มีความทุกข์ เช่นคนหลงทาง คนกำลังหิว คนที่ประสบอุบัติเหตุ

62. ส่งเงินและสิ่งของไปช่วยคนที่ประสบสาธารณภัย

63. บอกเดือนสิ่งผิดปกติของคนอื่น เช่น ยางรถแบน ซิปกางเกงไม่ได้รูด

64. ช่วยจับประตูที่เปิดเดินออกไปแล้ว เพื่อไม่ให้ตีคนที่กำลังตามมาข้างหลัง

65. ช่วยชี้ทาง นำทาง ให้คนต่างถิ่นที่มาถามทาง หากอยู่ใกลๆ พอนำไปส่งได้จะวิเศษมาก

66. ช่วยคนที่กำลังหาของที่หาย หรือเมื่อเก็บของได้ก็ส่งคืนเจ้าของ

67. ช่วยถือของให้คนที่หอบของพะรุงพะรัง (แต่ควรระวังอย่าถือของให้คนไม่รู้จักที่นำมาฝาก เพราะอาจมีของที่ขโมยมา หรือยาเสพติดอยู่ในถุง)

68. ช่วยคนที่กำลังจะเอื้อมหยิบของบนชั้นสูงไม่ถึง

69. ช่วยเข็นรถยนต์ของคนอื่นที่เครื่องเสีย ต้องหลบเข้าข้างทาง

70. หาดอกไม้หรือของไปฝากคนป่วยที่ไม่รู้จัก ไม่ค่อยมีคนมาเยี่ยม

71. ช่วยนำคนเจ็บหรือผู้ประสบอุบัติเหตุส่งโรงพยาบาล

72. ช่วยผายปอดคนตกน้ำ

73. ช่วยแนะนำหางานให้คนที่ตกงาน

74. แนะนำวิธีประกอบอาชีพ หรือฝึกอาชีพให้คนที่ต้องการอาชีพ

75. จัดงานเชิญเด็ก คนชรา คนพิการ มาสนุกสาน หรือพาไปเที่ยวในวันสำคัญ ... เดินทางไปเยี่ยมบ้านคนชรา บ้านเด็กกำพร้า หรือเด็กพิการ เพื่อเลี้ยงอาหาร และนำของไปเยี่ยม เน้นผู้ที่ไม่ค่อยมีคนมาเยี่ยม

76. ไปเยี่ยมบ้านแรกรับเด็กอ่อน บ้านราชวิถะ บ้านกรุณา บ้านมุทิตา บ้านอุเบกขา เพื่อเด็กที่ขาดผู้อุปการะ หรือ เด็กที่เคยกระทำความผิดซึ่งไม่ค่อยมีคนมาเยี่ยม

77. ช่วยป้องกันหรือห้ามปรามคนที่กำลังทะเลาะวิวาท หรือจะทำร้ายกัน แต่ต้องระวังลูกหลงด้วย

78. สนับสนุนช่วยเหลือหน่วยงานที่สร้างประโยชน์ต่อสังคม

79. จัดกลุ่มอาสาสมัครช่วยทำงานส่วนรวมนอกเหนือหน้าที่ปกติ

80. สนับสนุนช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสทางสังคม เช่นบริจาคเงินหรือเวลาช่วยมูลนิธิต่างๆ



ยอม/เสียสละ/ให้

81. เมื่อเข้าห้องน้ำ ควรหยิบกระดาษเช็ดอ่างน้ำ หรือเช็ดที่นั่งส้วมให้สะอาดก่อนออกไป เพื่อให้คนที่มาใช้ทีหลังจะได้เข้าห้องน้ำสะอาด

82. เมื่อเข้าคิวกดเงิน จ่ายเงิน ถ้าไม่รีบร้อนนัก เชิญให้คนที่รอข้างหลังที่รีบไปก่อน

83. เมื่อขับรถติดอยู่แต่ไม่เร่งรีบมากนัก โบกมือยอมให้คันหลังที่รีบเร่งกว่าแทรกเข้าหน้าไปได้ก่อน

84. เมื่อเข้าคิวห้องน้ำ ยอมให้คนข้างหลังที่ปวดมากกว่าได้เข้าไปก่อน

85. ออกเงินซื้ออาหาร ให้ขอทานที่หิวโซ

86. ออกเงินให้คนที่ไม่มีเงินหยอดโทรศัพท์สาธารณะ หรือเข้าห้องน้ำสาธารณะ

87. หาของขวัญปีใหม่ หรือของขวัญวันเกิดให้คนที่ไม่เคยได้รับอะไรเลยเมื่อปีก่อน

88. ส่งของขวัญให้คนที่เห็นแก่ตัวไม่คิดถึงคนอื่น โดยไม่ให้รู้ว่าใครส่งมา

89. ให้ความเห็ฯใจ ปลอบใจ คนที่กำลังมีความทุกข์ กลุ้มใจหาทางออกไม่ได้

90. บริจาคโลหิต ดวงตา อวัยวะ หรือเงิน ให้สภากาชาดไทย หรือโรงพยาบาลต่างๆ และชวนให้คนอื่นบริจาคด้วย



