ที่ออฟฟิศจัดทริปพาพนักงานเที่ยวเป็นประจำทุกปี มีทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ... 2 ปีหลัง เป็นทริปต่างประเทศ บาหลี-อินโดนีเซีย, เซี่ยงไฮ้-จีน ... ปีนี้สาวๆ เลยฝัน และเฝ้ารอว่านายจะพาไปเที่ยวที่ไหน ทั้งลุ้นและเดาไปต่างๆ นาๆ
ข่าวลือกระเซ็นลอยมาตั้งแต่ต้นปีว่าน่าจะเป็น "เกาหลี" แต่ยังไม่มั่นใจเพราะนายยังไม่ได้เอ่ยปาก ... 2-3 เดือนก่อน นายก็ให้ติดต่อขอโปรแกรมจากทัวร์ ข่าวลือเลยเริ่มชัดเจนขึ้น ... จนเมื่อสัปดาห์ที่แล้วข่าวลือก็กลายเป็นข่าวจริง สรุปว่าปีนี้นายพาไปเที่ยวเกาหลีแน่ๆ
พอข่าวลือชัดเจนเป็นข่าวจริง สาวๆ ในออฟฟิศก็กระดี๊กระด๊าร่าเริงสุดพลัง ... คนที่อายุงานเกิน 1 ปีก็ร่าเริงเต็มที่เพราะได้ไปสบายๆ ออฟฟิศจ่ายให้ แต่สมาชิกใหม่ที่ยังไม่ได้สิทธิ ก็สนใจอยากจะไปด้วย จ่ายเองก็ยินดี ... นับจากวันนั้นก็จะมีเรื่องเกี่ยวกับเกาหลีแทรกอยู่ในทุกๆ การพูดคุย เห่อกันสุดๆ เพราะไม่มีสาวๆ คนไหนเคยไปเกาหลีเลย คุยกันทุกเรื่องที่เกี่ยวกับการเตรียมตัวเที่ยว
ดินฟ้าอากาศ กับ เสื้อผ้า ... คุยกันเรื่องดินฟ้าอากาศ เพราะอยากรู้ว่าอุณหภูมิประมาณเท่าไหร่ กำลังสบาย เย็น เย็นมาก หรือ หนาว จะได้เตรียมเสื้อผ้ากันไปถูก ... นอกจากเตรียมตัวเพื่อความสบายและอบอุ่นแล้ว ก็เตรียมตัวไปถ่ายรูป เก็บภาพสวยๆ
แลกเงิน กับ ช้อปปิ้ง ... เป็นสองเรื่องสำคัญสำหรับสาวๆ เพราะเทรนด์เกาหลีกำลังอิน ทั้งเสื้อผ้าหน้าผม แล้วออฟฟิศที่มีแต่สาวๆ จะพลาดได้ยังไง ... นั่งคุย นั่งประเมินกันว่า จะพก pocket money ติดกระเป๋ากันไปคนละเท่าไหร่ดี จะแลกตังค์ที่ไหนดี แลกมากไปก็กลัวจะขาดทุนตอนแลกคืน แลกน้อยไปก็กลัวจะไม่พอ
โปรแกรมเที่ยว ... จะได้ไปเที่ยวที่ไหนบ้าง จะต้องทัวร์โรงงานเหมือนเมืองจีนมั้ย จะพาไปแหล่งช้อปปิ้งรึเปล่า จะได้ตามรอยซีรี่ส์เกาหลีเรื่องไหนน้อ ... คิดกันไป คุยกันใหญ่ จนสุดท้ายเราที่ได้โปรแกรมทัวร์มาแล้วก็ต้องเอาโปรแกรมแปะขึ้นบอร์ดไขข้อข้องใจทั้งหลาย
