19.9.51

ร่องรอยที่ระลึก

เกือบ 2 ปีก่อนเคยตกฟุตบาธเท้าพลิกจนเดินเดี้ยงไปหลายเดือน พอหายดีก็ระวังตัวเองเวลาขึ้น-ลงบันได เพราะรู้สึกว่าสักวันคงจะต้องตกบันไดที่ไหนแน่ๆ ... หลังจากนั้นก็มีคำเตือนจากพี่หมอดูให้ระวังบันได ระวังเข่า ข้อเท้า พอได้ยินก็ยิ่งระมัดระวังเวลาเดินขึ้น-ลงบันไดมากขึ้น เตือนตัวเองอยู่ตลอด


แต่แล้วก็พลาดจนได้ ...


วันแรกของการเดินทางไปหัวหิน แวะไปไหว้พระ ตอนคนดีจอดรถก็มองเห็นแม่ชีเช็ดพื้นอยู่ตรงประตูโบสถ์ ก็คิดว่าท่านคงมาเช็ดละอองน้ำฝน ... เก็บข้าวเก็บของเรียบร้อยก็จูงกันเดินขึ้นบันไดปูนไปโบสถ์


ถอดรองเท้า ก้าวเท้าขึ้นบันได 2-3 ขั้น ก้าวเท้าข้ามธรณีประตูที่นูนขึ้นมา ก้มมองเห็นว่ามีช่วงธรณีประตูที่เป็นพื้นไม้อยู่ราวๆ คืบ ... เลยคิดว่าไหนๆ ก็ก้าวแล้ว ขาก็ยาวพอ งั้นก็ก้าวข้ามให้พ้นไปเลยแล้วกัน


พอวางเท้าซ้ายแตะลงบันไดที่เป็นหินขัด ก็ใจหายวาบ ... พอปลายนิ้วแตะปุ๊บ เท้าก็ไถลทันที เท้าซ้ายไถลลื่นยืดเหยียดยาวลงบันได 2 ขั้นไปทันที ... พอเท้าซ้ายไถล เท้าขวาก็ยวบย่อ เสียหลัก ทรุดลง แล้วก็เซไปหาคนดีที่ยืนอยู่ทางขวา ที่พยายามจะช่วยดึงแต่ก็เอาไม่อยู่


เราคนลื่นก็อุทาน "ตายแล้ว ตายแล้ว" คนดีที่พยายามช่วยก็อุทาน "เฮ้ย ไฮ้" หลวงพี่ที่จัดเตรียมของในตู้ที่อยู่ด้านในโบสถ์ก็ร้อง "คุณโยม คุณโยม" ประสานเสียงกันเอิกเกริก ... โชคดีที่ใส่กระโปรงยาวบาน เลยไม่โป๊


พอตั้งตัว ตั้งสติ ยืนได้แบบไม่บุบสลาย หลวงพี่ก็ถามว่าเจ็บตรงไหนบ้างรึเปล่า ไม่เจ็บ ไม่ขัดยอก กวาดตาดูก็ไม่มีแผล ไม่ถลอก ... หลวงพี่เดินมาดู และบอกให้เดินระวัง เพราะแม่ชีเพิ่งถูพื้น บิดผ้าไม่หมาดพอพื้นเปียกแถมพื้นสีเข้มเลยมองไม่เห็นว่าเปียก ... ที่เห็นแม่ชีแล้วคิดว่าท่านมาเช็ดละอองฝน เป็นอันผิด เพราะท่านเพิ่งถูพื้นเสร็จเลย


พอแม่ชีกลับมาถูพื้นต่อ หลวงพี่ก็เอ็ดนิดหน่อยว่าเตือนแล้วให้บิดผ้าให้หมาด เพราะเราลื่นไถลพรืดไปเมื่อตะกี้ ... ท่านก็มาถามว่าเป็นอะไรรึเปล่า แล้วพอถูพื้นเสร็จก็เปิดพัดลมตัวใหญ่ช่วยเป่าให้พื้นแห้งเร็วขึ้น ... เข้าใจว่า ท่านเพิ่งถูพื้นเสร็จหมาดๆ เรามาถึงค่อนข้างเร็ว พื้นเลยยังไม่ทันแห้ง เลยลื่นไถลให้ตื่นเต้นกันสักหน่อย


