27.12.53

ตามหาลมหนาว เขาค้อ-เชียงคาน #3

ย้อนดูกิจกรรมเมื่อวานได้ ที่นี่ ค่ะ


อรุณสวัสดิ์ เชียงคาน ... เป็นการมาเที่ยวที่ตื่นเช้าอีกวัน เพราะเราตั้งใจจะมาใส่บาตรข้าวเหนียวค่ะ ... การใส่บาตรข้าวเหนียวเป็น 1 ในกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวที่มาเมืองเชียงคานไม่ควรพลาด ... ถ้าพลาดไม่ได้ทำเรียกว่ามาไม่ถึงเชียงคานค่ะ


ปกติตามธรรมเนียมของคนเชียงคานจริงๆ จะใส่บาตรเฉพาะข้าวเหนียว เหมือนที่ลาวนะคะ ... แต่เพราะมีนักท่องเที่ยวต่างถิ่นไปนี่หล่ะค่ะ ถึงได้มีอาหาร และขนมมาให้ใส่เพิ่มด้วย ... ตามที่พักและร้านค้าต่างๆ มีบริการจัดชุดใส่บาตรให้ค่ะ ติดต่อได้เลย


ได้ชุดใส่บาตรแล้วก็ไปนั่งรอบนเสื่อที่ชุมชนปูไว้ได้เลยค่ะ ... ใกล้ๆ กับจุดที่เรานั่งรอมีแม่ค้ามาทอดข้าวจี่ขาย กลิ่นหอมหวลยั่วยวนเหลือเกิน คนดีเลยลุกไปซื้อมาลองชิม ... อร่อยยยยยยยยยยยยยยยย ... ถ้าใครไปเที่ยวเชียงคาน แล้วตื่นมาใส่บาตร และได้ทำเลแถว ซ.16 ถ้าเจอร้านข้าวจี่ทอด ให้ซื้อชิมนะคะ อย่าพลาด


ใส่บาตรเรียบร้อย ท้องเริ่มร้อง กำลังวางแผนว่าจะไปหาอะไรหม่ำดี ก็กลับมาเจอร้านอาหารอยู่หน้าบ้านพักเลย ... ลองชิมสักหน่อยแล้วกัน


ที่เห็นนี่คือ ข้าวปุ้นน้ำแจ่ว อาหารพื้นเมืองของเชียงคานค่ะ ... เป็นขนมจีนเส้นสด ใส่น้ำซุป เนื้อหมู เครื่องใน คล้ายๆ กับต้มเลือดหมูค่ะ ... ด้วยความที่เราไม่รู้ว่าเลือกใส่เฉพาะอย่างได้ พอนั่งทานไป เห็นมีคุณป้าบ้านใกล้ๆ เดินมาทานก็ใส่แค่บางอย่าง สักพักมีสาวน้อยมา ก็ใส่เฉพาะเส้นกับเนื้อหมู ไม่โรยผัก


ร้านนี้รับประกันความอร่อย โดยแม่ค้าร้านส้มตำกุมารทองที่เราไปทานเมื่อวานค่ะ ... ร้านนี้ชื่อ ข้าวปุ้นน้ำแจ่วป้านาง ขายอยู่ในซอย 16 ขายตั้งแต่ 6 โมงเช้า ราวๆ 10 โมงก็หมดแล้วค่ะ ... นอกจากร้านนี้ยังมีอีกหลายร้านที่ขายข้าวปุ้นน้ำแจ่วนะคะ ใครไปเชียงคาน ลองหาชิมค่ะ


ท้องอิ่มแล้วก็กลับเข้าห้องพัก งีบสักนิด ก่อนจะตื่นมาอาบน้ำแต่งตัว เตรียมออกไปตะลอนทัวร์กันค่ะ ... ตามแผนที่วางไว้ กะว่าจะเช่าจักรยาน ปั่นทั่วเมืองไหว้พระ 9 วัด ... แต่พอเดินไปเช่าจักรยานพี่ที่ร้านแนะนำว่า ให้ปั่นไปเที่ยวแก่งคุดคู้เลย