อาหาร ... หลังจากรู้ว่าจะได้ไปเที่ยวที่ไหนแล้ว เรื่องกินก็เป็นอีกเรื่องที่สำคัญ เพราะกองทัพต้องเดินด้วยท้อง แล้วสาวๆ ออฟฟิศนี้ชอบหม่ำของอร่อยกันทั้งนั้น ... ดูจากโปรแกรมก็น่าจะกินได้ แต่จะอร่อยมั้ยต้องลุ้นกันอีกที ที่แน่ๆ หลายคนมีประสบการณ์รู้ว่าต้องตุนของถูกปากติดไปด้วย น้ำพริก น้ำปลา บะหมี่กึ่ง หมูฝอย ต้องมีติดกระเป๋าไปแน่ๆ
โรงแรม ... โปรแกรม 3 คืน 4 วัน จะได้พักโรงแรมอะไร แล้วต้องเปลี่ยนโรงแรมมั้ย เปลี่ยนกี่คืน ... เนื่องจากปีที่แล้วที่ไปจีน ค้าง 4 คืน เปลี่ยน 4 โรงแรม เข็ดขยาดไปตามๆ กัน เพราะต้องรื้อกระเป๋า เก็บกระเป๋าทุกคืน ... คราวนี้ดีหน่อย 3 คืน 2 โรงแรม 2 คืนหลังค้างที่โซล เป็นโรงแรมที่อยู่ไม่ไกลย่านช้อปปิ้งด้วย
ส่วนโรงแรมแรก อยู่ในเมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องน้ำแร่ธรรมชาติ หรือ น้ำพุร้อน ไม่แน่ใจ ... แต่ที่รู้คือ ในโรงแรมมีบริการให้แช่น้ำร้อนได้ แต่ต้องแช่ตามธรรมเนียมเค้า คือ แช่ตัวเปล่าเปลือย ... รู้แบบนี้ก็เกิดเสียงฮือฮา
ถ้าแช่พร้อมคนอื่นก็คงไม่เท่าไหร่ แต่นี้แช่พร้อมกับคนกันเอง เห็นหน้ากันเกือบทุกวัน แล้วต้องมาเปลือยแช่น้ำร้อนด้วยกัน ... โอ๊ย ไม่รู้จะขำ หรือ จะเขินดี ... น้องคนนึง พอรู้ข่าวนี้ก็พูดขึ้นมาทันทีว่า "สงสัยต้องไปทำบราซิลเลี่ยนแว๊กซ์ก่อน" เราได้ยินแล้วสะดุ้ง "เฮ้ย ถ้าทำบราซิลเลี่ยน ก็เกลี้ยงโล่ง เห็นชัดเจนเต็มๆ ตาเลยนะ จะไหวเหรอ" น้องสวนกลับมา "ถ้าปล่อยธรรมชาติรกทึบจะไหวเหรอพี่" ... โอ๊ย คุยอะไรกันลึกซึ้งขนาดนี้เนี่ย เปลี่ยนประเด็นเหอะ
รู้ที่พักแล้วก็ต้องเจาะลึกถึงห้องพัก ... มาคุยกันว่าใครจะนอนกับใคร เพราะพนักงานบางคนมีสัมผัสพิเศษ เจอเรื่องลึกลับที่อธิบายไม่ได้ ระดับตัวพ่อ ตัวแม่ ที่รับคลื่นได้แรงๆ ลาออกไปแล้ว แต่ก็มีบางคนที่พอรับได้วูบวาบเป็นบางครั้ง ... สาวๆ ลองคุยลองจับคู่กันว่าใครจะนอนกับใคร ต้องมาเช็คจำนวนคนว่าใครไปบ้าง มีผู้ติดตามไปมั้ย ตอนนี้จำนวนคนไปยังไม่สรุป ห้องนอนเลยจัดไม่ลงตัวสักที