มีความเกรงใจ

91. เมื่อโทรศัพท์ถึงใคร ควรถามว่าเขากำลังยุ่งอยู่หรือเปล่า ถ้าเขากำลังมีธุระควรถามว่าจะให้โทรกลับอีกเมื่อไหร่

92. เมื่อมีคนโทรศัพท์มาถึงและฝากหมายเลขไว้ ควรรีบโทรกลับทันทีเมื่อสะดวก

93. ไม่ขอหรือยืมเงิน ของรักของหวงของเพื่อน หรือ ของที่อาจทำให้เพื่อนลำบากใจ

94. เมื่อยืมของจากผู้ใด ต้องรีบคืนทันทีเมือเสร็จงาน ไม่ต้องรอให้ทวง



น้ำใจของเด็กเล็ก

95. ยิ้มหวาน และพูดเพราะกับทุกคน

96. ทักทาย ไหว้ สวัสดีผู้ใหญ่อย่างเหมาะสม

97. เก็บเสื้อผ้า และของเล่นในห้องตนให้เรียบร้อย ไม่ต้องให้คนอื่นมาตามเก็บให้ ทำเตียงตัวเอง กวาดห้องตัวเอง

98. รักษาความสะอาดห้องน้ำ ทิ้งขยะลงถัง ไม่ทิ้งสิ่งสกปรกลงพื้น ถนน หรือแม่น้ำ

99. ช่วยทำงานบ้าน

100. มอบน้ำใจให้ทุกคนในบ้าน เช่น ยกน้ำให้คุณพ่อ แบ่งขนมให้น้อง เล่นกับน้อง สอนน้องทำการบ้าน

101. ยอมให้พ่อดูข่าวโทรทัศน์ขณะที่ตนอยากดูการ์ตูน

102. ร้องเพลง อ่านหนังสือพิมพ์ นวดขา ให้คุณย่าคุณยาย

103. เขียนจดหมายพร้อมส่งรูปถ่ายไปให้ญาติผู้ใหญ่

104. ช่วยปลอบเพื่อนที่ร้องไห้ หรืออยู่ในภาวะเสียใจ

105. พาเพื่อนที่ไม่สบายไปห้องพยาบาล

106. แบ่งขนมให้เพื่อน เพื่อกินด้วยกัน

107. ช่วยคุณครูยกสมุดการบ้านไปห้องพักครู

108. ตั้งใจทำตัวเป็นเด็กดีที่มีน้ำใจ



ในเว็บลงข้อมูลไว้ว่า เรียบเรียงข้อมูลจาก http://www.thaiparents.com/ ที่มาข้อมูล : หนังสือ "108 วิธี มอบน้ำใจให้แก่กัน" ... เอามาพิมพ์ใหม่ ตัดทอนบางข้อที่ยาวไปให้สั้นลงบ้างนะคะ ถ้าเจอสะกดผิด พิมพ์พลาดขอรับผิดเต็มๆ ค่ะ



บางข้ออ่านดูแล้วก็คล้ายๆ กัน บางข้ออ่านแล้วก็งงๆ ว่าจะทำได้เหรอ ควรจะทำจริงเหรอ ... แต่ก็มีหลายข้อที่ทำง่ายๆ เป็นเรื่องใกล้ๆ ตัว หยิบยื่นน้ำใจเล็กๆ น้อยๆ ให้กันค่ะ



บางข้อก็เคยทำ หรือทำเป็นประจำ ที่ชอบมากคือ โบกมือส่งยิ้มทักทายให้เด็กๆ ในรถข้างเคียงค่ะ ส่วนบางข้อที่ไม่เคยทำก็จะลองทำดูค่ะ ... เวลาได้รอยยิ้มส่งกลับมานี่ ชื่นใจจริงๆ ค่ะ

5 ความคิดเห็น:

l0veisl0ve กล่าวว่า...

หลายๆ ข้อ ทำอยู่เป็นประจำค่ะ

แต่บางข้อ ถึงอยากทำ ก็ไม่กล้า กลัวคนหาว่าประหลาด....แหะ แหะ ^^

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

อ่านแล้วปลื้มใจ มีหลาย ๆ ข้อที่ทำเป็นประจำ แต่มีข้อ 84 ที่เราเคยพลาดไปแล้ว ตอนเข้าห้องน้ำที่ตึก RS อันนั้นมันแบบว่า...ช่วยไม่ได้จริง ๆ

big_birdy

Wadee กล่าวว่า...

ขอบคุณค่ะคุณตั๊ก
หนูจะยิ้มบ่อย ๆ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

จะพยายามทำทุกข้อ แต่ไม่รู้้ข้อนี้จะทำได้ป่าวค่ะ

"ช่วยคนที่กำลังจะเอื้อมหยิบของบนชั้นสูงไม่ถึง"

เพราะคิดว่าคงไม่ถึงเหมือนกัน.....

Jerrie กล่าวว่า...

ทำได้หลายข้ออยู่เหมือนกัน
มีอยู่ข้อนึงที่ไม่เคยทำ แต่พออ่านเจอแล้วอยากทำทันที

70. หาดอกไม้หรือของไปฝากคนป่วยที่ไม่รู้จัก ไม่ค่อยมีคนมาเยี่ยม

เอาไว้จะลองทำดูนะคับ

คิก คิก

แสดงความคิดเห็น