Night at the Museum 2

Night at the Museum 2 : Battle of the Smithsonian - ไนท์ แอด เดอะ มิวเซียม 2 มหึมาพิพิธภัณฑ์ ดับเบิ้ลมันส์ทะลุโลก ... หนังภาค 2 ที่เห็นตัวอย่างแล้วอยากดูทันทีค่ะ

เพราะได้ดูภาคแรก พอเห็นตัวอย่างภาค 2 ก็รู้สึกว่าควรจะดู ถ้าไม่ได้ดูเหมือนค้างๆ คาๆ ยังไงพิกลค่ะ ... พอดีกับที่สมาชิกแก๊งค์ลูกหมูก็นึกอยากดูเหมือนกัน เลยกะจะรวมพลไปดูพร้อมกัน แต่มีเหตุขัดข้องทางเทคนิคที่ทำให้ต้องยกเลิกนัดค่ะ

พอรู้ว่าสมาชิกแยกย้ายสลายตัว วันนี้เราเลยชวนคนดีไปดูด้วยกันซะ ก่อนที่จะโดนเทอร์มิเนเตอร์ 4 และหนังที่จะเข้าใหม่เบียดตกโรงไป ... ตอนแรกกะจะไปเอสพละนาดที่ประจำ แต่คนดีติดพันกับงานนุงนังอยู่แถว พารากอน เซ็นทรัลเวิลด์ ... คนดีเลยโทรชวนให้เราเข้าเมืองไปหา

คนดีจองตั๋วหนังรอไว้เรียบร้อย ระหว่างรอเราที่อาศัย MRT และ BTS เดินทางไปหา ... พอขึ้นบันไดเลื่อนไปถึง ก็เจอคนดีมายื่นรอรับอยู่ตรงทางเข้า Zen พอดี ... เอาของไปเก็บที่รถ แล้วแวะหม่ำโอโตยะ อิ่มท้องก็ได้เวลาหนังฉายพอดีค่ะ

(Picture from : http://www.majorcineplex.com/)

เรื่องย่อ

ความสนุกสนานเริ่มขึ้น เมื่อ ลาร์รี่ ดาลี่ (Larry Daley) ตัดสินใจลาออกจากการเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยพิพิธภัณฑ์เงินเดือนน้อย ... ไปเป็นผู้ประดิษฐ์คิดค้นผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ และเป็นเจ้าของบริษัท Daley Devices

แม้ว่าชีวิตจะดูราวกับมีทุกอย่างพร้อมสรรพ แต่เขายังรู้สึกว่า บางสิ่งบางอย่างขาดหายไปจากชีวิตของเขา ... สิ่งที่ดึงให้เขากลับไปสู่วันเวลาที่ถูกวัตถุโบราณตามหลอกตามหลอนเอาล่อเอาเถิด นั่นคือ พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์แห่งชาติ ที่ซึ่งเขาเคยผจญภัยไปกับค่ำคืนสุดมหัศจรรย์ครั้งหนึ่งในชีวิต

ณ ที่แห่ง่นั้นเอง เขาหงุดหงิดเป็นอย่างยิ่งเมื่อพบว่า สิ่งจัดแสดงสุดโปรดของเขา ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นเพื่อนแท้สุดๆ ของเขา ... ล้วนตกยุคไม่เหมาะที่จะนำออกมาตั้งจัดแสดงอีกต่อไป และกำลังถูกบรรจุลงลัง รอคอยการส่งไปอยู่รวมกับบรรดาวัตถุโบราณขึ้นหิ้งทั้งหลาย ที่สถาบันสมิธโซเนี่ยน

ชะตากรรมของโบราณวัตถุเหล่านั้นยังไม่ชัด ... จนกระทั่งลาร์รี่ได้รับโทรศัพท์สุดเครียดจาก เจดีไดอาห์ (Jedediah) หุ่นจำลองคาวบอยร่างจิ๋ว แจ้งให้ทราบถึงหายนะที่กำลังจะเกิดขึ้นอยู่ร่อมร่อ

การผจญภัยครั้งล่าสุดยังปลุกเพื่อนร่วมขบวนการหน้าใหม่ๆ มาร่วมสร้างความมหัศจรรย์ ... ทั้งฟาโรห์ คาห์มูนราห์ (Kahmunrah) ที่หลังจากหลับไหลมากว่า 3,000 ปี พอตื่นขึ้นมาก็เกิดคันไม้คันมือออกอารมณ์ซุกซนสุดๆ ... โดยร่วมมือกับจอมวายร้ายโหดเหี้ยมที่สุดในประวัติศาสตร์ 3 คน คือ อีแวนจอมป่วนเจ้าปัญหา (Ivan the Terrible) , นโปเลียน โบนาพาร์ด (Napoleon Bonaparte) และ อัล คาโปน (Al Capone) ... หมายมั่นปั้นมือว่าจะยึดครองพิพิธภัณฑ์ให้อยู่ในกำมือ แล้วค่อยยึดครองโลก

ลาร์รี่มุ่งหน้าไปยังเมืองหลวงของประเทศ และเผชิญหน้างานใหญ่ที่เห็นชัดๆ อยู่แล้วว่าช่างใหญ่โตเกินความสามารถของเขาเพียงลำพัง ... เขาได้พันธมิตรใหม่ๆ ร่วมผจญภัย ทั้ง ไอน์สไตน์ (Einstein) ลินคอล์น (Lincoln) และ อมีเลีย (Amelis Earhart) ปูชนียบุคคลสาวสาวยที่ทำให้เขาถึงกับอึ้ง และวางตัวไม่ถูก ... และยังเป็นคนที่ทำให้ลาร์รี่ได้คำตอบว่า สิ่งที่ขาดหายไปจากชีวิตของเขา คือความสนุกเฮฮา และการผจญภัยครั้งมหึมานี่เอง

นอกจากนั้น ก็ยังมีคนคุ้นเคย อย่าง รูสเวลท์ (Roosevelt), ออคเตเวียส (Octavius), ซาคาเจวี (Sacajawea), แอ็ททิล่า ชนเผ่าฮั่น (Attila The Hun) และเหล่าสิ่งมีชีวิตก่อนประวัติศาสตร์ ... ลาร์ลี่จะไม่ยอมให้อุปสรรคใดๆ มาขวางกั้นกองกำลังผองเพื่อน ที่ตั้งใจจะช่วยกันจัดระเบียบห้องแสดงผลงานแห่งชาติ ให้กลับเข้าที่เข้าทางก่อนฟ้าสาง

เป็นหนังที่สนุกมากค่ะ ดูเพลิน ดูแล้วตื่นตาตื่นใจไปกับเหล่าวัตถุทั้งหลายในพิพิธภัณฑ์ที่มีชีวิต ... ดูแล้วลุ้นตามไปด้วย เดาไม่ได้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อ แต่เชื่อว่าต้องจบแบบแฮปปี้เอนดิ้ง ... ดูไป ลุ้นไป ขำไป ชอบค่ะ สนุกดี

ตัวละครหน้าใหม่ที่ชอบมากที่สุด ยกให้ ไอน์สไตน์ ค่ะ That's the way (ah-ha, ah-ha) I like it ... โผล่ออกมาแค่ป๊อบแป๊บ แต่ได้ใจสุดๆ ค่ะ น่าร้าก น่ารัก

เป็นหนังที่เด็กดูได้ ผู้ใหญ่ดูดีค่ะ ... นับเป็นหนังภาคต่อที่ไม่ทำให้ผิดหวังค่ะ