การเข้าเมือง ... ไม่ต้องขอวีซ่าเข้าเกาหลี เพราะฉะนั้นต้องไปลุ้นกับตม.เกาหลี ว่าจะให้ผ่านเข้าเมืองรึเปล่า แล้วเกาหลีขึ้นชื่อเรื่องกักตัว และส่งกลับซะด้วย ... ทำเอาหนาวๆ ร้อนๆ ไปตามๆ กัน เพราะออฟฟิศมีแต่ผู้หญิง ตอนนี้ไม่มีหนุ่มๆ เลยสักคนเดียว ... พี่ผู้ชายที่จะไปด้วย 2 คน เป็นที่ปรึกษาอายุใกล้ 50 ทั้งคู่ นายเลยหวั่นใจว่าจะผ่านด่านเข้าเมืองกันไปได้ครบทุกคนมั้ย เพราะขาดใครไปสักคนคงไม่สนุก
ภาษาเกาหลี ... เพราะเรื่องการผ่านเข้าเมือง ทำให้สาวๆ คุยกันว่าเราควรจะหัดภาษาเกาหลีไปสักหน่อย เผื่อทักทายเจ้าหน้าที่ตม.ที่โน้น จะได้ดูเป็นมิตร ... แต่ก็มีคนท้วงว่า เจ้าหน้าที่อาจจะเข้าใจผิดคิดว่าเราเตรียมตัวมาทำงานในเมืองเค้ารึเปล่า
ล่าสุดวันนี้มีหัวข้อใหม่ นั่นคือ ชื่อเกาหลี ... สาวคนนึงในออฟฟิศส่งเมล์ถึงสมาชิกทุกคน บอกให้ลองเติมวันเดือนปีเกิดลงไป แล้วจะได้ชื่อเกาหลี ... บ่ายนี้เลยจิ้มเล่นกันอย่างสนุกสนาน เพราะมีทั้งชื่อน่ารัก และ ชื่อแปลกๆ ได้ยินแล้วขำน้ำตาเล็ด ... ส่วนเราได้ชื่อเกาหลีว่า "ฮัน เจ วอน" ดูแม้น แมน
ตอนนี้สาวๆ ในออฟฟิศทุกคน คุยเรื่องพวกนี้วนเวียนกันทุกวัน ... คุยซ้ำเรื่องเดิม วนไปวนมาแต่ไม่มีเบื่อ ยิ่งคุยยิ่งตื่นเต้น กว่าจะเลิกคุยก็คงวันที่ออกเดินทางนั่นแหละ ก็อีกไม่นานแค่เดือนเศษๆ แค่นั้นเอง
ข่าวลือกระเซ็นลอยมาตั้งแต่ต้นปีว่าน่าจะเป็น "เกาหลี" แต่ยังไม่มั่นใจเพราะนายยังไม่ได้เอ่ยปาก ... 2-3 เดือนก่อน นายก็ให้ติดต่อขอโปรแกรมจากทัวร์ ข่าวลือเลยเริ่มชัดเจนขึ้น ... จนเมื่อสัปดาห์ที่แล้วข่าวลือก็กลายเป็นข่าวจริง สรุปว่าปีนี้นายพาไปเที่ยวเกาหลีแน่ๆ
พอข่าวลือชัดเจนเป็นข่าวจริง สาวๆ ในออฟฟิศก็กระดี๊กระด๊าร่าเริงสุดพลัง ... คนที่อายุงานเกิน 1 ปีก็ร่าเริงเต็มที่เพราะได้ไปสบายๆ ออฟฟิศจ่ายให้ แต่สมาชิกใหม่ที่ยังไม่ได้สิทธิ ก็สนใจอยากจะไปด้วย จ่ายเองก็ยินดี ... นับจากวันนั้นก็จะมีเรื่องเกี่ยวกับเกาหลีแทรกอยู่ในทุกๆ การพูดคุย เห่อกันสุดๆ เพราะไม่มีสาวๆ คนไหนเคยไปเกาหลีเลย คุยกันทุกเรื่องที่เกี่ยวกับการเตรียมตัวเที่ยว
ดินฟ้าอากาศ กับ เสื้อผ้า ... คุยกันเรื่องดินฟ้าอากาศ เพราะอยากรู้ว่าอุณหภูมิประมาณเท่าไหร่ กำลังสบาย เย็น เย็นมาก หรือ หนาว จะได้เตรียมเสื้อผ้ากันไปถูก ... นอกจากเตรียมตัวเพื่อความสบายและอบอุ่นแล้ว ก็เตรียมตัวไปถ่ายรูป เก็บภาพสวยๆ