ไหว้พระ ถวายสังฆทานเรียบร้อย นั่งรถเตรียมไปจุดหมายต่อไป ก็รู้สึกเจ็บๆ เข่า เลยเปิดกระโปรงดู ... โอ๊ะ ผิวแดงๆ เขียวๆ ช้ำหน่อยๆ ที่ลื่นพรืดเมื่อกี้ ได้ร่องรอยที่ระลึกกลับมาด้วยเหรอ



วันรุ่งขึ้นจากแดงๆ เขียวๆ ก็เป็นอมม่วงอมแดงอมเขียว ... จนกลับมาถึงกรุงเทพฯ ก็ยังมีร่องรอยหลงอยู่นิดหน่อย


แต่ที่เพิ่มมาจากเข่าคือ หลังเท้าไล่ขึ้นมาจนถึงหน้าแข้งที่เจ็บเพิ่มขึ้น ตอนแรกไม่เจ็บ ... มาเริ่มเจ็บนิดๆ ตอนที่อาบน้ำ และรู้ที่มาของอาการเจ็บตอนทาโลชั่น เพราะลูบไปแล้ว แปล๊บๆ นิดๆ ... เลยได้สำรวจจริงจัง ว่ามีร่องรอยจากการลื่นเพิ่มมาอีก


วันแรกก็เห็นไม่ชัด แดงๆ นิดหน่อย ... แต่พอกลับมาถึงกรุงเทพฯ ถึงได้เห็นว่า ร่องรอยที่ได้มานั้น สีสวยไม่เบา เสาร์นี้ก็ครบ 1 สัปดาห์พอดี สีของร่องรอยที่ระลึกก็ยังสวยงามอยู่


เอาไปโชว์สาวๆ ที่ออฟฟิศ พร้อมเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มีแต่คนขำ ... เล่าไปก็ขำตัวเองเหมือนกัน ว่าทำพระสงฆ์ตกอกตกใจแต่เช้า ดีนะยังแค่ช้ำ ไม่หัก ไม่ร้าว ไม่งั้นคงมีวีรกรรมระหว่างทริปให้จำไม่รู้ลืม

7 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ทำไมรอยมันเป็นแบบนั้นล่ะ

ทำบุญเผื่อเราป่าว

l0veisl0ve กล่าวว่า...

โอ๊ย ตายแล้ว

รองร่อยที่เพิ่งรู้ตัวว่ามีน่ะ น่ากลัวมากเลยค่ะ

ยังกะลายหินอ่อนแน่ะ

ทีหลังคงต้องระวังกว่านี้แล้วละค่ะ^^

natjaoka กล่าวว่า...

^^_____________^^

โห... อาทิตย์นึงแล้วนะคะน่ะ

ยังไงถ้ายังไม่หาย พยาบาลแนทขอแนะนำ reparil ค่ะ หลอดเขียวๆ จะได้หายไวขึ้นน๊า

หรือถ้าที่บ้านมียานวดแก้ปวดกล้ามเนื้อแบบเจลก็ใช้ได้เหมือนกันนะคะ แค่หายช้ากว่ากันหน่อยเดียว

natjaoka กล่าวว่า...

^^_____________^^

แวะมาอีกรอบ ตะกี้ลืมถามค่ะว่า

ตรง My Box ของคุณตั๊กต้องเข้าไปตั้งค่าที่ไหนคะ ถึงจะแยกหมวดหมู่แบบนั้นได้ค่ะ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

รอยน่ากลัวยังกะโดนคุณนกกัด



ก๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก



ทาฮิวดูดอย ช่วยลดรอยช้ำได้ดีนักแลค่ะ



+++ ^______________________^ +++

【องค์เคโระ】 กล่าวว่า...

จากแดงเป็นเขียว จากเขียวเป็นม่วง

งืมม..หายไวไวน๊ะ

wawine กล่าวว่า...

โอ้โห เป็นเยอะเหมือนกันนะคะ ต้องหมั่นทายาบ่อยๆ นะคะ จะได้หายช้ำไวๆ

เป็นคนชอบสะดุดโน่นนี่เหมือนกันค่ะ จะขึ้นลงบันไดทีไร ต้องเกาะคนข้างๆ ไว้ก่อน ไม่งั้นมีลื่นปรื๊ด ลื่นปรื๊ด ทุกที

เมื่อวานก้อเพิ่งไปลื่นที่เอ็มโพเรี่ยมมาค่ะ แต่ดีที่ไม่ล้มอ่ะ Y_Y

แสดงความคิดเห็น