จริงๆ มีแผนจะไปแก่งคุดคู้เหมือนกันค่ะ แต่กะว่าจะขับรถไปช่วงบ่ายๆ หลังจากตระเวนไหว้พระเสร็จแล้ว ... แต่พอพี่เค้าแนะนำก็เลยสนใจ เพราะตอนนั้นสิบโมงนิดๆ อากาศยังเย็นสบาย เราสองคน ใส่เสื้อแขนยาว มีแว่นกันแดด หมวกพร้อม ... พี่เค้าบอกว่าแต่งตัวพร้อมแล้ว ไปเหอะ


เอ้าไปก็ไป ลองดู พี่เค้าบอกว่าระยะทางไม่ไกล ราวๆ 3 กิโล ... คิดซะว่าปั่นจักรยานออกกำลังกายแล้วกัน


แม้อากาศจะสบาย มีลมเย็นๆ พัดมา แต่ว่าแดดก็เปรี้ยงงงงงงงงง แม้จะใส่แขนยาวก็รู้สึกได้ว่าแดดเผาแขนซะแสบผิว ... ปั่นจักรยานเลาะริมถนนไป แล้วไปเลี้ยวเข้าซอย แล้วปั่นต่อไปอีกยาว


พอเห็นป้าย แก่งคุดคู้ แล้วดีใจ๊ ดีใจค่ะ ... หาที่จอดจักรยาน แล้วลงไปเดินพัก เพราะเมื่อยก้นจะแย่ เดินไปชมวิวแก่งหิน ถ่ายรูป ... พี่ร้านเช่าจักรยานแนะนำว่าให้ทานอาหารกลางวันที่นี่เลย ตอนได้ยินก็คิดว่าจะล่องเรือชมวิว แล้วค่อยทานมื้อเที่ยง ... แต่พอคิดดีดี ถ้าล่องเรือก็ร่วมชั่วโมง กินข้าวอีก กว่าจะเสร็จคงบ่ายต้นๆ แดดยิ่งแรง กว่าจะปั่นจักรยานกลับไปถึงคงแขนไหม้ ... เลยเปลี่ยนใจ ชวนกันเดินซื้อของฝาก แล้วก็ปั่นกลับเข้าตัวเมืองกันค่ะ


ของฝากขึ้นชื่อของที่นี่คือ มะพร้าวแก้ว ค่ะ มีให้เลือกมากมายหลายร้าน และมีให้เลือกหลายเกรด เลือกซื้อตามชอบใจค่ะ ... ใครชอบนิ่มๆ เลือกเกรด A แต่ถ้าใครชอบแบบเนื้อแข็งหน่อยก็เลือกเกรด B ค่ะ


ปั่นจักรยานกลับเข้าตัวเมือง เอาประดาของฝากที่ซื้อมาไปเก็บที่พัก แล้วออกมาปั่นจักรยานไหว้พระกันค่ะ ... ในเมืองเชียงคานมีวัดเยอะมากกกกกกกกก แต่ละวัดมีศิลปะที่แตกต่างกันไป ทั้งแบบล้านนา ล้านช้าง และแบบผสมผสาน ระหว่างล้านนากับรัตนโกสินทร์


การเข้าไปกราบพระในโบสถ์ แล้วนั่งนิ่งๆ ชมศิลปะและความงามของโบสถ์แต่ละแห่ง ... ทำให้ใจสงบ และเย็นได้จริงๆ นะคะ


ระหว่างตะลอนไหว้พระ ก็ต้องเติมพลังให้มีแรงปั่นจักรยานด้วยค่ะ ... แล้วที่เชียงคานก็มีอาหารพื้นเมือง ที่น่าลองเยอะซะด้วย