แลกเงิน กับ ช้อปปิ้ง ... เป็นสองเรื่องสำคัญสำหรับสาวๆ เพราะเทรนด์เกาหลีกำลังอิน ทั้งเสื้อผ้าหน้าผม แล้วออฟฟิศที่มีแต่สาวๆ จะพลาดได้ยังไง ... นั่งคุย นั่งประเมินกันว่า จะพก pocket money ติดกระเป๋ากันไปคนละเท่าไหร่ดี จะแลกตังค์ที่ไหนดี แลกมากไปก็กลัวจะขาดทุนตอนแลกคืน แลกน้อยไปก็กลัวจะไม่พอ
โปรแกรมเที่ยว ... จะได้ไปเที่ยวที่ไหนบ้าง จะต้องทัวร์โรงงานเหมือนเมืองจีนมั้ย จะพาไปแหล่งช้อปปิ้งรึเปล่า จะได้ตามรอยซีรี่ส์เกาหลีเรื่องไหนน้อ ... คิดกันไป คุยกันใหญ่ จนสุดท้ายเราที่ได้โปรแกรมทัวร์มาแล้วก็ต้องเอาโปรแกรมแปะขึ้นบอร์ดไขข้อข้องใจทั้งหลาย
อาหาร ... หลังจากรู้ว่าจะได้ไปเที่ยวที่ไหนแล้ว เรื่องกินก็เป็นอีกเรื่องที่สำคัญ เพราะกองทัพต้องเดินด้วยท้อง แล้วสาวๆ ออฟฟิศนี้ชอบหม่ำของอร่อยกันทั้งนั้น ... ดูจากโปรแกรมก็น่าจะกินได้ แต่จะอร่อยมั้ยต้องลุ้นกันอีกที ที่แน่ๆ หลายคนมีประสบการณ์รู้ว่าต้องตุนของถูกปากติดไปด้วย น้ำพริก น้ำปลา บะหมี่กึ่ง หมูฝอย ต้องมีติดกระเป๋าไปแน่ๆ
โรงแรม ... โปรแกรม 3 คืน 4 วัน จะได้พักโรงแรมอะไร แล้วต้องเปลี่ยนโรงแรมมั้ย เปลี่ยนกี่คืน ... เนื่องจากปีที่แล้วที่ไปจีน ค้าง 4 คืน เปลี่ยน 4 โรงแรม เข็ดขยาดไปตามๆ กัน เพราะต้องรื้อกระเป๋า เก็บกระเป๋าทุกคืน ... คราวนี้ดีหน่อย 3 คืน 2 โรงแรม 2 คืนหลังค้างที่โซล เป็นโรงแรมที่อยู่ไม่ไกลย่านช้อปปิ้งด้วย
ส่วนโรงแรมแรก อยู่ในเมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องน้ำแร่ธรรมชาติ หรือ น้ำพุร้อน ไม่แน่ใจ ... แต่ที่รู้คือ ในโรงแรมมีบริการให้แช่น้ำร้อนได้ แต่ต้องแช่ตามธรรมเนียมเค้า คือ แช่ตัวเปล่าเปลือย ... รู้แบบนี้ก็เกิดเสียงฮือฮา
ถ้าแช่พร้อมคนอื่นก็คงไม่เท่าไหร่ แต่นี้แช่พร้อมกับคนกันเอง เห็นหน้ากันเกือบทุกวัน แล้วต้องมาเปลือยแช่น้ำร้อนด้วยกัน ... โอ๊ย ไม่รู้จะขำ หรือ จะเขินดี ... น้องคนนึง พอรู้ข่าวนี้ก็พูดขึ้นมาทันทีว่า "สงสัยต้องไปทำบราซิลเลี่ยนแว๊กซ์ก่อน" เราได้ยินแล้วสะดุ้ง "เฮ้ย ถ้าทำบราซิลเลี่ยน ก็เกลี้ยงโล่ง เห็นชัดเจนเต็มๆ ตาเลยนะ จะไหวเหรอ" น้องสวนกลับมา "ถ้าปล่อยธรรมชาติรกทึบจะไหวเหรอพี่" ... โอ๊ย คุยอะไรกันลึกซึ้งขนาดนี้เนี่ย เปลี่ยนประเด็นเหอะ
รู้ที่พักแล้วก็ต้องเจาะลึกถึงห้องพัก ... มาคุยกันว่าใครจะนอนกับใคร เพราะพนักงานบางคนมีสัมผัสพิเศษ เจอเรื่องลึกลับที่อธิบายไม่ได้ ระดับตัวพ่อ ตัวแม่ ที่รับคลื่นได้แรงๆ ลาออกไปแล้ว แต่ก็มีบางคนที่พอรับได้วูบวาบเป็นบางครั้ง ... สาวๆ ลองคุยลองจับคู่กันว่าใครจะนอนกับใคร ต้องมาเช็คจำนวนคนว่าใครไปบ้าง มีผู้ติดตามไปมั้ย ตอนนี้จำนวนคนไปยังไม่สรุป ห้องนอนเลยจัดไม่ลงตัวสักที
การเข้าเมือง ... ไม่ต้องขอวีซ่าเข้าเกาหลี เพราะฉะนั้นต้องไปลุ้นกับตม.เกาหลี ว่าจะให้ผ่านเข้าเมืองรึเปล่า แล้วเกาหลีขึ้นชื่อเรื่องกักตัว และส่งกลับซะด้วย ... ทำเอาหนาวๆ ร้อนๆ ไปตามๆ กัน เพราะออฟฟิศมีแต่ผู้หญิง ตอนนี้ไม่มีหนุ่มๆ เลยสักคนเดียว ... พี่ผู้ชายที่จะไปด้วย 2 คน เป็นที่ปรึกษาอายุใกล้ 50 ทั้งคู่ นายเลยหวั่นใจว่าจะผ่านด่านเข้าเมืองกันไปได้ครบทุกคนมั้ย เพราะขาดใครไปสักคนคงไม่สนุก
ภาษาเกาหลี ... เพราะเรื่องการผ่านเข้าเมือง ทำให้สาวๆ คุยกันว่าเราควรจะหัดภาษาเกาหลีไปสักหน่อย เผื่อทักทายเจ้าหน้าที่ตม.ที่โน้น จะได้ดูเป็นมิตร ... แต่ก็มีคนท้วงว่า เจ้าหน้าที่อาจจะเข้าใจผิดคิดว่าเราเตรียมตัวมาทำงานในเมืองเค้ารึเปล่า
ล่าสุดวันนี้มีหัวข้อใหม่ นั่นคือ ชื่อเกาหลี ... สาวคนนึงในออฟฟิศส่งเมล์ถึงสมาชิกทุกคน บอกให้ลองเติมวันเดือนปีเกิดลงไป แล้วจะได้ชื่อเกาหลี ... บ่ายนี้เลยจิ้มเล่นกันอย่างสนุกสนาน เพราะมีทั้งชื่อน่ารัก และ ชื่อแปลกๆ ได้ยินแล้วขำน้ำตาเล็ด ... ส่วนเราได้ชื่อเกาหลีว่า "ฮัน เจ วอน" ดูแม้น แมน
ตอนนี้สาวๆ ในออฟฟิศทุกคน คุยเรื่องพวกนี้วนเวียนกันทุกวัน ... คุยซ้ำเรื่องเดิม วนไปวนมาแต่ไม่มีเบื่อ ยิ่งคุยยิ่งตื่นเต้น กว่าจะเลิกคุยก็คงวันที่ออกเดินทางนั่นแหละ ก็อีกไม่นานแค่เดือนเศษๆ แค่นั้นเอง
8 ความคิดเห็น:
มีโปรแกรมที่มหาลัยอาจจะพาไปเกาหลีเหมือนกันเลย แต่ได้ไปก่อนพี่ตั๊กอะ ช่วงเดือนพ.ย.