จานแรกคือ จุ่มนัวยายพัด หน้าตากับรสชาติคล้ายสุกี้ค่ะ เพียงแต่เราเลือกได้ว่าจะเอาเส้นอะไร จะเป็นเส้นหมี่ เส้นใหญ่ เป็นมื้อเบาๆ สบายท้อง ... จานต่อมา ข้าวเปียก เราตั้งใจไว้เลยว่าจะต้องชิมให้ได้ เพราะส่วนตัวชอบก๋วยจั๊บญวนค่ะ จานนี้เหมือนกันเลย แต่ของร้านนี้ น้ำซุปกลมกล่อม แล้วเส้นก็นุ่มเหนียวเคี้ยวมัน ... อร่อยขนาดที่คนดีตักคำแรกเข้าปากแล้วตาโตเป็นไข่ห่าน และร่ำร้องอยากจะมากินอีก


ราวๆ บ่ายสามโมง เราสองคนก็เหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าเกิน ... กลับเข้าที่พัก ของีบชาร์จพลังสักหน่อย


พอใกล้ๆ ห้าโมงเย็น ก็ออกมาเดินสำรวจตลาดกันค่ะ ออกมาถ่ายรูปเล่น พร้อมหมายตามื้อเย็นของวันนี้ ... ร้านของฝาก ร้านของที่ระลึก ร้านเสื้อผ้า ร้านกาแฟ ที่เชียงคาน มีมุมให้ถ่ายรูปเล่นได้ตลอดทาง ... ชื่อร้านส่วนใหญ่ก็เกี่ยวกับ เลย คาน นี่หล่ะค่ะ


แต่ที่เป็นเอกลักษณ์ของเชียงคาน ก็คือ บ้านโบราณที่คนดีไปยืนถ่ายรูปด้วยนั่นหล่ะค่ะ ... เป็นบ้านที่เก่าแก่ที่สุดในย่านนี้ เป็นการผสมผสานระหว่างศิลปะของฝรั่งเศสกับลาว ด้านล่างเป็นปูนก่ออิฐฉาบเรียบ ด้านบนเป็นไม้สาน แล้วฉาบด้วยปูนขาว ... ดูสวย และขลัง


เดินเล่นแล้ว ก็ได้เวลาหม่ำค่ะ ... คนดีติดใจ หมูย่างนมสด จากที่ได้ชิมเมื่อวานจนหมายใจว่าจะต้องกินให้ได้ แล้วจับคู่กินกับ ข้าวจี่ แทนข้าวเหนียวนึ่งแบบธรรมดา ... ส่วนเราติดใจ ขนมปังบาแกตต์ สอดไส้ที่ได้ลอง พอเดินผ่านเห็นร้านเพิ่งเปิดก็จองกับแม่ค้าไว้ทันที


หมูย่างน้ำจิ้มแซ่บ ที่เห็นในรูปนี่ น้ำจิ้มแซ่บเด็ดขาดจริงๆ ค่ะ เนื้อหมูก็นุ่ม ... ส่วน ผัดไทย ก็ใช้ได้ ถ้ารสเข้มกว่านี้อีกหน่อยจะเริ่ดมากก ... นอกจากที่เห็นนี่ยังมีอีกหลายเมนูที่ลองชิมค่ะ ชิมกันเยอะ จนครูแดงเจ้าของโฮมสเตย์ทักว่ากินกันเก่งจริงๆ


อิ่มพุงเต่งมากกกกกกกกกกกกกกก ถ้าอยู่เชียงคานสักอาทิตย์คงตัวฟูหนานุ่มกว่านี้แน่ๆ ... กินอิ่มๆ อากาศสบายๆ จะมีอะไรดีกว่า เอนหลังอ่านหนังสือ แล้วเตรียมตัวเข้านอน


วันพรุ่งนี้ วันสุดท้ายแล้ว โปรแกรมจะเป็นยังไง รอติดตามนะคะ

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น