ปล.ขอบคุณสำหรับคำอวยพรค่า
o_O
โอ้ววววววววววววววววว
ช่างเป็นบริษัทที่น่าเข้าไปทำงานด้วยเจรงๆ
ถ้าเป็นที่ทำงานพิมก็
ปอยเปต ก็ถือว่า บุญแล้วที่ได้ไป
5555+
เคยไปเกาหลีมารอบนึงค่ะ
สงสัยโปรแกรมจะคล้ายๆ กัน
เพราะมีอาบน้ำแร่ด้วย
ตอนนั้นมีหน่วยกล้าตายไปแช่ 2 คนค่ะ หนึ่งในนั้น คือ กี้เอง ส่วนอีกคนเป็นคุณน้าหุ่นดีมากอีกคน
เข้าไปแล้ว เจอกันสองคนแบบไม่เคยคุยกันมาก่อนก็ไม่เขินนะคะ
แต่ถ้าต้องเข้าไปพร้อมคนรู้จัก สงสัยจะเขินมากกก ค่ะ ^^
เคยไปเกาหลีมาครับ แต่เมื่อประมาณ20ปีที่แล้ว - -"(ผมอายุประมาณ5ขงบเด้อ) จำอะไรไม่ค่อยได้ครับ หากมีโอกาสก้อยากไปอีกครั้ง
เรื่องแช่น้ำพุร้อนไม่ต้องกังวลไปครับ เดี๋ยวนี้ได้ยินมาว่าที่ๆนักท่องเที่ยวไปเยอะ เค้าจะมีบริการผ้าถงให้(ต้องเช่า) ก็ยังดีกว่าไมได้ใส่อะไรเลยนะครับนั่น^^
อีกเดือนกว่าจะได้ไปเที่ยวอิจฉาคุณพี่จางงง^^
เป็นไงบ้าง "ฮัน เจ วอน"
เรา "ปาร์ค ซัง บยอง" 박상병 (อ่านว่าไงฟ่ะ)
สบายดี
อยากไปเกาหลีใจจะขาด
ไม่ได้ติด seriesเกาหลีนะคะ
แต่ชอบหนังผีเกาหลี เลยอยากไปดูlocation eiei
ขอให้เที่ยวให้สนุกนะคะพี่ตั๊ก ^^
โอ้ว อ่านแล้วอยากเห็นรูปตอนทีมคุณตั๊กแช่น้ำแร่กันอ่ะค่ะ ว่าจะเป็นเกลี้ยงเกลา หรือรกทึบ ก๊ากๆๆ อย่าลืมถ่ายมาให้ดูนะคะ อิอิ
เที่ยวเผื่อด้วยนะคะ งานนี้รับรองคุณตั๊กได้ขนเครื่องสำอางกลับมาด้วยเยอะแน่ๆ เลยค่ะ
อยากไปด้วยจังเลยค่ะ
แต่ถ้าต้องแช่น้ำร้อนร่วมกัน
นู๋ขอนั่งดูเฉยๆได้ม่ะ?555+
แอบอิจฉาพี่ตั๊กมีโปรแกรมน่าเที่ยวเสมอๆเลย*-*
แสดงความคิดเห็น